กยศ.ยื่นระงับบังคับคดี ‘ครูวิภา’ ชั่วคราว

กรมบังคับคดี 25ก.ค.-กยศ.ยื่นขอระงับการบังคับคดี-ขายทอดตลาดทรัพย์ ครูวิภาชั่วคราว เพื่อเร่งสืบทรัพย์ลูกหนี้ ยอมรับกรณีนี้สืบทรัพย์เจอครูวิภาคนเดียว ชี้เป็นกรณีเเรกที่ค้ำถึง 60 คน ด้านครูวิภายังกังวลใจหากสืบทรัพย์ไม่พบ ก็ต้องจ่ายตามกฎหมาย ยื่น 2 ข้อเสนอให้ กยศ.ช่วย


น.ส.วิภา บานเย็น ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกำแพงเพชร เดินทางเข้าพบนางเพ็ญรวี มาเเสง ผู้อำนวยการกองฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ ในฐานะโฆษกกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม เพื่อปรึกษาหารือข้อกฎหมาย ร่วมกับนายปรเมศวร์ สังข์เอี่ยม ผู้อำนวยการฝ่ายคดีเเละบังคับคดีเเละรักษาการผู้อำนวยการฝ่ายบริหารหนี้ กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) หลังได้รับความเดือดร้อนต้องชำระหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.)แทนนักเรียนกว่า 30 คนเพราะได้ลงชื่อค้ำประกันให้เเต่ต่อมานักเรียนทั้งหมดก็ไม่ชำระหนี้ มูลค่าหนี้รวมทั้งหมดเกือบ 1 ล้านบาท


ด้านนายปรเมศวร์ กล่าวภายหลังการหารือนานกว่า 2 ชั่วโมง ว่า กยศ.ได้ยื่นขอระงับการบังคับคดีเเละการขายทอดตลาดทรัพย์ของครูวิภาไว้เป็นการชั่วคราวเพื่อให้คดีเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้ในชั้นบังคับคดี โดยจะเร่งสืบทรัพย์เเละติดตามอดีตลูกศิษย์หรือผู้ค้ำประกันรายอื่นเพื่ออายัดเงินเดือนหรือนำทรัพย์สินไปขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้คืนให้กับ กยศ.โดยการสืบทรัพย์จะสืบจากที่อยู่เเละเบอร์โทรศัพท์ของลูกหนี้เพื่ออายัดเงินเดือนเเละยึดทรัพย์ เเต่ถึงอย่างไรหากสืบทรัพย์ลูกหนี้รายอื่นไม่ได้    ครูวิภาก็ต้องชำระหนี้ตามกฎหมายตามเดิม ซึ่งที่ผ่านมา กยศ.ยอมรับว่าสืบทรัพย์เจอเเค่ครูวิภาคนเดียว เพื่อให้ครูได้ชำระในส่วนที่ครูค้ำประกัน ซึ่งไม่ใช่ทั้งหมดของมูลหนี้ที่ศิษย์ไปกู้ยืมมา 


ทั้งนี้ พบว่า ลูกหนี้ 60 คนของครูวิภา แบ่งเป็นปิดบัญชีไปเเล้ว 28 คน ครูปิดบัญชีให้ 4 คน ชำระเงินปกติ 6 คน เหลือ 22 คนที่ กยศ.จะเตรียมฟ้องร้องบังคับคดี ส่วนข้อเสนอที่ครูขอให้เปลี่ยนภาระหนี้ไปเป็นของผู้กู้หรือผู้ปกครองเเละข้อเสนออื่น ๆ ต้องรอเข้าบอร์ดกยศ.อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งยอมรับว่าครั้งนี้เป็นกรณีเเรกของ กยศ.ที่พบว่าครู  1  คน  ค้ำประกันถึง 60 คน ซึ่งเกณฑ์ของกยศ.ที่กำหนดไม่จำกัดจำนวนนั้น ก็คาดว่าครู 1 คนน่าจะค้ำประกันไม่เกิน 2 คน

ด้านน.ส.วิภา กล่าวว่า ยังรู้สึกกังวลใจเพราะหากเจ้าหน้าที่สืบทรัพย์รายอื่นไม่ได้ ก็ต้องกลับมาชำระหนี้ตามเดิม จึงยื่น 2ข้อเสนอให้กับกยศ. ได้แก่ การให้เปลี่ยนภาระหนี้ให้เป็นของผู้กู้หรือผู้ปกครองเเทน เเละหากลูกศิษย์มาชำระต้องให้ระบุว่าจ่ายในส่วนของตนก่อน ซึ่ง กยศ.ก็จะนำไปประชุมอีกครั้ง ทั้งนี้ภายหลังที่เป็นข่าว มีลูกศิษย์ 2 คนโทรมาขอโทษ โดยอ้างว่าไม่คิดว่าจะทำให้ครูลำบากขนาดนี้ และ 1 ใน2 ก็ได้ปิดบัญชีไปเเล้ว ที่ผ่านมาได้ติดต่อไปยังลูกศิษย์ทั้ง 60 คน เเต่ติดต่อได้ไม่ถึง 10 คน ก็รู้สึกเสียใจเพราะความหวังดีของตนที่อยากให้ลูกศิษย์ทุกคนได้เรียนต่อสูงๆ เเต่กลับทำให้ตนลำบาก

สำหรับการช่วยเหลือของครูวิภา เมื่อปี 2541-2542 ได้เซนต์ค้ำประกันให้นักเรียนจำนวน 60 คน เพื่อเป็นทุนการศึกษาเรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 5 โดยหวังให้เด็กมีการศึกษาที่ดี เพราะส่วนใหญ่เป็นเด็กยากจน โดยในปีดังกล่าวเป็นช่วงเเรก ที่มีการกู้เงิน กยศ. และสามารถค้ำประกันให้เด็กกี่คนก็ได้ แต่ต่อมาในปี 2551 มีหมายศาลเรียกให้ตนไปไกล่เกลี่ย ในการชำระหนี้ และคิดว่าทุกคนจะชำระหนี้หมดแล้ว แต่เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา มีคำสั่งบังคับคดียึดบ้านและที่ดินของตน รวมมูลค่า 1,900,000 บาท เพราะนักเรียน 30 คนจาก 60 คนไม่ชำระหนี้ กยศ.รวมเกือบ 1ล้านบาท โดยหลังจากที่ยึดบ้านเเละที่ดิน ตนได้ไถ่คืนแล้วและเบื้องต้นก็ได้ชำระหนี้ให้เด็ก 4 คนไปแล้วรวม 92,000 บาท เหลือต้องเเบกรับภาระหนี้อีก 26 คน มูลหนี้ต่อคนราว 20,000-30,000 บาทเพราะเป็นเงินต้นรวมกับดอกเบี้ย จากยอดเงินกู้ตั้งต้นเพียงรายละประมาณ 10,000 บาท ซึ่งตนก็เครียดว่าจะทำอย่างไรต่อ เพราะกลัวจะเป็นบุคคลล้มละลายเเละขณะนี้ก็ทำธุรกรรมทางการเงินใดๆไม่ได้ ขณะเดียวกันตนได้ยื่นหนังสือถึง กยศ.เพื่อขอให้เปลี่ยนภาระหนี้ไปยังผู้กู้หรือผู้ปกครองเพราะได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ต้องนำทรัพย์สินส่วนตัวและมรดกมาจ่ายหนี้แทน ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้พยายามติดต่อไปยังลูกศิษย์ แต่กลับปฏิเสธว่าไม่มีเงินจ่าย จึงอยากขอความเห็นใจในสิ่งที่ช่วยเหลือนักเรียน แต่กลับได้รับความเดือดร้อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เวลา 14.30 น. นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา จะจัดเเถลงข่าวในประเด็นดังกล่าวด้วย .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

ลงโทษ “ชัยวัฒน์” ไล่ออกจากราชการ ปม ป.ป.ช.ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรง

กรุงเทพฯ 15 มิ.ย.- ก.ทรัพยากรธรรมชาติฯ มีคำสั่งลงโทษไล่ “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” ออกจากราชการ กรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยพบพฤติการณ์ฮั้วประมูล และปลอมเอกสารตรวจรับงานที่ทำให้รัฐเสียหาย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงนามในคำสั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ 194/2568 ลงวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ให้ลงโทษนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ซึ่งขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ประเภทอำนวยการระดับสูง สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พ้นจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2567 เป็นต้นไป โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังจากคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการประชุมครั้งที่ 3/2568 เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ได้พิจารณาสำนวนไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

สื่อเกาะติด! นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก ถกผลประชุม JBC

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.- นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง หารือผลประชุม JBC กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ได้แจ้งเลื่อนภารกิจการให้ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และคณะ Miss World เข้าคาราวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 68) โดยนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for […]

‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์ 5 หมายเหตุ สะท้อนปมชายแดน

16 มิ.ย.- ‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์หมายเหตุ 5 ข้อ สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจรจา JBC พร้อมตั้งคำถาม “คุยกันดีๆ แล้วทำไมต้องฟ้องศาลโลก?” พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์หมายเหตุ 5 ประเด็น สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา