กรุงเทพฯ 11 ส.ค. – นายกรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ห่วง 8 จังหวัด เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน พอใจการรับมือสถานการณ์น้ำในปีนี้ ที่มีแผนงานชัดเจนกว่าทุกปี กำชับทุกหน่วย เฝ้าระวัง แจ้งเตือน และปฏิบัติการตามแผนป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วม
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยได้กำชับให้ทุกหน่วยงาน เช่น สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) และผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เฝ้าระวัง แจ้งเตือน วางแผน และปฏิบัติการตามแผน เพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมจากปริมาณฝนที่ตกหนักในระยะนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีพอใจการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมปีนี้ ที่มีความชัดเจนในทางปฏิบัติมากขึ้น หลังจากที่ได้ตั้งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและมีการตั้งศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต เพื่อติดตามวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ
นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานว่า ขณะนี้หน่วยงานที่รับผิดชอบได้เร่งระบายน้ำ 2 เขื่อนใหญ่ คือ เขื่อนน้ำอูนและเขื่อนแก่งกระจาน ให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม รวมถึงการช่วยเหลือประชาชนบริเวณพื้นที่ท้ายน้ำ ส่วนเขื่อนใหญ่อื่นยังมีระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง สำหรับระดับน้ำในแม่น้ำโขง ตั้งแต่ จ. อุบลราชธานี นครพนม และมุกดาหาร เริ่มลดลงตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ แม่น้ำเพชรบุรี ที่ระดับน้ำลดลง เนื่องจากมีการตัดยอดน้ำเข้าระบบชลประทานมากขึ้น
“นายกฯ เป็นห่วงพื้นที่เสี่ยงต่อภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม ใน 8 จังหวัด คือ จ. สกลนคร มุกดาหาร ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา และสุราษฎร์ธานี ตามประกาศของทางราชการ โดยสั่งการให้หน่วยงานกลางและพื้นที่จัดทำแผนป้องกันและแจ้งเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่องด้วย” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว.-สำนักข่าวไทย