34 องค์กรใหญ่ประกาศเดินหน้า “OUR Khung Bang Kachao“

กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – 34 องค์กรใหญ่ประกาศความพร้อมเดินหน้าโครงการ OUR Khung Bang Kachao  วางเป้า 5 ปี พัฒนาคุ้งบางกะเจ้า 6 ด้าน ยกระดับคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมสนองแนวพระราชดำริ


นายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการดำเนินงานพัฒนาพื้นที่คุ้งบางกะเจ้าสู่ความยั่งยืน กล่าวในงานเปิดตัวโครงการ OUR Khung Bang Kachao  ว่า คุ้งบางกะเจ้าพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กว่า 12,000 ไร่ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ  ถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีคุณประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมสำคัญของประเทศ ทั้งยังมีคุณค่าเชิงเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว สังคมและวัฒนธรรม ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำริให้สงวนพื้นที่แห่งนี้ไว้เป็นพื้นที่สีเขียว สร้างอากาศบริสุทธิ์และประโยชน์แก่ผู้คนมากมาย  โครงการ OUR Khung Bang Kachao จึงเกิดขึ้นด้วยความร่วมมือจาก 34 องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนชุมชน 6 ตำบลในพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า ภายใต้การกำกับของมูลนิธิชัยพัฒนาที่พร้อมจับมือเดินหน้าพัฒนาพื้นที่คุ้งบางกะเจ้าในทุกด้านร่วมกัน โดยน้อมนำ “ศาสตร์พระราชา” แห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มาสืบสานขยายผลตามแนวพระราชดำริสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาเป็นหลักทำงานสำคัญ


สำหรับโครงการ OUR Khung Bang Kachao เป็นความร่วมมือในรูปแบบการสานพลังร่วมเพื่อพัฒนาสังคม กำหนดเป้าหมายร่วมกันว่าจะขับเคลื่อนการพัฒนา “เศรษฐกิจสีเขียว” หรือ พื้นที่สีเขียวที่ก่อให้เกิดรายได้และยกระดับวิถีชุมชนให้ดีขึ้นให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 5 ปี นอกจากจะหวังผลพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคมวัฒนธรรมแล้ว ยังกำหนดเป้าหมายว่าผลของการดำเนินงาน จะต้องทำให้ชุมชนในพื้นที่เติบโต แข็งแรงอย่างยั่งยืนเพิ่มขึ้นร้อยละ  20 โดยขับเคลื่อนผ่านกระบวนการทำงานทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ 1. พัฒนาพื้นที่สีเขียว 2. จัดการน้ำและการกัดเซาะริมตลิ่ง 3. จัดการขยะ 4. ส่งเสริมอาชีพ 5. ท่องเที่ยว 6. พัฒนาเยาวชนและการศึกษา

“34 องค์กรและชุมชน 6 ตำบล เชื่อมโยงกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน ด้วยวิธีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นเพื่อหาความต้องการที่แท้จริง มาวางกรอบการทำงานและสร้างเป้าหมายร่วมกันของคณะทำงาน ซึ่งถือเป็นโมเดลการพัฒนาชุมชนรูปแบบใหม่ของประเทศไทย ที่สอดคล้องตามแนวพระราชดำริในการอนุรักษ์พื้นที่บางกะเจ้าให้เป็นพื้นที่สีเขียว รวมทั้งพัฒนาและใช้ประโยชน์พื้นที่ในลักษณะเป็นชุมชนดั้งเดิมที่มีการอนุรักษ์วิถีชีวิต และความเป็นอยู่เรียบง่ายอย่างในอดีต” นายสุเมธ กล่าว

สำหรับการพัฒนาทั้ง 6 ด้าน มีการกำหนดกรอบดำเนินงานและวางเป้าหมายการพัฒนาเพื่อให้ตรงตามความต้องการชุมชน ประกอบด้วย 1. ด้านการพัฒนาพื้นที่สีเขียว  นำโดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) วางเป้าภายใน 5 ปี จะมุ่งฟื้นฟูและรักษาพื้นที่สีเขียวให้ได้ 6,000 ไร่  โดยในปี 2561 กำหนดเป้าหมายระยะเริ่มต้นไว้ที่ 400 ไร่ ซึ่งทำร่วมกับเครือข่ายอนุรักษ์พื้นที่สีเขียวทั้ง 6 ตำบลของคุ้งบางกะเจ้า ในพื้นที่ราชพัสดุที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของกรมป่าไม้  ซึ่งนอกจากช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีแล้ว ยังเป็นการต่อยอดการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว ตลอดจนสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า  2.ด้านการจัดการน้ำและการกัดเซาะริมตลิ่ง นำโดย มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์  มุ่งสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และพัฒนา เกิดความมั่นคงและยั่งยืนด้านทรัพยากรน้ำนำไปสู่ความมั่นคงของพื้นที่สีเขียวในคุ้งบางกะเจ้า ผ่านการสร้างแบบอย่างความสำเร็จ ที่พร้อมขยายผลให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่ จากการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น พัฒนาเป็นระบบฐานข้อมูลอย่างละเอียด  ใช้บริหารงานพัฒนาพื้นที่และบริหารสถานการณ์วิกฤต รวมทั้งกำหนดเส้นทางน้ำ ฟื้นฟูคลองและแหล่งน้ำอย่างยั่งยืน 


ขณะที่ 3. ด้านการจัดการขยะ นำโดย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) จะมุ่งลดปัญหาขยะตามแนวทาง Circular Economy หรือ เศรษฐกิจแบบหมุนเวียน โดยการนำขยะรีไซเคิลมาแปรรูปเพิ่มที่มูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์ โดยเริ่มพัฒนา วัดจากแดง พื้นที่นำร่องของโครงการให้เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการจัดการขยะของชุมชน 4. ด้านการส่งเสริมอาชีพ นำโดยบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด มุ่งส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาคุณภาพสินค้าพื้นถิ่นให้มีเอกลักษณ์ หรือ สร้างแบรนด์ของตนเองให้เป็นที่รู้จัก ผ่านการพัฒนาส่งเสริมผลผลิตทางการเกษตรสู่มาตรฐาน GDP  สนับสนุนจัดตั้งตลาดกลางส่งเสริมอัตลักษณ์ภายในชุมชน เพิ่มช่องทางการตลาดออนไลน์  รวมถึงผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยววิถีเกษตรสวนผสมผสานเชิงออร์แกนิค

ส่วน 5. ด้านการท่องเที่ยว นำโดย องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน  มุ่งเน้นการบริหารจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างมีส่วนร่วมและมีระบบ สู่เป้าหมายการพัฒนาท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน  ผ่านกระบวนการทำงานร่วมกันในรูปแบบประชารัฐ เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ความอยู่ดีมีสุข และสร้างความสุขให้แก่คนในชุมชนและนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน และ 6. ด้านการพัฒนาเยาวชนและการศึกษา นำโดย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) มุ่งเน้นการสืบทอดประเพณีวัฒนธรรมแก่คนรุ่นใหม่อย่างเป็นระบบ ผ่านการสร้างแหล่งเรียนรู้ชุมชน ที่รวบรวมหลักฐานข้อมูลทางประวัติศาสตร์และอัตลักษณ์ชุมชน ปลูกฝังแนวทางการพัฒนาโครงการ OUR Khung Bang Kachao ในทุกๆ ด้าน เพื่อสืบสาน และรักษาเอกลักษณ์วิถีชุมชนชาวคุ้งบางกระเจ้าให้ดำรงสืบต่อไปยังเยาวชนรุ่นใหม่ รวมไปถึงปลูกจิตสำนึกให้เกิดความรัก ภาคภูมิใจ และมีการสืบสาน ฟื้นฟูวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมให้คงอยู่และสืบต่อไป  ทั้งนี้ กรอบดำเนินงาน 6 ด้านข้างต้น คณะทำงานจะต้องนำไปบูรณาการเชื่อมโยงเพื่อให้เกิดการพัฒนาร่วมกันอย่างเป็นระบบ

ทั้งหมดนี้ ทำให้คณะทำงานทั้ง 6 ด้าน เชื่อมั่นว่า กระบวนการขับเคลื่อนพัฒนาที่เกิดขึ้นภายใต้โครงการ OUR Khung Bang Kachao จะสามารถมีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม เพื่อสนองแนวพระราชดำริ อันจะส่งผลให้ชุมชนในพื้นที่เติบโตแข็งแรงอย่างยั่งยืนตามเป้าหมาย และสามารถเป็นต้นแบบการพัฒนาชุมชนให้อยู่ร่วมกับพื้นที่สีเขียวได้อย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

ทหารม้าคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา ในพื้นที่ซำแต หลังยอมจำนน

ศรีสะเกษ 29 ก.ค.-ทบ. เผยคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา หลังทหารม้า เข้ากวาดล้างที่มั่นเขมร พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ หลังยอมจำนน จนท.ปลดอาวุธ ยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลเคร่งครัด ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท […]