เตือนคลินิกความงาม นำเข้าหมอเกาหลี ต้องขออนุญาต

กรุงเทพฯ18 ก.ย.-สบส.เตือนคลินิกเสริมความงามที่นำเข้าหมอจากเกาหลี หรือต่างประเทศดึงดูดลูกค้าใช้บริการ  ไม่ขออนุญาต-สอบ  ผิดกฎหมาย เข้าข่ายใช้หมอเถื่อน มีโทษทั้งหมอเถื่อน-ผู้ดำเนินการ  


 

น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์  อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข  ให้สัมภาษณ์ว่า  กรณีที่คลินิกเสริมความงามมีการนำศัลยแพทย์เชี่ยวชาญด้านความงามจากต่างประเทศ เช่น เกาหลีเข้ามาให้บริการในคลินิก ไม่ว่าจะประจำหรือไม่ประจำ  ต้องดำเนินการให้ถูกกฎหมาย โดยแจ้งขออนุญาตกับ กรม สบส.และสอบใบประกอบวิชาชีพเพื่อประกอบวิชาชีพในประเทศไทยให้ได้ก่อน จึงจะมีสิทธิ์ให้การรักษา


 

ทั้งนี้ เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้ประชาชนได้รับบริการที่มีคุณภาพมาตรฐาน  หากใช้แพทย์ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพในประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นแพทย์เชี่ยวชาญหรือไม่ก็ตาม จะเข้าข่ายคลินิกนั้นใช้หมอเถื่อน โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ดำเนินการคลินิกมีความผิดฐานปล่อยให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่แพทย์มาดำเนินการ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 


‘จะส่งทีมตรวจสอบเฝ้าระวังต่อเนื่องและขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเบาะแสที่เฟซบุ๊คสารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์  หรือเฟซบุ๊คมือปราบสถานพยาบาลเถื่อน  สายด่วนกรมสบส. 02-1937999 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดำเนินการทางกฎหมายทันที’ อธิบดีกรมสบส.กล่าว

 

อธิบดีกรมสบส.กล่าวว่า ขณะนี้วงการศัลยกรรมความงามในไทยเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมมาก มีอัตราขยายตัวต่อเนื่อง  สร้างรายได้ปีละประมาณ 14,000 ล้านบาท จึงมีการแข่งขันมากทั้งเรื่องความรู้ความชำนาญของผู้ดำเนินการและเทคโนโลยีให้บริการ  ขณะนี้ทางกรม สบส. ได้ขึ้นทะเบียนสถานพยาบาลเสริมความงามซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกับคลินิกเวชกรรมทั่วไปและเฉพาะทาง รวม 1,458 แห่งทั่วประเทศหรือร้อยละ 13 ของคลินิกเวชกรรมทั่วไปและเฉพาะทางที่มีทั้งหมด10,904 แห่ง ทุกแห่งต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงที่ประกาศตามพ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ทั้งลักษณะ  ชื่อสถานพยาบาล การให้บริการ การแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล อัตราค่ารักษา ค่าบริการและสิทธิ์ของผู้ป่วย  .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

บกปภ.ช. รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหว เสียหาย 18 จังหวัด

บกปภ.ช. รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหว เสียหายเพิ่มขึ้นเป็น 18 จังหวัด เฉพาะกรุงเทพฯ เสียชีวิต 9 ราย สูญหาย 79 ราย ยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตจากอาคารถล่ม ขณะที่กรมบัญชีกลางขยายวงเงินทดรองราชการเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน 200 ล้านบาท

ยังไม่หมดหวัง กทม. เดินหน้าเต็มที่กู้ชีพตึกถล่ม

ยังไม่หมดหวัง กทม. เดินหน้าเต็มที่กู้ชีพตึกถล่มจตุจักร เข้าสู่ 48 ชม. นานาชาติร่วมส่งเครื่องมือช่วยเหลือ พร้อมเร่งจัดการจราจรให้ทันวันพรุ่งนี้

หุ่นยนต์กู้ภัย iRAP Robot สแกนตึกถล่มหนุนภารกิจกู้ภัย

มจพ. นำหุ่นยนต์กู้ภัย iRAP Robot เข้าพื้นที่สแกนตรวจสอบโครงสร้างตึกถล่ม ประเมินความปลอดภัย ก่อนให้กู้ภัยเข้าช่วยเหลือผู้รอดชีวิต ด้านครอบครัวยังเฝ้ารออย่างมีความหวัง