บุรีรัมย์ 8 ส.ค.-ญาติเลื่อนเผาศพหญิงวัย 36 ปี ชาว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ จมน้ำเสียชีวิตในสระท้ายหมู่บ้านอย่างมีเงื่อนงำ หลังพบร่องรอยแผลที่ศีรษะ คล้ายถูกทำร้าย อาจถูกฆาตกรรมแล้วโยนศพทิ้งน้ำอำพราง
จากกรณีที่มีคนไปพบศพน.ส.เต็ม อายุ 36 ปี ชาวบ้านบ้านชุมแสงใหม่ ม.13 ต.ดงพลอง อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ จมน้ำเสียชีวิตที่สระสาธารณะท้ายหมู่บ้านซึ่งมีเนื้อที่กว่า 40 ไร่ เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่จากการตรวจสอบสภาพศพกลับพบร่องรอยบาดแผลฉกรรจ์ที่บริเวณเหนือคิ้วซ้ายคล้ายกับถูกของมีคมฟันต้องเย็บถึง 13 เข็ม ท้ายทอยมีรอยคล้ายถูกของแข็งมีเลือดไหลออกไม่หยุด และบริเวณลำคอมีรอยเขียวช้ำอย่างชัดเจนคล้ายกับถูกบีบอย่างแรง ถึงแม้เบื้องต้นแพทย์จะลงความเห็นว่าเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ แต่จากร่องรอยบาดแผลที่พบบนศพ ทำให้ญาติและชาวบ้านติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต เชื่อว่าอาจจะถูกฆาตกรรมแล้วนำศพมาโยนทิ้งน้ำเพื่ออำพราง จึงเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยส่งศพไปตรวจพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง เพราะญาติมีฐานะยากจนประกอบกับไม่มีความรู้จึงไม่รู้ว่าจะทำยังไง
วันนี้ 8 ส.ค. ทางญาติมีกำหนดจะประกอบพิธีฌาปนกิจศพของ น.ส.เต็ม โดยได้มีญาติพี่น้องจากต่างจังหวัด และเพื่อนบ้านเดินทางมารอร่วมงานเป็นจำนวนมาก แต่ก็ต้องเลื่อนฌาปนกิจศพออกไป เนื่องจากช่วงเที่ยงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แคนดง ได้มาขอนำศพไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาล จ.สุรินทร์ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ตามที่ญาติและชาวบ้านร้องขอ โดยคาดว่าจะตรวจพิสูจน์แล้วเสร็จไม่เกิน 2–วันนี้ ขณะบรรยากาศที่บ้านก็เป็นไปด้วยความโศกเศร้า ส่วนชาวบ้านต่างก็จับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่า น.ส.เต็ม จะจมน้ำเสียชีวิตแต่น่าจะถูกฆาตกรรมมากกว่า
นายบุญชู ไชโย อายุ 39 ปี พี่ชายผู้เสียชีวิต บอกว่าเดิมครอบครัวมีภูมิลำเนาอยู่จ.สุรินทร์ แต่หลังจาก น.ส.เต็ม มีครอบครัวก็ย้ายมาอยู่กับสามีที่ อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ หลังจากสามีตาย น.ส.เต็ม ก็ทำหน้าที่เลี้ยงดูย่าวัย 93 และลูกสาวอายุ 14 ปี มาตลอดไม่ได้ย้ายกลับบ้าน กระทั่งมาทราบข่าวว่าน้องสาวเสียชีวิตก็รู้สึกตกใจ จึงพาแม่รีบเดินทางมา แต่พอมาเห็นศพน้องสาวมีร่องรอยบาดแผลหลายแห่งทั้งใบหน้า ศีรษะ และลำคอ คล้ายกับถูกทำร้าย จึงไม่เชื่อว่าเป็นการจมน้ำเสียชีวิต น่าจะเป็นการฆาตกรรมมากกว่า จึงอยากร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้ตรวจพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตของน้องสาวให้เกิดความชัดเจน แต่หากพบว่าถูกฆาตกรรมจริงก็อยากให้เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับน้องสาว และครอบครัวด้วย
ขณะที่นางวันทา ดีดวงแก้ว อายุ 54 ปี เพื่อนบ้านที่มาช่วยอาบน้ำและแต่งตัวให้กับศพของ น.ส.เต็ม บอกว่าอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งคลี่คลายสาเหตุการเสียชีวิตโดยเร็วด้วย แต่หากเป็นการฆาตกรรมจริงก็อยากให้นำตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมาย
ด้านนายสมศักดิ์ ชุมสาย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 บ้านชุมแสงใหม่ ต.ดงพลอง กล่าวว่าปกติช่วงประมาณ 3 โมงเย็น น.ส.เต็ม จะนำควายจำนวน 4 ตัว ออกไปปล่อยเล่นน้ำที่สระท้ายหมู่บ้าน และจะนำควายกลับเข้าคอกประมาณ 5-6 โมงเย็นซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันอยู่แล้ว แต่ช่วงเย็นวันที่ 6 ส.ค. ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ มีคนไปเห็นรองเท้าของ น.ส.ถูกทอดทิ้งไว้ข้างสระน้ำ แต่ไม่เห็นตัว จึงเดินกลับมาบอกย่า และลูกสาวซึ่งรอที่บ้าน ก่อนจะร้องขอให้เพื่อนบ้านช่วยกันออกตามหา กระทั่งไปพบ น.ส.เต็ม กลายเป็นศพจมน้ำเสียชีวิตอยู่ในสระท้ายหมู่บ้าน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสภาพศพกลับพบร่องรอยบาดแผลหลายแห่ง ที่ทำให้ญาติและชาวบ้านเกิดความสงสัยว่าไม่น่าจะเป็นการจมน้ำเสียชีวิต จึงอยากให้มีการตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตให้เกิดความกระจ่าง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียชีวิต และคลายความสงสัยของครอบครัว.-สำนักข่าวไทย
3