สธ. 18 มี.ค.-โฆษก สธ. วอนเข้าใจคนทำงาน หลัง “ศรีสุวรรณ” ยื่นศาลปกครองฟ้องผู้บริหาร สธ.-อย.ปมจัดซื้อยาฟาวิพิราเวียร์ ยืนยันมีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วย ใช้แพร่หลายทั่วโลก และไทยยังผลิตได้เอง ยืนยันหากมียาที่ดีกว่า และจัดหามาได้มากพอ พร้อมปรับแผน
นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (11) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นศาลปกครองฟ้อง รมว.สาธารณสุข, ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, อธิบดีกรมการแพทย์ และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ฐานใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบในการผลักดันการจัดซื้อจัดหายาฟาวิพิราเวียร์ ระบุการตรวจสอบถือว่าเป็นเรื่องดี ช่วยให้สังคมเข้ารูปเข้ารอย แต่บางเรื่องนายศรีสุวรรณ ควรจะรู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร เรื่องการจัดหายาฟาวิพิราเวียร์เข้ามาใช้นั้น มีเหตุผลทางวิชาการรองรับ ผ่านการพิจารณาจากคณะผู้ทรงคุณวุฒิทั้งภายนอกและภายในกระทรวง มีการพิจารณาอย่างรอบคอบว่ามีประโยชน์ มีความจำเป็น ที่ผ่านมายาตัวนี้มีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วย ใช้กันแพร่หลายทั่วโลก และเป็นยาที่ประเทศไทยสามารถผลิตเองได้ การที่ประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิตที่ต่ำมาก ยาฟาวิพิราเวียร์ก็นับว่ามีส่วนสำคัญ และการพิจารณาเรื่องการใช้ยาเป็นเรื่องทางวิชาการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขไตร่ตรองมาถี่ถ้วนแล้วถึงให้ใช้
การให้ข่าวของนายศรีสุวรรณ ไปจนถึงผู้ที่รู้ไม่จริงทั้งหลาย สร้างความสับสนให้กับสังคม ตนไม่ต้องการให้เกิดความเข้าใจผิด เห็นการปฏิเสธยาแล้วอาการทรุดหนัก ถึงเสียชีวิต
เป็นความจริงที่บางประเทศไม่ได้ใช้ยาตัวนี้แล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ยานี้อันตราย หรือยานี้ไร้ประสิทธิภาพเสียทั้งหมด อาทิ ประเทศญี่ปุ่น ที่ไม่ได้ใช้ยาดังกล่าว เพราะปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง คือ เรื่องการทดลองหาประสิทธิภาพ เพราะผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน มีความรุนแรงของโรคต่ำ ติดแล้วหายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ให้ยาแล้วหาย แต่ก็ประเมินยากเหลือเกินว่า หายเพราะยาหรือไม่ จึงตัดสินใจเลิกใช้ ทว่าในหลายประเทศ ก็ยังใช้ยาตัวนี้อยู่
ประเทศไทยเองก็เช่นกัน เมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่แล้ว ยังกังวลเรื่องยาชนิดนี้ขาดแคลนอยู่เลย แต่พอวันนี้ เมื่อมีข้อมูลใหม่ๆ เข้ามาเพียง 2-3 วัน เช่น หมอบางคนบอกว่า WHO สนับสนุนให้ใช้ยาของบริษัทหนึ่ง มากกว่ายาฟาวิพิราเวียร์ ก็เชื่อกันไปเช่นนั้น กดดันคนทำงาน ให้รีบเร่งตัดสินใจ กระทรวงสาธารณสุขติดตามสถานการณ์ทุกวัน เรามีทีมแพทย์ ทีมผู้ผู้ทรงคุณวุฒิ คอยพิจารณาเรื่องต่างๆ แต่จะให้เปลี่ยนยาปุบปับมันทำไม่ได้
ตอนนี้เราต้องดูตามความเหมาะสม กรณียาฟาวิพิราเวียร์ สามารถจัดหามาได้มาก เพียงพอต่อยอดการป่วยที่สูง นับว่าเป็นแนวทางบริหารจัดการที่เหมาะสมในอนาคต ถ้ามียาที่ดีกว่า และสามารถจัดหายามาได้มากเพียงพอต่อความต้องการ แผนการก็ต้องปรับกันต่อไป แต่อย่าไปมองว่าคนทำงานไม่ถูกใจ จะเป็นคนผิด ต้องหาทางกล่าวโทษ สร้างแพะให้สังคมไปบูชายัน อย่าลืมว่าการทำมันยากกว่าการพูด ทุกวันนี้เบื่อมากกับพวก NATO No action Talk only.-สำนักข่าวไทย