สกลนคร 3 ส.ค. – กรมชลประทานเร่งพร่องน้ำออกจากเขื่อนน้ำอูน หลังเต็มความจุอ่าง เพื่อให้มีพื้นที่รับฝนใหม่ ป้องกันการเกิดอุกทกภัย
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำที่เขื่อนน้ำอูน อ.พังโคน จ.สกลนคร ซึ่งจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนมาก ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม – 1 สิงหาคม 2561 มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนมากถึง 165 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ขณะนี้เต็มความจุอ่างแล้ว เขื่อนน้ำอูนเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ มีความจุเก็บกัก 520 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยวันที่ 2 สิงหาคม น้ำในอ่างมีปริมาตร 525.17 ล้านลูกบาศก์เมตร กรมชลประทานจึงเร่งพร่องน้ำผ่านอาคารระบายน้ำล้นออกสู่ลำน้ำอูน อีกทั้งเสริมท่อกาลักน้ำขนาด 12นิ้ว จำนวน 10 ชุด เพื่อเพิ่มปริมาตรการระบายน้ำต่อวันให้มากขึ้น ก่อนหน้านี้พร่องน้ำผ่านอาคารระบายน้ำล้นอย่างเดียว ระบายได้วันละ 3.15 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่เมื่อเสริมกาลักน้ำ สามารถระบายน้ำเพิ่มขึ้นอีก 400,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน
นายทองเปลว กล่าวว่า จะติดตั้งกาลักน้ำเพิ่มอีก 15 ชุด เพื่อให้สามารถระบายน้ำออกจากอ่างเพิ่มขึ้นเป็น 4,150,000 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ทำให้ระดับน้ำลดลงวันละประมาณ 5 เซนติเมตร และต่ำกว่าเกณฑ์เก็บกักได้ภายใน 7-10 วัน
สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเขื่อนขนาดกลางที่เต็มความจุ 47 เขื่อน กรมชลประทานได้ระบายน้ำออกตลอดเวลา เพื่อป้องกันน้ำล้นและรักษาเสถียรภาพของเขื่อน โดยระบายออกลำน้ำเดิม (River Outlet) เช่น น้ำจากเขื่อนน้ำอูนจะระบายสู่ลำน้ำอูนแล้วไหลลงสู่ลำน้ำสงครามที่จะออกสู่แม่น้ำโขงที่นครพนม ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำจากท้ายเขื่อนลงไปถึงปากแม่น้ำโขงยังต่ำกว่าตลิ่งครึ่งเมตรถึง 1 เมตร อีกทั้งระดับน้ำในแม่น้ำโขงยังต่ำกว่าลำน้ำสงคราม ทำให้สามารถระบายน้ำได้สะดวก และการระบายน้ำที่ผ่านมายังไม่ส่งผลกระทบให้มีน้ำล้นจากลำน้ำไปท่วมขังพื้นที่ท้ายเขื่อน.-สำนักข่าวไทย