รร.รามาการ์เด้นส์ 16 ส.ค. – ธ.ก.ส.ทุ่มงบนับร้อยล้านบาท ส่งเสริมงานวิจัยและนวัตกรรม ใช้ขับเคลื่อนงานสหกรณ์และเอสเอ็มอีเกษตร หวังยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรและชุมชน เข้าสู่ธุรกิจยา เครื่องสำอางประโยชน์สูงจากวัตถุดิบท้องถิ่น
นางน้ำผึ้ง วงศ์สมิทธิ์ กรรมการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และประธานคณะอนุกรรมการธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคมและนวัตกรรม ร่วมงานประชุมวิชาการประจำปี 2561 เรื่อง “วิจัยและนวัตกรรม…สู่การขับเคลื่อนงานสหกรณ์และ SMEs เกษตร” จัดงานประชุมวิชาการประจำปี เริ่มตั้งแต่ปี 2552 ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เพื่อเป็นเวทีให้เครือข่ายนักวิจัย ธ.ก.ส.จากทั่วประเทศและนักวิจัยจากองค์กรภายนอกร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านงานวิจัยและนวัตกรรม โดยงานประชุมวิชาการประจำปี 2561 นำไปสู่การสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับกลุ่มลูกค้า 3S ได้แก่ Small Smart และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังจากมุ่งพัฒนาการวิจัยทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาทต่อปี ผลงานวิจัยที่ประสบความสำเร็จนับร้อยชิ้นงาน เพื่อนำออกมาผลักดันพัฒนาให้กับเกษตรกร
สำหรับงานนี้ยังมีการนำเสนอผลงานวิจัยและผลิตภัณฑ์ของเครือข่ายนักวิจัยที่ธนาคารให้การสนับสนุน พร้อมทั้งมีการออกบูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการค้นคว้าจากนักวิจัย อาทิ เครื่องสำอางน้ำนมแพะจากนนทบุรี ผลิตภัณฑ์แปรรูปสินค้าเกษตรจากกรุงเทพมหานคร เครื่องสำอางจากเห็ดเยื่อไผ่จากนครราชสีมา และกล้วยหอมทองออแกนิกส์จากเพชรบุรี เป็นต้น ขณะที่ ธ.ก.ส.ต้องยึดนโยบายการตลาดนำการผลิต จากนั้นจะนำผลวิจัยขยายออกไปส่งเสริมให้เกษตรกรเรียนรู้เพื่อผลิตภายใต้งานวิจัย โดยร่วมมือกับหลายองค์กร ทั้งสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ สมาคมวินิจฉัย มหาวิทยาลัย เพื่อร่วมกันส่งเสริมงานวิจัย นำออกไปใช้งานได้อย่างจริงจัง
นายสุรชัย รัศมี ผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. ส่งเสริมวิจัยด้านเกษตร เมื่อนำงานวิจัยมาส่งเสริม แปรรูป และทำการตลาด จะทำให้เกษตรกรปลูกวัตถุดิบขั้นต้น มีตลาดรองรับ ขณะที่ผู้มีความรู้ยกระดับตัวเองเป็นเอสเอ็มอีเกษตร พัฒนาวัตถุดิบให้มีมูลค้าเพิ่ม จากนั้นยังส่งเสริมช่องทางตลาดออนไลน์ให้กับเกษตรกรยุคใหม่ ธ.ก.ส.ทำวิจัยการตลาดให้กับเกษตรกรด้วย
นางนิภาพร อามัสสา นักวิชาการ คณะวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวว่า คิดค้นวิจัยนำเห็ดเยื่อไผ่จากจีน นับเป็นวัตถุดิบปรุงอาหารชั้นเลิศ 1 ใน 7 ชนิด ที่ประกอบอาหารถวายฮ่องเต้ จึงได้มาศึกษาวิจัยการเพาะเห็ดเยื่อไผ่พัฒนาเป็นยา เวชสำอาง เพราะมองว่าเห็ดเยื่อไผ่มูลค่าสูงนับพันบาทต่อกิโลกรัม เมื่อผ่านกระบวนการผลิตนวัตกรรมเป็นสารสกัดเห็นเยื่อไผ่ราคาสูงนับ10,000 บาทต่อกิโลกรัม เพราะช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ เครื่องสำอางลดรอยเหี่ยวย่น และยังมีประโยชน์อีกหลากหลาย.-สำนักข่าวไทย