เผยภาพนาทีเสาเข็มเจาะร่วงทับรถ

กทม. 9 ส.ค. -เผยคลิปนาทีเสาเข็มร่วงทับรถยนต์ เสียหาย 2 คัน บริเวณถนนเลียบทางรถไฟบางขุนนนท์ มุ่งหน้าถนนจรัญสนิทวงศ์ ล่าสุดผู้รับเหมายินยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด ขณะที่ฝ่ายโยธาสำนักงานเขตบางกอกน้อย สั่งยุติการก่อสร้างชั่วคราว


เหตุเสาเข็มขุดเจาะท่อกันดินทลายถนน หลุดออกจากปั้นจั่น หล่นลงมาทับรถยนต์ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและรถยนต์ได้รับความเสียหาย บริเวณถนนเลียบทางรถไฟบางขุนนนท์ มุ่งหน้าถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. เมื่อวานนี้ ล่าสุดชมรมอาชีวอนามัยและความปลอดภัย มสธ. ได้นำคลิปนาทีที่เสาเข็มหล่นลงมาทับรถยนต์ ได้รับความเสียหาย 2 คัน โดยรถเบนซ์ รุ่นอี 350 สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 กพ 5566 กรุงเทพมหานคร ได้รับความเสียหายมากที่สุด สภาพฝากระโปรงหน้ารถแบนราบพังยับเยิน ถูกเสาเข็มขุดเจาะท่อกันดินทลาย  ขนาดความยาว 15 เมตร กว้าง 80 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 4 ตัน หลุดลงมาหล่นทับหน้ารถ พร้อมทั้งขวางถนน    

 รถเบนซ์ของผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ น.ส.ปนัดดา อัครดำรงเดช  35 ปี สภาพนั่งอยู่ที่เบาะโดยสารหน้าข้าง คนขับถูกแรงกระแทกจากถุงลมนิรภัย ทางเจ้าหน้าที่ต้องเร่งช่วยกันปฐมพยาบาล ก่อนนำตัวส่งรพ.ธนบุรี1เพื่อเข้ารับการรักษาอาการอย่างเร่งด่วน  


และในวันนี้ พ.ต.อ.สำเริง อำพรรณทอง ผู้กำกับการ สน.บางขุนนนท์ เปิดเผยความคืบหน้าว่า ตำรวจได้เรียกผู้รับเหมาก่อสร้าง และคนขับรถทั้ง 2 คัน มาเจรจาที่โรงพัก เบื้องต้นฝ่ายผู้รับเหมายินยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด โดยเฉพาะรถเบนซ์ ที่ถูกท่อหล่นทับห้องเครื่องเสียหายหนัก โดยจะยอมซ่อมหรือจ่ายเงินซื้อรถคืนในราคาท้องตลาด ส่วนคนขับที่บาดเจ็บเล็กน้อยจากการถูกถุงลมนิรภัยกระแทก ขอนัดเจรจาค่าสินไหมอีกครั้งวันเสาร์หน้า ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน สอบสวนผู้เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาดำเนินคดี กับผู้รับผิดชอบฐานกระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดฝ่ายโยธาสำนักงานเขตบางกอกน้อย ได้สั่งให้ยุติการก่อสร้างบริเวณดังกล่าวชั่วคราว เพื่อตรวจสอบ และวางแผนป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นอีก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย