นครสวรรค์ 26 ก.ค. – แม่ร้องตำรวจช่วยตามหาลูกชายหายไปจากบ้านนานเป็นอาทิตย์ ติดต่อไม่ได้ พบเป็นศพ ร่างถูกมัดถ่วงในบ่อน้ำหมู่บ้าน มือฆ่าอ้างทะเลาะปมชอบผู้หญิงคนเดียวกัน
ทีมนักประดาน้ำนำร่างของ นายยอดรัก อายุ 53 ปี ขึ้นมาจากบ่อน้ำในพื้นที่หมู่ 4 ต.ดอนคา อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ หลังก่อนหน้านี้ แม่ของผู้ตายได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยตามหาลูกชายที่หายออกไปจากบ้าน ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม และสงสัยว่าน่าจะถูกลวงไปฆ่า
จุดที่พบศพ เป็นบ่อน้ำสำหรับการเกษตรขนาดใหญ่ของชาวบ้าน สภาพร่างเน่าเปื่อย ร่างถูกมัดเชือกติดไว้กับรถเข็นของ และมีถุงบรรจุ อิฐ หิน ปูน ถ่วงน้ำหนักไว้ด้วย สืบทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุไม่ใช่ใคร แต่เป็นญาติห่างๆ ของคนตาย ที่มีอาการทางประสาท คือ นายรุ่ง อายุ 54 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ที่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากบ่อน้ำที่พบศพเพียง 50 เมตร ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการสอบปากคำ ซึ่งเจ้าตัวยังให้การวกไปวนมา จนหาจับความจริงทั้งหมดแทบไม่ได้

เบื้องต้น มาจากเรื่องที่ผู้ตายหึงหวงหญิงคนหนึ่งในพื้นที่ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ ซึ่งทั้งผู้ตายและผู้ก่อเหตุ ไปหลงรักหญิงคนเดียวกัน และในวันที่ 18 ก.ค. วันที่เสียชีวิต ผู้ตายไปพบกับนายรุ่ง ที่บ้าน แล้วบังคับให้รับสารภาพเรื่องหลงรักหญิงสาวคนเดียวกัน จนกลายเป็นเหตุฆาตกรรม โดยผู้ก่อเหตุระบุว่าถูกบีบคั้น จนทนไม่ได้ จึงใช้ของแข็งทุบจนตายคาบ้าน ก่อนนำร่างไปมัดไว้กับรถเข็นของ แล้วนำศพไปทิ้งในบ่อน้ำด้านหลังบ้าน และตั้งแต่ลงมือฆ่าผู้ตายเอาศพไปโยนทิ้งน้ำ ก็หมั่นไปนั่งเฝ้ามองดูตลอด เพราะกลัวความผิดที่ก่อขึ้น ซึ่งตั้งแต่วันก่อเหตุจนถึงวันโดนจับ เห็นศพลอยอืดขึ้นมา 2 ครั้ง ก็ใช้มีดไปจ้วงแทงซ้ำ หวังให้น้ำในบ่อซึมซับร่างผู้ตาย และยังนำของหนักไปมัดถ่วงเสริมไว้ที่ร่างของคนตายด้วย
แม่ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ลูกชายหายไปตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค.67 และไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จึงไปแจ้งความคนหายกับตำรวจ จนกระทั่งมีญาติคนหนึ่งไปดูหมอ และมาบอกว่าลูกถูกฆ่าอยู่ในสระน้ำ สอดคล้องกับข้อมูลตำรวจที่สอบปากคำเพื่อนลูกชายทุกคนแล้วพบว่านายรุ่ง มีพิรุธกว่าใครเพื่อน จึงติดต่อกู้ภัยให้มาช่วยกันงมหาร่าง แม่ผู้ตายบอกด้วยว่า สำหรับนายยอดรักคนตายกับนายรุ่งนั้น เป็นญาติห่างๆ ที่เปรียบเสมือนเพื่อนสนิทกัน พบหานั่งดื่มสุรากันบ่อยครั้ง.-สำนักข่าวไทย