นนทบุรี 23 ส.ค. – โลตัสมั่นใจเศรษฐกิจฟื้นตัวจริงเปิดสาขาใหม่เพิ่ม พาณิชย์ยันธุรกิจค้าปลีกเป็นกองหนุนจริง กำชับค้าภายในจังหวัดดูแลสินค้าพื้นที่น้ำท่วมไม่ให้ขาดแคลน พร้อมขอความร่วมมือห้างลดราคาสินค้าจำเป็นหลังน้ำลด
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธานเปิดสาขาที่ 2,000 ของห้างเทสโก้ โลตัส พร้อมระบุว่า ห้างค้าปลีกถือเป็นช่องทางสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก โดยเฉพาะการระบายสินค้าเกษตรที่ห้างโลตัสมีการรับซื้อผลผลิตโดยตรงจากเกษตรเพิ่มขึ้นทุกปี โดยปี 2560 รับซื้อสินค้าเกษตรกว่า 200,000 ตัน จากแหล่งเพาะปลูก 5,100 แห่งทั่วประเทศ และเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าชุมชนทั่วประเทศ ซึ่งการขยายสาขาเพิ่มสะท้อนได้ชัดเจนว่าเศรษฐกิจท้องถิ่นฟื้นตัวขึ้น เพราะสาขาที่เปิดในส่วนภูมิภาคจะยิ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากผ่านการจ้างงานท้องถิ่น ซึ่งสาขาบางกรวย-ไทรน้อยยังได้จัดสรรพื้นที่เป็นตลาดสินค้าชุมชนให้กับผู้ผลิตสินค้ารายย่อย โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ เทสโก้ โลตัส เปิดสาขาที่ 2,000 บางกรวย – ไทรน้อย อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่พัฒนามาเป็นต้นแบบ “สโตร์ 4.0” โดยนำเทคโนโลยีสแกนสินค้า Scan As You Shop จากประเทศอังกฤษที่ลูกค้าสามารถสแกนสินค้าที่ซื้อและแพ็คสินค้าใส่ถุงได้เอง ก่อนจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ เพื่อการช้อปปิ้งที่สะดวกมากขึ้น การชำระเงินผ่าน QR code ที่จะตอบโจทย์สังคมไร้เงินสด เพิ่มกรีนเลน หรือช่องทางชำระเงินพิเศษสำหรับลูกค้าที่ไม่รับถุงพลาสติก มีสัญญาณ WiFi ฟรีสำหรับลูกค้าครอบคลุมทุกบริเวณ ทั้งในศูนย์การค้าและศูนย์อาหาร นอกจากนี้ ยังใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยมีเครื่องรีไซเคิลที่ลูกค้าสามารถนำขวดพลาสติกและกระป๋องรีไซเคิล โดยจะได้รับแต้มกรีนพ้อยท์ 50 แต้มสำหรับขวดและกระป๋องทุกใบ รวมทั้งยังเปิดพื้นที่บริเวณด้านนอกสาขาสร้างเลนปั่นจักรยาน สวนหย่อม และลานออกกำลังกาย เพื่อให้ลูกค้าและประชาชนในชุมชนสามารถใช้ออกกำลังกายและพักผ่อน
นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานกรรมการบริหาร เทสโก้ โลตัส คาดการณ์ว่าในช่วงครึ่งหลังปีนี้กำลังซื้อของภาคประชาชนน่าจะฟื้นตัวได้ดี เชื่อว่าการจับจ่ายใช้สอยจะเริ่มคึกคักมากขึ้น หลังประเมินว่าเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศกำลังอยู่ในภาวะที่ฟื้นตัว หลังครึ่งปีแรกอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจภาพรวมเติบโตสูงในระดับร้อยละ 4.8 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาก็อยู่ในระดับสูงที่สุดในรอบ 62 เดือน
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงการดูแลราคาสินค้าในพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วม ว่า ได้กำชับให้ค้าภายในจังหวัดดูแลสินค้าในพื้นที่ไม่ให้มีการขาดแคลน หรือกักตุน และไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคา ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งจะมีโทษหนัก ขณะเดียวกันการดูแลประชาชนหลังน้ำลดก็มีความสำคัญ จึงมีแผนเตรียมเชื่อมโยงสินค้าไปจำหน่ายในพื้นที่ผ่านโครงการธงฟ้าราคาประหยัด เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งขอความร่วมมือทั้งห้างสรรพสินค้าสินค้า ลดราคาสินค้าที่จำเป็นหลังน้ำลด เช่น อุปกรณ์ทำความสะอาด รวมถึงสินค้าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น เพื่อช่วยบรรเทาค่าครองชีพ .-สำนักข่าวไทย