กยศ.เตรียมหักเงินลูกหนี้เอกชนต้นปีหน้า

กรุงเทพฯ  31 ก.ค. – กยศ.แจงกระบวนการติดตามทวงหนี้ กรณีครูวิภาผู้กู้ปิดบัญชี 5 ราย เดินหน้าหักเงินผู้กู้ผ่านองค์กรนายจ้างทั้งภาครัฐและเอกชน  


นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีลูกศิษย์ที่ครูวิภาค้ำประกันและอาจถูกบังคับคดี 17 ราย ว่า ผู้กู้ได้มาปิดบัญชี 5 ราย และติดต่อชำระบางส่วน 3 ราย ที่เหลือกำลังทยอยติดต่อเข้ามา เชื่อว่าจะสามารถติดตามหนี้ได้ทั้งหมด โดยจะไม่มีการบังคับคดี สำหรับผู้ค้ำประกันรายอื่น ๆ ที่เป็นข่าว จากการตรวจสอบข้อมูลจากกรมบังคับคดีและราชกิจจานุเบกษา ไม่พบข้อมูลว่าคุณครูดังกล่าวถูกศาลมีคำพิพากษาให้ล้มละลายแต่อย่างใด และจากสถิติข้อมูลด้านผู้ค้ำประกันในการกู้ยืมจากระบบ e-Studentloan ระหว่างปีการศึกษา 2551-2560 พบผู้ค้ำประกัน 2,548,086 ราย แบ่งเป็น มารดาบิดาร้อยละ  85 ญาติพี่น้องร้อยละ 14 และครูอาจารย์ร้อยละ  0.17 

สำหรับกรณีที่ข่าวแจ้งว่ามีผู้กู้บางรายที่ครูวิภาค้ำประกันเป็นข้าราชการ แต่ทำไมจึงไม่สามารถติดตามทวงหนี้ได้ กองทุนขอชี้แจงว่าสำหรับผู้กู้ตามข่าวที่อยู่ระหว่างบังคับคดีและยังมีภาระหนี้สินกับกองทุนนั้น กองทุนได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลกับหน่วยงานราชการที่ถือครองข้อมูลแล้ว ไม่พบว่าบุคคลตามข่าวเป็นข้าราชการหรือลูกจ้างประจำที่อยู่ในระบบจ่ายตรงเงินเดือนแต่อย่างใด ส่วนรายที่สามารถดำเนินการบังคับคดีได้นั้น เนื่องจากกองทุนสืบหาทรัพย์สินแล้ว ไม่ปรากฎว่ามีทรัพย์สินที่ลูกหนี้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ นอกจากผู้ค้ำประกันที่มีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของที่ดินเท่านั้น กองทุนจึงยึดทรัพย์ของผู้ค้ำประกัน


ทั้งนี้ ที่ผ่านมากองทุนมีมาตรการติดตามหนี้สินจากผู้กู้ยืม โดยขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานเดียวกับสถาบันการเงินอื่น ๆ ทั้งของรัฐและเอกชนโดยมีวิธีการส่งหนังสือแจ้งภาระหนี้ครั้งแรกให้ผู้กู้ยืมที่ครบกำหนดชำระหนี้งวดแรกทราบเพื่อไปชำระหนี้ และส่งใบแจ้งหนี้ให้ผู้กู้ยืมทุกรายที่ครบกำหนดชำระหนี้ตั้งแต่งวดที่ 2 เป็นต้นไปเพื่อไปชำระหนี้ หากผู้กู้ยืมผิดนัดงวดใดงวดหนึ่งกองทุนจะดำเนินการ ส่งหนังสือติดตามทวงถามหนี้ค้างไปยังผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันให้ชำระหนี้ ส่ง SMS หรือข้อความเสียง (สำหรับรายที่กองทุนมีหมายเลขโทรศัพท์) รวมถึงติดตามหนี้ทางโทรศัพท์เพื่อเจรจาให้ลูกหนี้ชำระหนี้ หากมีการติดตามทวงถามโดยวิธีการต่างๆ แล้ว ผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันไม่ชำระหนี้ จนผู้กู้มีหนี้ค้างชำระหลายงวด กองทุนจะมีหนังสือบอกเลิกสัญญาและดำเนินคดีกับผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกัน โดยยื่นฟ้องผู้กู้ยืมต่อศาลที่ผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันมีภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้าน ทั้งนี้ เมื่อถึงวันนัดพิจารณา หากผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันมาศาล กองทุนจะทำสัญญาประนีประนอมยอมความและให้โอกาสผ่อนชำระหนี้ต่อไปอีกเป็นเวลา 9 ปี และหากผู้กู้และผู้ค้ำประกันไม่มาศาล ศาลจะดำเนินการสืบพยานและมีคำพิพากษาให้ชำระหนี้ หลังจากศาลมีคำพิพากษาแล้ว กองทุนจะดำเนินการติดตามให้ผู้กู้และผู้ค้ำประกันชำระหนี้ หากผู้กู้และผู้ค้ำประกันขอผ่อนชำระหนี้ กองทุนจะพิจารณาให้โอกาสในการผ่อนชำระ แต่หากยังไม่ชำระหนี้กองทุนจะดำเนินการบังคับคดีภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด 

สำหรับขั้นตอนบังคับคดี กองทุนจะขอศาลส่งคำบังคับไปยังภูมิลำเนาของลูกหนี้ตามคำพิพากษา โดยจะสืบหาทรัพย์สินที่ผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ และขอหมายบังคับคดีต่อศาลเพื่อส่งให้กรมบังคับคดีทำการยึดทรัพย์หรืออายัดทรัพย์สินของผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกัน  เพื่อนำมาขายทอดตลาดต่อไป อย่างไรก็ตาม ทางกองทุนประสานงานกับกรมบังคับคดีในการจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยในชั้นบังคับคดี เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ตามคำพิพาษาที่ถูกยึดทรัพย์ในการผ่อนชำระหนี้ได้อีกภายในระยะไม่เกิน 3 ปีหรือภายในระยะเวลาที่กองทุนและลูกหนี้ตกลงกันเพื่อให้โอกาสแก่ลูกหนี้และงดการขายทอดตลาดไว้ก่อน เมื่อลูกหนี้ชำระหนี้เสร็จสิ้นกองทุนจะดำเนินการถอนการยึดทรัพย์สินดังกล่าว

ปัจจุบันพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560 กำหนดให้กองทุนมีอำนาจขอข้อมูลต่าง ๆ จากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนทำให้กองทุน สามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้กู้ยืมเพื่อให้ติดตามหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และกองทุนมีอำนาจในการแจ้งหักเงินเดือนของผู้กู้ผ่านองค์กรนายจ้างทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งขณะนี้เริ่มดำเนินการแจ้งหักเงินเดือนของข้าราชการกรมบัญชีกลางเป็นหน่วยงานแรกแล้ว และจะดำเนินการแจ้งหักเงินเดือนของข้าราชการทั้งหมดลำดับถัดไป 


ส่วนภาคเอกชนจะเริ่มแจ้งหักเงินเดือนต้นปีหน้าเป็นต้นไป ส่วนผู้กู้ยืมที่ประกอบธุรกิจ โดยไม่ได้รับเงินเดือนผ่านนายจ้าง กองทุนจะดำเนินการติดตามหนี้อย่างต่อเนื่อง โดยใช้ข้อมูลที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ และติดตามโดยวิธีการอื่น ๆ ในมาตรฐานเดียวกับที่สถาบันการเงินทั่วไป เพื่อให้ได้เงินกลับคืนสู่กองทุนและนำไปใช้หมุนเวียนในการให้โอกาสทางการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษารุ่นหลังต่อไป.-สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว