กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – รมว.พลังงานเผยปลัดคนใหม่ “กุลิศ สมบัติศิริ” มาจากการหารือร่วมกันของรัฐบาลที่จะทำให้การทำงานข้ามสายงานบรรลุยุทธศาสตร์ 20 ปี งานแรกโซลาร์รูฟท็อปภาคประชาชนที่ต้องดำเนินการให้เสร็จภายในปีนี้ แย้มอาจทบทวนค่าไฟฟ้าพลังงานทดแทน 2.40 บาท/หน่วย พร้อมไม่ให้ความเห็นกรณี ครม.สปป.ลาว ยุติโครงการเขื่อนไฟฟ้าชั่วคราว
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงมติ ครม.ที่แต่งตั้งนายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร มาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงพลังงานคนใหม่ ว่า เป็นการหารือกันในรัฐบาลและเห็นว่านายกุลิศ เป็นบุคคลที่เหมาะสม เป็นผู้เชี่ยวชาญ มีเหตุผล ที่จะเข้ามาบริหารจัดการได้ทุกหน่วยงานที่ต้องทำงานร่วมกันภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ดังนั้น ทุกหน่วยงานต้องทำงานร่วมกันแบบระบบการบริหารข้ามสายงาน (Cross Functional Management) หรือ CFM ซึ่งกระทรวงการคลังและพลังงานก็จะเป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นการทำงานของระบบนี้
“การโยกย้ายทำงานร่วมกันครั้งนี้เป็นการบริหารแบบ Cross Functional ก.พลังงานและคลังเป็นตัวอย่างที่ว่า จะไม่มี ไซโล (silo ) ของกระทรวงกระทรวงหนึ่ง การทำงานของรัฐบาลจากนี้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกันจะทำงานร่วมกันได้หมด โดยต้องขอขอบคุณท่านปลัดกระทรวงพลังงานที่ท่านเห็นความสำคัญในการทำงานร่วมมือแบบครอสฟังชั่นนี้” นายศิริ กล่าว
นายศิริ กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงการคลังและพลังงานจะมีการทำงานที่เกี่ยวเนื่องร่วมกันมาตลอด เช่น ภาษีบี 20 ที่เดินหน้ารวดเร็วภายใน 3 เดือน และงานใหม่ ซึ่งต้องใช้ความรู้ด้านภาษี ด้านการเงิน ด้านเศรษฐศาสตร์ที่นายกุลิศมีความเชี่ยวชาญเข้ามาร่วมด้วย คือ การเปิดรับซื้อไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อปจากประชาชนที่จะต้องมีการขายไฟฟ้าส่วนเกินเข้าระบบ ซึ่งต้องดำเนินการให้เสร็จภายในปลายปี 2561 ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภาคประชาชนและต้องดูถึงความมั่นคงของระบบไฟฟ้า รวมถึงโครงการ SMART GRID อย่างไรก็ตาม ยังไม่ขอเปิดเผยว่า ค่าไฟฟ้าจะเป็นเท่าใด ซึ่งก่อนหน้านี้ที่เคยระบุว่า ค่าไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนจะรับซื้อทั้งหมด ในอัตราเดียวกัน คือ ประมาณ 2.44 บาทต่อหน่วยนั้น เรื่องนี้คงต้องพิจารณาแบบ DYNAMIC หรือมีความคล่องตัว เหมาะสมกับเชื้อเพลิงและเหตุผลอื่น ๆ
ส่วนกรณีที่ ครม.สปป.ลาว มีมติ รัฐบาลจะให้ยุติการพิจารณาโครงการเขื่อนใหม่ไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว เพื่อศึกษาทบทวนเกี่ยวกับยุทธศาสตร์และแผนพัฒนาเขื่อนผลิตไฟฟ้าใน สปป.ลาว หลังจากเกิดเหตุเขื่อนดินโรงไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อยแตก และตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงนั้น นายศิริ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในของ สปป.ลาว การดำเนินการหากจะเปลี่ยนตามข้อตกลงซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกัน 9,000 เมกะวัตต์ ก็คงต้อให้ รัฐบาล สปป.ลาวแจ้งมา. -สำนักข่าวไทย