กทม. 23 ก.ค. – ช่วงปลายสัปดาห์ มีวันสำคัญทางศาสนาถึง 2 วัน คือวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ในส่วนกลาง กระทรวงวัฒนธรรมจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา บริเวณท้องสนามหลวง อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ 5 องค์ ใน 5 ยุคสมัย ให้ประชาชนได้สักการะและมีพิธีหล่อเทียนโบราณถวาย 10 วัดพระอารามหลวง
เวียนมาบรรจบอีกครั้งของวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา อาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา วัดทั่วประเทศต่างจัดกิจกรรมทางศาสนา เช่นเดียวกับมณฑลพิธีท้องสนามหลวง จัดพิธีหล่อเทียนพรรษาโบราณ 10 ต้น ถวาย 10 พระอารามหลวง เพื่อสืบทอดรักษาประเพณีอันดีงามที่มีมาแต่โบราณ
การหล่อเทียนพรรษาของไทยเริ่มในสมัยสุโขทัย เนื่องจากตลอดเข้าพรรษา พระภิกษุ สามเณร ไม่ธุดงค์ที่ไหน โดยในครั้งโบราณกาลไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง ต้องอาศัยแสงสว่างจากเทียนทำวัตรสวดมนต์ พุทธศาสนิกชนจึงหล่อเทียนพรรษาถวาย เชื่อกันว่าการให้ทานด้วยแสงสว่างได้อานิสงส์แรง ทำให้สติปัญญาเฉลียวฉลาด และชีวิตรุ่งเรืองดั่งแสงเทียน
ตั้งแต่อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุทั้ง 5 องค์ มาประดิษฐานบนบุษบกฝั่งทิศใต้มณฑลพิธีท้องสนาม พุทธศาสนิกชนสักการบูชาอย่างต่อเนื่อง เพราะถือเป็นโอกาสสำคัญที่นำพระบรมสารีริกธาตุทั้ง 5 ยุค มารวมไว้ที่เดียว พร้อมจัดนิทรรศการแสดงประวัติของพระบรมสารีริกธาตุทั้ง 5 องค์ ความพิเศษ คือ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานพระราชานุญาตให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระองค์จากวัดพระแก้ว มาประดิษฐาน ร่วมกับพระบรมสารีริกธาตุสมัยล้านนา จาก จ.เชียงใหม่ สมัยทวารวดี จากเมืองโบราณคูบัว จ.ราชบุรี สมัยสุโขทัย จากพิพิธภัณฑ์รามคำแหง และสมัยอยุธยา จากพิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา ให้พุทธศาสนิกได้บูชาอย่างใก้ชิด
เดือนกรกฎาคม มีวันสำคัญอีกวัน คือ วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กรมการศาสนาและวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ ซึ่งบทสวดสำคัญที่มีมาแต่สมัยพุทธกาล สวดถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา
เป็นเวลากว่า 1,400 ปี ที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองอยู่คู่แผ่นดินไทย ก็ด้วยทศพิธราชธรรมของพระราชาและประชาชนชาวไทยที่ทำนุบำรุงศาสนาสืบสานประเพณีดีงามเหล่านี้ให้คงอยู่สืบต่อไป. – สำนักข่าวไทย