เดินหน้าระบายน้ำตาล 6 ล้านตันใน 6 เดือนข้างหน้า

กรุงเทพฯ 30 ก.ค.- อุตสาหกรรมน้ำตาลไทย ตั้งเป้าหมายส่งออกน้ำตาลที่เหลือในสตอกอีก 6 ล้านตัน ให้หมดภายในม.คปี 62


นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี ประธานคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำตาลตลาดโลกขณะนี้มีน้ำตาลส่วนเกินค่อนข้างมาก ราคาน้ำตาลตกต่ำ แต่การส่งออกน้ำตาลของประเทศไทยในภาพรวมปีนี้ หรือฤดูการผลิตปี 60/61 แม้ในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา  สามารถส่งออกน้ำตาลได้มากกว่าช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาถึง 2 เท่า ด้วยยอดส่งออกรวมประมาณ 6 ล้านตัน แต่จากผลผลิตน้ำตาลรวมที่มากถึงประมาณ 14 ล้านตัน จึงยังคงมีน้ำตาลเหลือจากการบริโภคในประเทศอีกประมาณ 6 ล้านตัน ภาคอุตสาหกรรมน้ำตาลไทย จึงตั้งเป้าหมายที่จะส่งออกน้ำตาลที่เหลือให้ได้ประมาณเดือนละ 1 ล้านตัน เพื่อระบายสตอกให้หมดภายใน 6 เดือนข้างหน้า หรือในช่วงตั้งแต่ เดือน ส.ค.61 ถึง ม.ค.62  แต่ถ้าหากไม่เป็นไปตามแผนนี้ โดยอาจมีผลกระทบจากการขายน้ำตาลออกมาในตลาดโลกอย่างไม่ปกติของอินเดียและปากีสถาน  ก็จะทำให้โรงงานน้ำตาลไทย มีภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาน้ำตาลที่เหลือ ขณะที่จะมีน้ำตาลผลผลิตจากฤดูการผลิตใหม่ ปี 61/62 ที่คาดว่า จะมีผลผลิตมากถึง 13 ล้านตัน เข้ามาสมทบอีก

สำหรับทางออกของอุตสาหกรรมน้ำตาลไทยในระยะสั้นคือ เร่งพิจารณาหาทางพิจารณานำน้ำตาลไปผลิตผลิตภัณฑ์อย่างอื่นมากขึ้น เช่น นำไปผลิตเอทานอลเพิ่มมากขึ้นจากที่ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 6.25 ล้านลิตรต่อวัน  มีความต้องการใช้ในประเทศ  4 ล้านลิตรต่อวัน ดังนั้นจึงยังมีโอกาสมีโอกาสที่จะนำโมลาส น้ำตาลหรือน้ำอ้อย ไปผลิตเอทานอลเพิ่มมากขึ้น และผลักดันให้มีการใช้เชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์เพิ่มมากขึ้น ผ่านวิธีการปรับเปลี่ยนนโยบายพลังงาน โดยลดประเภทของน้ำมันเบนซินให้เหลือเท่าที่จำเป็น แนวทางนี้ คาดว่า จะช่วยสร้างความต้องการใช้เอทานอลในประเทศเพิ่มสูงขึ้นได้ ส่วนในระยะยาวต้องรอการแก้ไขพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาล พ.ศ. 2527 ที่จะช่วยเปิดทางให้สามารถนำอ้อยไปผลิตผลิตภัณฑ์อย่างอื่นได้มากขึ้นจากปัจจุบันถูกกำหนดให้อ้อยต้องนำไปผลิตน้ำตาลเท่านั้น-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]