ด.ต.สภ.นาวังมอบตัวรับเข้าระงับเหตุวิวาทแต่ปืนลั่นใส่ผู้ตายก่อนนำศพทิ้งอ่างเก็บน้ำห้วยเดื่อ

กรุงเทพฯ 31 ก.ค.- ดาบตำรวจ สภ.นาวัง จ.หนองบังลำภู เข้ามอบตัวแล้ว หลังเข้าไกล่เกลี่ยเหตุทะเลาะวิวาท จนเกิดปืนลั่นใส่ผู้ตายก่อนนำศพใส่กระสอบปุ๋ยถ่วงในอ่างเก็บน้ำห้วยเดื่อ จ.เลยเพื่อซ่อนเร้นทำลายศพ


พ.ต.อ.กฤษณะ  พัฒนเจริญ  รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณี พบศพชายลอยน้ำที่อ่างเก็บน้ำห้วยเดื่อ  อ.ผาขาว จว.เลย เมื่อวันที่ 28 ก.ค.2561ว่า  หลังพนักงานสอบสวน สภ.ผาขาว ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพดังกล่าวคือนายธีระวัฒน์      ใหญ่กระโทก  อายุ 28 ปี ราษฎรชาว อ.นาวัง  จ.หนองบัวลำภู   ในลักษณะนอนคว่ำหน้าไม่สวมเสื้อ  สวมใส่แต่กางเกงใน และถูกมัดมือ  มัดเท้าใส่ไว้ในกระสอบปุ๋ยโดยใส่ก้อนอิ้นและท่อนไม้เพื่อถ่วงน้ำ    เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดเลย   ทำการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นตรวจพบร่องรอยคล้ายกระสุนปืน ไม่ทราบชนิดและขนาดจำนวน 3 แห่งบริเวณหน้าอก    จึงได้ประสานติดต่อแจ้งไปยังญาติผู้ตายเพื่อรับทราบข้อมูลและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ต่อมาในวันที่  29 ก.ค.2561  เวลาประมาณ 15.00 น.   ด.ต.เจริญชัย   คำใสสุข   อายุ 50 ปี  ผบ.หมู่(ปป.) สภ.นาวัง        ภ.จว.หนองบังลำภู  ได้เข้ามอบตัวพร้อมรับทราบข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุการตายฯ    


ด.ต.เจริญชัย รับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2561  แม่ของผู้ตาย ซึ่งสนิทและรู้จักกัน เพราะมีบุตรของทั้งสองฝ่ายได้เป็นแฟนกัน   และมีบ้านอยู่ในระแวกใกล้เคียงกัน   ได้โทรศัพท์ไปหา ด.ต.เจริญชัยฯ ให้มาช่วยระงับเหตุ เพราะนายธีระวัฒน์(ผู้ตาย) มีอาการคลุ้มคลั่งและจะทำร้ายแฟนชาวต่างชาติ    เมื่อ ด.ต.เจริญชัยฯ มาถึงจึงได้เข้าไปไกล่เกลี่ยกับผู้ตาย  และเกิดการปลุกปล้ำต่อสู้กัน เป็นเหตุให้อาวุธปืนของ ด.ต.เจริญชัยฯ เกิดลั่นใส่ผู้ตาย   ต่อมาจึงได้นำศพผู้ตายไปใส่กระสอบปุ๋ยและนำถ่วงน้ำจนลอยมายังบริเวณพื้นที่ของอ่างเก็บน้ำห้วยเดื่อในเวลาต่อมา

 รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า  พนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์  ทำการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว และสอบปากคำพยานไว้ได้หลายปาก       โดยขณะนี้ ผกก.สภ.นาวัง  ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ ด.ต.เจิรญชัยฯ   ได้มีคำสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว เนื่องจากข้าราชการตำรวจในสังกัดถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีทางอาญา ที่ สภ.ผาขาว   เพื่อให้ปรากฏข้อเท็จจริงและสามารถตอบคำถามสังคมได้   สำหรับความผิดดังกล่าวก็ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน  ซึ่งหากมีข้าราชการตำรวจกระทำความผิด สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะไม่มีการปกป้องอย่างแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้สั่งการข้าราชการตำรวจทุกนายไม่ให้กระทำผิดกฎหมาย หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย เสียเอง กำชับให้ผู้บังคับบัญชาหมั่นตรวจสอบ สอดส่องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีพฤติการณ์เข้าไปเกี่ยวข้องกับกระทำผิดกฎหมายต่างๆ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติตนนอกแถวจะดำเนินการทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาด ไม่ปล่อยไว้อยู่แล้ว เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสียชื่อเสียงองค์กรต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง