รร.ดิแอทธินี โฮเทล 1 ส.ค. – คลังพร้อมให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม เติมเงินเพิ่มในบัตรหัก Vat ไม่เกิน 7,000 บาทต่อราย นำร่อง 3 เดือนท้ายปี ขณะที่ สศค.เสนอนโยบาย “ยกคนพ้นจน” สวัสดิการแห่งรัฐเฟส 3 โอนเงินให้ผู้มีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาท เพิ่มเติมคุมเงื่อนไขคุณภาพ
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัมมนาทางวิชาการ “เทคโนโลยีทางการคลัง 2018” ว่า การช่วยเหลือผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วยการคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มในจำนวนเท่ากับผู้มีรายได้น้อยใช้ซื้อสินค้าและบริการแต่ไม่เกิน 7,000 บาทต่อปี เตรียมนำร่องทดลองใช้ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี เพื่อคืนเงินให้ผู้ถือบัตรเป็นรายเดือน เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนใช้จ่าย และยังเปิดทางให้รายย่อยเติมเงินผ่านบัตรเพื่อใช้ซื้อสินค้า โดยผู้ถือบัตรไม่ต้องเก็บเอกสารหลักฐาน เพราะการรูดซื้อสินค้าผ่านเครื่อง EDC และ QRCode ของกรุงไทยมีหลักฐานการซื้อขายทุกรายการ เพื่อให้รายย่อยได้มีโอกาสใช้จ่ายซื้อสินค้าจำเป็น
ขณะที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เสนอนโยบายสาธารณะ “ยกคนพ้นจน” หวังแก้ปัญหาความยากจน หลังจากรัฐบาลลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ 11.4 ล้านคน เพื่อให้ผู้ถือบัตรใช้บริการซื้อสินค้าผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐ บริการสาธารณะ รถไฟ รถเมล์ บขส. จากนั้นเฟส 2 มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิต ทั้งการฝึกอาชีพ ทักษะ เฟรนไชส์ ด้วยการจ่ายเงินเพิ่มผ่านบัตรสวัสดิการ หลังลงทะเบียนอบรมรอบ 2 หวังยกระดับครอบครัว ด้วยความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน ทั้งด้านการตรวจสุขภาพคนจน การเรียนภาคบังคับ จัดทำหลักสูตรสำหรับคนจน การออมสำหรับการช่วยเหลือระดับชุมชน พัฒนาอินเทอร์เน็ต สินเชื่อ จัดหาที่ดินทำกิน ดูแลคุณภาพดิน น้ำ กำหนดเงื่อนไขการพัฒนาคุณภาพควบคู่กับการช่วยเหลือด้านตัวเงิน
ทั้งนี้ สศค.เสนอนโยบายสวัสดิการแห่งรัฐเฟส 3 “ยกคนพ้นจน” มุ่งช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย 8.3 ล้านคนจากผู้ลงทะเบียน 11.4 ล้านคน เพื่อช่วยเหลือคนจนอย่างยั่งยืน จึงกำหนดเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม 1. หากรายได้ต่อปีไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินโอนจากรัฐบาลอัตราร้อยละ 20 เช่น หากนาย A มีรายได้ 15,000 บาทต่อปี ได้รับเงินจากรัฐบาล 3,000 บาท รวมเป็น 18,000 บาทต่อปี 2.ผู้มีรายได้ 30,000-40,000 บาทต่อปี ได้รับเงินโอนจากรัฐบาล 6,000 บาทต่อปี 3.รายได้ 40,000-1 แสนบาทต่อปี ได้รับเงินโอนร้อยละ 10 เช่น นาย B มีรายได้ 65,000 บาทต่อปี รับเงินโอน 3,500 บาท จะมีเงินได้รวมทังสิ้น 68,500 บาทต่อปี ส่วนผู้มีรายได้เกิน 100,000 บาทจะไม่ได้รับเงินโอน ข้อเสนอดังกล่าวได้นำผลศึกษาจากทั้งจีน บราซิลในการช่วยเหลือปัญหาความยากจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ.-สำนักข่าวไทย