fbpx

BIG STORY : ลำดับเหตุการณ์ฆาตกรรมโหดเขาชีจรรย์

สำนักข่าวไทย 16 ส.ค. – ผ่านมานานกว่าครึ่งเดือน หลังเกิดเหตุคนร้ายบุกยิงหนุ่มสาว “ฟอส-สปาย” เสียชีวิต ที่ลานจอดรถหน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี จนกระทั่งล่าสุดตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้ครบทั้งหมด 6 คน ย้อนดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากรายงาน



บ่ายวันที่ 29 กรกฎาคม มีเสียงปืนดังขึ้น 7 นัดซ้อน ที่บริเวณลานจอดรถหน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ท้องที่ สภ.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พบผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสาวหน้าตาดีและชายหนุ่มผู้ใกล้ชิด คือ น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ “สปาย” และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ “ฟอส” ถูกยิงเสียชีวิต โดยพบเบาะแสสำคัญเป็นรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ


ชุดสืบสวนฝีมือดีจากภูธรจังหวัดชลบุรี และตำรวจภูธรภาค 2 เร่งติดตามหาคนร้ายที่ก่อเหตุ ตั้งปมสังหารทีแรกไว้หลายประเด็น ทั้งชู้สาว หนี้สิน ขัดแย้งส่วนตัว แต่น้ำหนักที่ถูกตั้งไว้มากสุด คือ ชู้สาว เพราะคนร้ายจงใจเหนี่ยวไกทูตสังหารใส่ฝ่ายหญิง 4 นัดซ้อน


ครอบครัวผู้เสียชีวิตตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่ อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ ข้อมูลจากมารดาฝ่ายหญิงบอกว่า ทั้งคู่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ลาออกจากมหาวิทยาลัย ก่อนไปใช้ชีวิตทำงานในสถานบันเทิง โดยทำงานที่ จ.ภูเก็ต และมีข้อมูลสำคัญ คือ มีเสี่ยคนหนึ่งเข้ามาติดพันตั้งแต่ปลายปี 2559 และนี่เป็นข้อมูลสำคัญที่ทำให้ชุดสืบสวนจำกัดวงสางคดี พุ่งเป้าไปยังนายปัญญา ยิ่งดัง หรือ “เสี่ยอ้วน” อายุ 39 ปี ที่โลดแล่นอยู่ในวงการสถานบันเทิงภูเก็ต

เข้าสู่เดือนใหม่ท่ามกลางข่าวดี หลังตำรวจสามารถคุมตัวผู้ต้องหาคนแรก คือ สายันต์ ศรีสุข หรือ “ยันต์” อายุ 43 ปี ทำหน้าที่เป็นผู้ชี้เป้าสังหาร 2 ผู้ตาย มาได้สำเร็จ ก่อนนำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุและสอบปากคำเข้มข้น แม้อ้างไม่เกี่ยวข้องกับการฆ่า แต่ให้การว่าได้รับว่าจ้างให้ตามประกบและแจ้งพิกัด เพื่อให้ “เสี่ยอ้วน” ลงมือสังหาร

ผ่านมาอีก 1 วัน ผู้ต้องหาในคดีคนที่ 2 คือ เกียรติศักดิ์ สุรางค์แสงมีบุญ หรือ “บอล” อายุ 35 ปี ถูกไล่ต้อนจับกุมได้ที่ จ.สระแก้ว สารภาพขับรถซีอาร์วีพา “เสี่ยอ้วน” ไปก่อเหตุ ก่อนเตรียมหนีข้ามไปกัมพูชา และในวันเดียวกัน หลังถูกกดดันอย่างหนัก ทำให้ผู้ต้องหาคนที่ 3 ตัดสินใจเข้ามอบตัวที่ จ.ภูเก็ต คือ นายจิรศักดิ์ อุนัยบัน หรือ “ป๊อปปี้” อายุ 34 ปี สารภาพสิ้นเป็นทีมคุ้มกัน “เสี่ยอ้วน”

ผ่านไป 2 วัน ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหา 2 คน ทั้ง “บอล” และ “ป๊อปปี้” ไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนฯ การสังหารโหดครั้งนี้ ทำให้ผู้ต้องหาที่ออกหมายจับลอตแรก 4 คน ถูกรวบได้ 3 คน เหลือเพียง “เสี่ยอ้วน” ที่ยังลอยนวล แต่จากคำให้การของผู้ต้องหาที่จับได้ ทำให้ศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 2 คน คือ นายณรงค์ วรินทรเวช หรือ “บ่าว” และนายกฤษณะ สีสุข หรือ “มด”

ชุดสืบสวนกดดันไล่ล่าอย่างหนัก ทำให้ 2 ผู้ต้องหาที่เพิ่งออกหมายจับประสานเข้ามอบตัวกลางดึกในวันที่ 6 สิงหาคม ประกอบด้วย “มด” ที่ตัดสินใจมอบตัวและถูกสอบปากคำข้ามวันข้ามคืน ส่วน “บ่าว” ตัดสินใจมอบตัวกับตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ก่อนถูกนำตัวบินด่วนมาสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ทำให้เหลือเพียงจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายที่จะประติดประต่อรูปร่างคดีได้ คือ “เสี่ยอ้วน”

มีกระแสข่าวลือแพร่สะพัดว่า “เสี่ยอ้วน” ถูกรวบตัวที่ชายแดนไทย-กัมพูชา แต่นายตำรวจระดับสูงปฏิเสธข่าว แต่ยอมรับว่ามีเบาะแสพบสัญญาณโทรศัพท์ 3 ครั้ง โทรกลับมาไทย และคาดว่าอาจหนีไปยังบ้านเกาะพงสัก จังหวัดบันเตียเมียนเจย ห่างจากปอยเปตราว 60 กิโลเมตร

ผบ.ตร.กำชับให้เร่งติดตาม “เสี่ยอ้วน” มาดำเนินคดี พร้อมจัดชุดดรีมทีมเข้าชี้พิกัดกบดาน หวังสางคดีให้เร็วที่สุด พร้อมเผย “เสี่ยอ้วน” ที่หนีคดี มีจุดจบ 2 ทางเท่านั้น

ในวันเดียวกัน ตำรวจคุมตัว “บ่าว” ไปชี้จุดและทำแผนฯ โดยสารภาพสิ้นได้ค่าจ้าง 50,000 บาท และ “เสี่ยอ้วน” เป็นคนลงมือยิงก่อน จากนั้นจึงเหนี่ยวไกตาม เพื่อสังหารผู้ตาย

ชุดสืบสวนฯ ทำงานในทางลับร่วม 1 สัปดาห์เต็ม จนสามารถสนธิกำลังหลายฝ่ายจับกุมตัว “เสี่ยอ้วน” ได้สำเร็จ ขณะกำลังหลบหนีจากกัมพูชาไปยังเวียดนาม หลังจากซ่อนตัวอย่างยากลำบากในกัมพูชามาเกือบครึ่งเดือน แต่ท้ายสุดกลับไปไม่รอด ก่อนจะนำตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายในไทย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เรือสินค้าชนสะพานพังในสหรัฐ

บัลติมอร์ 26 มี.ค.- สื่อในสหรัฐรายงานว่า เกิดเหตุเรือสินค้าชนสะพานสำคัญในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ ทำให้สะพานพังลงไปในแม่น้ำ เว็บไซต์บิสซิเนสส์ อินไซเดอร์รายงานว่า มีผู้โพสต์คลิปผ่านเอ็กซ์ (X) ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เป็นภาพเหตุการณ์ขณะที่เรือลำใหญ่ชนกับคานรองรับของสะพานฟรานซิส สกอตต์ คีย์ (Francis Scott Key Bridge) เห็นกลุ่มควันลอยขึ้นจากเรือ จากนั้นสะพานได้ทยอยพังลงไปในแม่น้ำ ขณะที่สำนักงานเครื่องกลเบย์แอเรียถ่ายทอดสดทางยูทูบเมื่อเวลา 01:28 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เห็นเรือลำใหญ่ชนสะพานดังกล่าว จากนั้นเมื่อเวลา 03:00 น.เห็นโครงสร้างสะพานแตกเป็นส่วน ๆ และจมอยู่ในแม่น้ำ บิสซิเนสส์ อินไซเดอร์ได้ตรวจสอบแผนที่การเดินเรือในเว็บไซต์เวสเซิล ไฟน์เดอร์ (VesselFinder) พบว่า เมื่อเวลา 02:50 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เรือดาลี (Dali) ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าติดธงชาติสิงคโปร์ ยังคงจอดนิ่งอยู่ใต้สะพาน สะพานแห่งนี้เปิดใช้งานเมื่อเดือนมีนาคม 2520 มีความยาวทั้งหมด 2,632.3 เมตร.-814.-สำนักข่าวไทย

ศาลยกฟ้อง “ชวน หลีกภัย” หมิ่นประมาท “ทักษิณ”

“ชวน” อดีตนายกรัฐมนตรี เผยศาลยกฟ้องคดี “ทักษิณ” ฟ้องหมิ่นประมาท ชี้มีสิทธิ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่ได้ประสบมาเพราะเป็นนักการเมืองและเป็นอดีตนายกรัฐมนต

“ทนายตั้ม” แฉเส้นทางเงินเว็บพนันโยง “ส่วยตัวท็อป” น็อก “บิ๊ก ตร.”

“ทนายตั้ม” นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ตั้งโต๊ะเปิดหลักฐานแฉขบวนการส่วยตัวท็อปแบบม้วนเดียวจบ โยงบิ๊กตำรวจรับเงินเว็บพนัน

ข่าวแนะนำ

ออกหมายเรียก “บิ๊กโจ๊ก” รอบ 3 หากไม่มา ชงศาลออกหมายจับ

คณะพนักงานสอบสวนชุดทำคดีเว็บพนันออนไลน์ “BNK Master” ออกหมายเรียก “บิ๊กโจ๊ก” รอบ 3 กำหนดเข้าพบ 1 เม.ย.นี้ หากยังไม่มาเตรียมขอศาลออกหมายจับ

รถไฟฟ้าสายสีเหลืองแจงเหตุขัดข้อง ชิ้นส่วนตัวยึดรางร่วง

รถไฟฟ้าสายสีเหลือง แจงเหตุหยุดเดินรถและมีเศษวัสดุตกหล่น พบชิ้นส่วนตัวยึดรางร่วงหล่นลงมา ช่วงสถานีกลันตัน-สวนหลวง ร.9 มีรถยนต์ 9 คัน และจักรยานยนต์ 3 คัน ได้รับความเสียหาย ไม่มีผู้บาดเจ็บ

ให้ประกันตัว “จักรภพ” นัดพบพนักงานสอบสวน 22-23 เม.ย.

ตำรวจกองปราบฯ อนุญาตประกันตัว “จักรภพ เพ็ญแข” วางหลักทรัพย์ข้อหาละ 200,000 บาท นัดหมายพบพนักงานสอบสวน 22-23 เม.ย.นี้

“ทนายตั้ม” มอบหลักฐานแฉเส้นทางการเงินเว็บพนันโยง “บิ๊ก ตร.” ให้ “บิ๊กเต่า”

“ทนายตั้ม” นายษิทรา เบี้ยบังเกิด นำหลักฐานมอบให้กับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังออกมาแฉเส้นทางการเงินเว็บพนันโยงถึงบิ๊กตำรวจ