กรมชลฯ สั่งจับตา 2 เขื่อนเฝ้าระวังน้ำเกินเกณฑ์

ภูมิภาค 4  ส.ค.61- กรมชลประทานสั่งจับตา 2 เขื่อนเฝ้าระวังน้ำเขื่อนน้ำอูน จังหวัดสกลนคร ซึ่งระดับน้ำเกินระดับกักเก็บแล้ว และเขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ที่ขาดอีกเพียงร้อยละ 5 น้ำก็จะล้นสปิลเวย์ ด้าน สนทช. ชี้ 115 เขื่อน – อ่างเก็บน้ำวิกฤตหนัก น้ำทะลุเกินเกณฑ์ เร่งระบายภายใน 10 วัน จับตาเดือนนี้เจอพายุซ้ำ


เขื่อนน้ำอูน ที่สกลนคร ปริมาณน้ำกักเก็บทะลุ 101% ขณะที่เขื่อนแก่งกระจาน เพชรบุรี ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดวันนี้อยู่ที่ 95% แล้ว จนต้องนำเครื่องสูบน้ำไฮโดรลิก จำนวน 10 เครื่อง ขนาด 2 คิว 7 เครื่อง และเครื่องสูบน้ำดีเซลขนาด 12 นิ้ว 10 เครื่อง รวม 27 เครื่อง จากสำนักเครื่องจักรกลกรมชลประทาน มาติดตั้งเพื่อเร่งระบายน้ำ ก่อนที่น้ำจะล้นสปิลเวย์ เนื่องจากขณะนี้น้ำได้เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างต่อเนื่องและเสมอสปิลเวย์แล้ว หากปล่อยน้ำให้ล้นสปิลเวย์เอง จะทำให้ความรุนแรงของน้ำมีมากกว่า และขอให้ประชาชนที่อยู่ในจังหวัดเพชรบุรี โดยเฉพาะที่อาศัยอยู่ริม 2 ฝั่งแม่น้ำเพชร ให้เฝ้าติดตามข่าวสารสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้น้ำในเขื่อนแก่งกระจานมีปริมาณเพิ่มขึ้น ปัจจุบันเขื่อนแก่งกระจานมีปริมาณน้ำ 674.452 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 94.99% เปิดระบายน้ำ 107.69 ลบ.ม./วินาที เขื่อนแก่งกระจาน ในวันที่ 3 สิงหาคม 2561 เพิ่มการระบายน้ำลงแม่น้ำเพชรบุรี 107.69 ลบ.ม./วินาที โดยจะมีผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำด้านท้ายน้ำในบางแห่ง ด้านเขื่อนเพชร ปรับการระบายน้ำลงแม่น้ำเพชรบุรี จากในวันนี้ 68.13 ลบ.ม./วินาที เป็นประมาณ 70.00 ลบ.ม./วินาที แต่ยังไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำ

ล่าสุดนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเรียก กรมชลประทาน ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมด่วน ประเมินสถานการณ์น้ำล้นเขื่อนแก่งกระจาน ห้องประชุมชั้น 3 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนต่อเนื่อง คาดว่าน้ำจะล้นสปิลเวย์พรุ่งนี้


ทั้งยังมีมวลน้ำที่จะล้นสปิลเวย์สร้างความเสียหายให้กับสองฝั่งแม่น้ำเพชรบุรีตั้งแต่อำเภอแก่งกระจานไปจนถึงอำเภอบ้านแหลม มวลน้ำกว่า 300 ลบ.ม./วินาที ลงสู่แม่น้ำเพชรบุรี จึงได้สั่งเตรียมการทุกหน่วยงาน เพราะคาดว่าน้ำที่ระบายจากเขื่อนแก่งกระจาน จะไหลเข้าสู่เขตอำเภอเมืองในเย็นวันที่ 6 สิงหาคม ขอให้ประชาชนที่อยู่ท้ายน้ำได้เตรียมยกของขึ้นที่สูง ส่งผลกระทบตั้งแต่ท้ายน้ำ ตั้งแต่อำเภอบ้านแหลม อำเภอเมืองมาจนถึงอำเภอบ้านลาด  

นายสมเกียรติยังเผยว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ตั้ง “ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต” ขึ้นตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากขณะนี้มีฝนตกจำนวนมาก ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำมีปริมาณน้ำมากกว่าเกณฑ์ควบคุมที่กำหนดไว้ 80-100% แบ่งเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ 12 แห่ง และขนาดกลาง 103 แห่ง ช่วงปลายเดือน ส.ค.นี้ คาดการณ์ว่าจะมีพายุพัดผ่านเข้ามาในไทยผ่านภาคอีสานตอนบน และภาคเหนือตอนบน ซึ่งเป็นพื้นที่ติดลำน้ำโขง และฝั่งภาคตะวันตกอีกระลอก กฟผ. และกรมชลประทานจึงเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนให้มากที่สุดภายใน 10 วัน ซึ่งเป็นช่วงที่ฝนมีปริมาณน้อย เพื่อรองรับปริมาณฝนตกหนักในช่วงกลางเดือน ส.ค.เป็นต้นไป โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์สุ่มเสี่ยง ได้แก่ เขื่อนน้ำอูน จังหวัดสกลนคร เขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี และ เขื่อนวชิราลงกรณ จังหวัดกาญจนบุรี ขอให้ประชาชนในพื้นที่รับน้ำให้เตรียมตัว โดยขณะนี้กรมชลฯ กำลังเร่งตรวจสอบความแข็งแรงของเขื่อนทั้งขนาดกลางและขนาดเล็ก เนื่องจากต้องกำหนดจุดระบายน้ำฉุกเฉินในแต่ละเขื่อนให้ได้ โดยจะให้กระทบพื้นที่ท้ายน้ำน้อยที่สุด สำหรับเขื่อนน้ำอูน ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในอ่างฯ 525 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) มีน้ำล้นทางระบายน้ำล้นฉุกเฉิน ประมาณ 6 เซนติเมตร หรือคิดเป็นปริมาณน้ำล้น 1.22 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน เขื่อนแก่งกระจาน มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 656 ล้าน ลบ.ม. มากกว่าเกณฑ์กักเก็บน้ำสูงสุด 219.81 ล้าน ลบ.ม. และมีการระบายน้ำ 9 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน เขื่อนวชิราลงกรณ ปริมาณน้ำ 7,298 ล้าน ลบ.ม. มากกว่าเกณฑ์กักเก็บน้ำสูงสุด 1,038 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีการระบายน้ำอยู่ที่ 36 ล้าน ลบ.ม.

เขื่อนยโสธรวิกฤตปักธงแดงเตือนประชาชนหลังน้ำชีเพิ่ม


เขื่อนกั้นแม่น้ำชีที่จังหวัดยโสธรถึงขั้นวิกฤตขึ้นธงแดง แจ้งเตือนประชาชน หลังปริมาณน้ำชีเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับมีน้ำจากลำน้ำยัง ซึ่งมีต้นน้ำมาจากเทือกเขาภูพาน จังหวัดสกลนคร และน้ำที่ระบายออกจากเขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ ไหลลงมาสมทบ ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมหลายพื้นที่ในจังหวัดยโสธร 

สถานการณ์ปริมาณน้ำในแม่น้ำชี เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่ประจำเขื่อนยโสธรในพื้นที่ตำบลเขื่องคำ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ต้องถึงขั้นปักธงแดง เตือนประชาชน พร้อมแขวนประตูระบายน้ำ สูงสุดทั้ง 8 บาน เนื่องจากเขื่อนยโสธร มีปริมาณน้ำอยู่ในขั้นวิกฤตแล้ว พร้อมกับประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวตลิ่งให้เฝ้าระวัง ขณะที่ทางเขื่อนยโสธรจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าคอยติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับยโสธรประสบอุทกภัยแล้ว 5 อำเภอ 3,900 ครัวเรือน มีพื้นที่เกษตรเสียหายเกือบ 40,000 ไร่

นครพนมลุ้นเขื่อนลาวปล่อยน้ำ ลำน้ำอูนไม่พ้นวิกฤติ

ส่วนสถานการณ์น้ำโขงในพื้นที่นครพนมเพิ่มปริมาณสูงสุดในรอบ 10 ปี และยังไม่พ้นวิกฤต โดยโครงการชลประทานนครพนม แจ้งว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงจากสถานีตรวจวัดชุมชนหนองแสงเขตเทศบาลเมืองนครพนม มีปริมาณอยู่ที่ระดับ 12.42 เมตร เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 8 เซนติเมตร ส่วนสาเหตุที่แม่น้ำโขงมีระดับสูง อาจเกิดจากประเทศเพื่อนบ้านปล่อยน้ำจากเขื่อนลงมาสมทบ ซึ่งขณะนี้ลุ้นว่าลาวจะระบายน้ำจากเขื่อนน้ำเทิน 2 มาหรือไม่ ถ้าปล่อยออกมาจะกระทบฝั่งไทย บริเวณพื้นที่จังหวัดนครพนมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประกอบกับเขื่อนน้ำอูน จังหวัดสกลนคร ปริมาณน้ำได้ล้นสปิลเวย์แล้ว จำเป็นต้องระบายน้ำลงลำน้ำสาขา ซึ่งจะเกิดผลกระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำในพื้นที่อำเภอนาหว้า ศรีสงคราม ท่าอุเทน ทางการได้แจ้งเตือนให้ชาวบ้านขนย้ายสิ่งของและสัตว์เลี้ยงไปยังที่ปลอดภัย

หนองคายน้ำโขงยังสูงเทศบาลเร่งสูบน้ำ

ส่วนที่หนองคายระดับน้ำในแม่น้ำโขงเริ่มทรงตัวและลดลงเล็กน้อย ล่าสุดวัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ อยู่ที่ระดับ 11.32 เมตร ลดลงจากช่วงเดียวกันของเมื่อวานนี้ 40 ซม. ต่ำกว่าตลิ่ง 88 ซม. แต่ยังอยู่ในระดับที่สูงอยู่ และยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเทศบาลเมืองหนองคายยังคงปิดประตูระบายน้ำทั้ง 6 ประตู (ปิดต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค.) และเร่งเดินเครื่องสูบน้ำตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้ไหลเข้าไปท่วมพื้นที่ชั้นใน และเป็นการพร่องน้ำรับน้ำฝนที่จะตกระลอกใหม่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

EOD ลุยค้นหาจรวด หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง

13 ส.ค. – EOD ลุยค้นหา-เก็บกู้จรวดในพื้นที่บุรีรัมย์-ศรีสะเกษ หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง ขณะที่คณะ ICRC ลงพื้นที่เก็บข้อมูลผลกระทบเหตุปะทะ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD ลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ยางพาราของชาวบ้านและอีกหลายจุด ในเขต ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบหลุมต้องสงสัยอยู่ในที่ดินของตัวเอง จากการตรวจสอบพบสะเก็ดระเบิด และอีกหลายจุดพบเป็นหลุมคล้ายหลุมจรวด BM21 ที่ตกลงมา เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และต้องใช้ความระมัดระวัง ขณะที่ชาวบ้านที่เพิ่งเข้ามาอยู่บ้าน ยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ โดยเฉพาะหลังมีทหารเหยียบทุ่นระเบิดเป็นรายที่ 5 EOD เร่งตรวจสอบ–กู้ระเบิดกระสุนปืนใหญ่ชายแดน ส่วนที่ศรีสะเกษเจ้าหน้าที่ EOD สนธิกำลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีพบกระสุนปืนใหญ่ตกในเขต ต.เสาธงชัย และ ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดน เบื้องต้นพบ 7 จุด บริเวณสวนยางพาราและใกล้เขตชุมชน โดยส่วนใหญ่เป็นลูกกระสุนปืนใหญ่ขนาด 100 มิลลิเมตร เจ้าหน้าที่ได้ทำการขุดตรวจพิสูจน์ พบว่าหลายลูกระเบิดไปแล้ว เหลือเพียงเศษซาก และยังพบอีก 1 จุดในพื้น […]

อึ้งพระอยู่กับสีกา เปิดบนรถเจอกองทิชชูใช้แล้ว

สกลนคร 13 ส.ค. – วงการผ้าเหลืองฉาวอีก ตำรวจตรวจรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง พบพระกับสีกาอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 คุยไปคุยมา สุดท้ายไปจบที่ลาสิกขา หลังตำรวจ สภ.ขมิ้น จ.สกลนคร ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบรถเก๋งต้องสงสัยสีดำ จอดผิดปกติบริเวณ ริมคลอง บ.พาน ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อเข้าไปตรวจสอบ ตำรวจต้องอึ้ง เมื่อเจอพระอยู่กับสีกา 2 ต่อ 2 ในรถ ต่อมาทราบว่า คือ พระชัยณรงค์ อายุ 53 ปี สังกัด วัดแห่งหนึ่ง อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ จึงเชิญตัวไปยังวัดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อทำพิธีลาสิกขา และนำตัวมาตรวจปัสสาวะ ผลไม่พบสารเสพติด แต่รถที่พระเเละสีกาดังกล่าวอยู่ด้วยกัน พบเป็นรถที่ถูกสวมทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ คืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.ขมิ้น พบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณสถานที่เก็บของกลาง กระจกด้านข้างและด้านหลังติดฟิล์มดำสนิท แต่ด้านหน้าฟิล์มใสมองเห็นถึงภายใน ที่เบาะนั่งข้างคนขับ ยังพบกองจีวรของทิดชัยณรงค์ […]

สถานการณ์ชายแดนสุ่มเสี่ยงปะทะรอบ 2

สุรินทร์ 13 ส.ค. – กระแสข่าวจากหลายฝ่ายยืนยันตรงกันว่าระยะ 2 วันนี้ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเพิ่มความตึงเครียด สุ่มเสี่ยงที่จะมีการปะทะรอบ 2 ฝ่ายปกครอง จ.สุรินทร์ จึงแจ้งเตือนไปยังกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้ลูกบ้านเตรียมพร้อมรองรับเหตุฉุกเฉิน ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือน พบว่า หลายครอบครัวเพิ่งกลับเข้าพื้นที่ 1-2 วัน หลังอพยพหนีภัยการสู้รบในห้วงวันที่ 24 – 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ได้รับข่าวไม่สู้ดีนัก เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง แจ้งให้เตรียมความพร้อม เก็บสัมภาระไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงการปะทะ รอบ 2 ซึ่งอาจรุนแรงมากกว่ารอบแรก ทำให้ชาวบ้านหลายคนต่างตื่นตระหนก ต้องการอพยพไปอยู่นอกพื้นที่ แต่เมื่อผู้นำหมู่บ้านทำความเข้าใจ ก็คลายความกังวลลงบ้าง โดยสื่อสารข้อความจากนายอำเภอพนมดงรักว่า รอให้มีเสียงปะทะกันเกิดขึ้นก่อน จึงให้อพยพ ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อฟัง เพราะส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะอพยพไปที่ไหน เพราะยังไม่มีการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่หญิงคนหนึ่งติดอยู่ในพื้นที่สู้รบ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือนตลอดห้าวัน เพราะเป็นห่วงวัวที่เลี้ยงไว้ จึงอาศัยอยู่ในกระต๊อบพร้อมญาติรวมสี่คน และประเมินสถานการณ์ว่า น่าจะปลอดภัย เพราะวิถีกระสุนไปตกไกลกว่า จึงได้ยินเสียงปะทะอย่างชัดเจน […]

คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำ ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัว

มุกดาหาร 13 ส.ค.- คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา หลังศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 26 ปี คดีน้องชมพู่ จากกรณีศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาเพิ่มโทษให้จำคุก “ลุงพล” 26 ปี ฐานเจตนาฆ่าเด็ก พรากผู้เยาว์ และอำพรางศพ ขณะที่ “ป้าแต๋น” พิพากษายืนยกฟ้อง ในคดีฆาตกรรม น้องชมพู่ ทั้งนี้ภายหลัง ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ “ลุงพล” ได้ยื่นขอประกันตัว โดยศาลจังหวัดมุกดาหาร เสนอไปยังศาลฎีกา ล่าสุด ช่วงเย็นที่ผ่านมา ศาลฎีกายังไม่มีคำตอบลงมาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ทำให้ “ลุงพล” ถูกคุมตัวไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา ย้อนไปคดีนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 น้องชมพู่ วัย 3 ขวบ หายไปจากบ้านพักภาย ในหมู่บ้านกกกอก ทำให้ชาวบ้านมากกว่า 200 ชีวิต รวมถึง ตัวลุงพล ช่วยกันออกตามหา […]