กรุงเทพฯ 16 ส.ค. – มูลนิธิชีววิถีเตรียมฟ้องศาลปกครองเอาผิดคณะกรรมการวัตถุอันตราย มีมติให้ใช้สารเคมีกำจัดหญ้าและแมลง 3 ชนิด
นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี (ไบโอไทย) กล่าวว่า มูลนิธิชีววิถีจะร่วมกับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเตรียมฟ้องศาลปกครองภายใน 2 สัปดาห์นี้ เพื่อเอาผิดคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่ลงมติอนุมัติให้ใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ต่อไปในรูปแบบจำกัดการใช้ ซึ่งเห็นว่าไม่โปร่งใสและไม่เป็นตามข้อเสนอของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุขที่เห็นว่าเป็นสารเคมีที่เป็นอันตราย จึงถือว่ามติของคณะกรรมการวัตถุอันตรายไม่ปกป้องคุ้มครองสุขภาพประชาชน โดยจะนำหลักฐานจากการตัดสินของศาลสหรัฐที่ให้บริษัทผลิตสารเคมีอันตรายจ่ายเงินชดเชยผู้ที่ใช้สารเคมีดังกล่าวแล้วเจ็บป่วย รวมถึงหลักฐานจากกลุ่มชาวบ้านที่รวบรวมรายชื่อเป็นผู้ฟ้องร้อง เช่นกรณีเด็กผู้หญิง เดินลงไปในบ่อน้ำที่มีการใช้สารเคมีพาราควอต เกิดมีแผลพุพอง เกษตรกรคนหนึ่งถูกตัดนิ้วเท้าออกไปเจอพิษจากสารพาราควอต ลุกลามเนื้อเน่า ซึ่งไปตรงกับเกษตรกรจ.หนองบัวลำภู ที่เป็นงานวิจัยของสาธารณสุขท้องถิ่น โดยมูลนิธิฯได้ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ ไปสอบสวนกรณีเหล่านี้ เป็นหลักฐานในพื้นที่ อีกทั้งคำวินิจฉัยของหน่วยราชการอย่างเช่น กระทรวงสาธารณะสุขซึ่งให้เลิกใช้สารเคมี 2 ชนิดคือ พาราควอต และคลอร์ไพริฟอส ส่วนไกลโฟเซตให้จำกัดการใช้
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า แม้นายกรัฐมนตรีจะแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งจะประชุมครั้งแรกวันที่ 22 สิงหาคมนี้ เพื่อให้ศึกษาผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมภายใน 60 วัน กรรมการ ประกอบด้วย นักวิชาการอิสระ 4 คน และภาคองค์กรอิสระ 1 คน รวม 5 คน ซึ่งสนับสนุนให้ยกเลิกการใช้สารเคมี 3 ชนิดนี้ แต่กลุ่มคัดค้านยังเห็นสมควรให้ใช้ต่อไป 5 คน ประกอบด้วย ผู้แทนจากสมาคมพืชสวน เกษตรกรสวนยาง เกษตรกรราชบุรี สมาคมเทคโนโลยีชีวภาพสัมพันธ์ คณะกรรมการชุดดังกล่าวมีนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และมีกรรมการอีก 10 คน มาจากกระทรวงต่าง ๆ เช่นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า กลุ่มผู้สนับสนุนยกเลิกใช้สารเคมี 3 ชนิดนี้จะติดตามผลการประชุมของคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้นมาว่าทำเพื่อยืดระยะเวลาการยกเลิกใช้สารเคมี 3 ชนิดออกไปก่อนหรือไม่ เนื่องจากการเรียกร้องให้ยกเลิกสารพิษวัตถุอันตรายที่ใช้ในการเกษตรเป็นสถานการณ์ได้รับความสนใจระดับโลก เนื่องจากศาลสหรัฐตัดสินในคดีสำคัญในเวลาใกล้กัน เช่น ศาลอุทธรณ์กลางมีคำพิพากษาสั่งให้สำนักงานสิ่งแวดล้อมให้ยกเลิกการใช้คลอร์ไพริฟอสภายใน 60 วัน เนื่องจากมีผลกระทบพัฒนาทางสมองของเด็กทารก ส่วนอีกคดีอยู่ที่ศาลรัฐแคลิฟอร์เนียตัดสินบริษัทมอนซานโตผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ ราวอัพสำหรับกำจัดวัชพืช ซึ่งเป็นสารไกลโฟเซตจ่ายค่าเสียหาย 9,600 ล้านบาทให้กับพนักงานของโรงเรียนฉีดยาฆ่าหญ้ากลายเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ดังนั้น ภาคสังคมต้องตรวจสอบการทำงานอย่างใกล้ชิดในการตัดสินใจของภาครัฐเกี่ยวกับการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด ซึ่งมี 53 ประเทศเลิกใช้ไปแล้ว ส่วนในสหรัฐอเมริกาศาลตัดสินให้ประกาศยกเลิกใช้สารพาราควอต ใน 60 วัน ส่วนคลอร์ไพริฟอสจีนห้ามใช้คลอร์ไพริฟอสในผักผลไม้และจะยกเลิกใช้พาราควอตภายใน 2 ปีนี้
สำหรับประเทศไทยมีการนำเข้าสารไกลโฟเซตสูงถึง 59.85 ล้านกิโลกรัม หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 30.27 ของการนำเข้าสารเคมีกำจัดศัตรูพืชทั้งหมดปี 2560 ส่วนสารพาราควอต มากถึง 44.5 ล้านกิโลกรัมหรือร้อยละ 22.5 โดยกระทรวงสาธารณสุขเสนอให้รัฐบาลยกเลิกการใช้สารชนิดนี้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2560 สำหรับสารคลอร์ไพรีฟอสเป็นยาฆ่าแมลงที่พบการตกค้างมากที่สุดในผักและผลไม้ นำเข้า 3.33 ล้านกิโลกรัม นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังเสนอให้กรมวิชาการเกษตรไม่ต่อทะเบียนการนำเข้าและให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายยกเลิกการใช้ คณะกรรมการวัตถุอันตรายยังคงมีมติให้เกษตรกรใช้ต่อไปได้.-สำนักข่าวไทย