ทำเนียบรัฐบาล 22 ส.ค.-นายกฯประชุมสมช.ย้ำดูแลบ้านเมืองให้เรียบร้อย เดินหน้าสู่เลือกตั้ง ยืนยันโรดแมปกุมภาพันธ์เหมาะสมที่สุดแล้ว แต่ถ้ามีปัญหาอาจใช้อำนาจหน.คสช.แก้ไข
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ว่า ที่ประชุมพิจารณาเกี่ยวกับภาพรวมแผนการรักษาความสงบเรียบร้อยให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคงทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยการมีส่วนร่วมทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงการดำเนินงานระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือ CCTV ที่ต้องมีการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนตามแนวทางประชารัฐ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการป้องปรามเหตุที่จะกระทบความมั่นคง รวมถึงนำไปปรับใช้เกี่ยวกับการจราจรด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมพิจารณาร่างพ.ร.บ.การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ซึ่งเป็นแผนแม่บทการรักษาความปลอดภัยทางทะเล ทั้งเรื่องพื้นที่ของการท่องเที่ยว การค้ามนุษย์ การลักลอบเข้าแดน ตลอดเขตแดนทางทะเลทั้ง 200 ไมล์ทะเล ที่ต้องบูรณาการประสานสอดคล้องตามตัวบทกฎหมาย ให้เกิดการปรับปรุงแก้ไขนำไปสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริง
“ส่วนการทำงานด้านการข่าวของฝ่ายความมั่นคง การที่จะได้รับข่าวที่ชัดเจนเต็มร้อย เป็นไปได้ยาก ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยปรับบทบาทและโครงสร้างของสมช.ให้เชื่อมโยงกับภาคประชาชนและภาคเอกชนมากขึ้น เพื่อให้เกิดการแจ้งเตือนและป้องปรามได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม สมช.ไม่ได้หารือเรื่องการเตรียมความพร้อมการคลายล็อคหรือปลดล็อคทางการเมืองในเดือนกันยายนนี้ หน้าที่ของรัฐบาลคือการสร้างความสงบเรียบร้อยให้ประเทศเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง และต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน เพราะขณะนี้มีทั้งฝ่ายที่อยากให้เกิดความสงบและฝ่ายที่ไม่อยากให้เกิดความสงบ ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่กำลังติดตามอยู่ทุกกลุ่ม และขออย่าทำให้เกิดความวุ่นวาย รวมถึงต้องติดตามโซเชียลมีเดีย เพราะไม่อยากให้เป็นการขยายความขัดแย้ง
“โซเชียลมีเดียควรเป็นการสร้างความเข้าใจมากกว่าที่จะทำให้เกิดการแบ่งฝ่าย โดยเฉพาะการไปสู่ประชาธิปไตยในวันข้างหน้าที่ต้องสร้างการรับรู้ให้ประชาชน ว่าถึงแม้จะไม่ชอบก็ต้องยอมรับกติกาการเลือกตั้ง รวมถึงเคารพเสียงส่วนใหญ่ที่เลือกรัฐบาลชุดใหม่เข้ามา ซึ่งไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ต้องพร้อมทำเพื่อประชาชน เช่นเดียวกับที่ผมลงพื้นที่ต่างจังหวัดทุกพื้นที่เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนตรงจุดมากที่สุด ให้เกิดการบูรณาการและเหมาะสมกับงบประมาณที่มีอยู่” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางการเตรียมความพร้อมเรื่องการเลือกตั้ง ที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายหารือร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องสอดคล้องกับแนวทางรัฐบาลและคสช.เรื่องการปลดล็อคและปฏิบัติตามกฏหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ซึ่งยึดตามกรอบเวลาของโรดแมปที่กำหนดไว้ และขณะนี้มีการคาดการณ์ว่าเวลาอาจล่วงเลยไปจากกรอบเดิม แต่หากเป็นไปได้ก็ต้องการให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562
ส่วนเรื่องการทำไพรมารีโหวต นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องทำให้ได้ เพราะกำหนดไว้ในกฏหมายแล้ว ซึ่งในปีแรกอาจจะมีปัญหาบ้าง แต่ต้องแก้ไขเพื่อให้ดำเนินการได้ในระดับหนึ่ง และเพื่อไม่ให้ขัดต่อกฏหมาย แต่ในอนาคตต้องทำให้ได้100% แต่ถ้าวันนี้ตนแก้ไขกฏหมายหรือคำสั่งใดที่กระทบต่อโรดแมปการเลือกตั้ง ก็อาจถูกวิพากษ์วิจารณ์กลับมาที่ตนเองได้ ยืนยันให้ทุกอย่างเดินหน้าตามโรดแมปที่วางไว้
“การเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์มีความเหมาะสมที่สุด และหากมีอะไรที่ต้องแก้ปัญหา สามารถใช้อำนาจของหัวหน้าคสช.แก้ไขได้ เพื่อให้สามารถทำงานได้และให้เกิดการเลือกตั้ง โดยกรอบเวลาต้องสอดคล้องกับสถานการณ์ความเป็นจริงด้วย ขณะเดียวกันยืนยันว่าผมไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับใคร” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย
