จับหัวหน้าช่างตัดอวัยวะเพศเพื่อนร่วมงาน อ้างแค้นถูกตีท้ายครัว


ราชบุรี 24 ก.ค.-คดีหนุ่มถูกทำร้ายและตัดอวัยวะเพศที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ที่แท้ฝีมือหัวหน้าช่างอู่ต่อรถบัสที่ผู้บาดเจ็บทำงานอยู่ สารภาพแค้นถูกผู้บาดเจ็บตีท้ายครัว เมาแล้วจะทำมิดีมิร้ายภรรยา 

กรณีนายสุวิทย์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านที่หมู่ 1 ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ถูกทำร้ายร่างกายและถูกตัดอวัยวะเพศจนขาดมารักษาตัวอยู่ภายในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลบ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี สภาพมีบาดแผลถูกตีตามศีรษะแตกหลายแผล หน้าตาบวมปูด และอวัยวะเพศถูกตัดจนขาดถึงโคน อาการสาหัส เบื้องต้นผู้บาดเจ็บยังให้การวกวนไปมา และไม่ทราบว่าเกิดเหตุการณ์ขึ้นที่ไหน เพียงแต่บอกว่าไปนั่งดื่มกินที่ร้านอาหารกับนายเอียดและเพื่อน ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ทำร้าย


ความคืบหน้าของคดี เมื่อวานนี้ (23 ก.ค.) พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย  อินทรปรีชา ผกก.สภ.บ้านโป่ง สั่งการให้ชุดสืบสวนไปที่บ้านเช่าซอยบางตาล หมู่ 10 ต.หนองอ้อ อ.บ้านโป่ง ซึ่งเป็นบ้านพักของนายเพิ่มศักดิ์ เพ็ชรประเสริฐ หรือเอียด อายุ 50 ปี หัวหน้าช่างอู่ต่อรถบัสที่นายสุวิทย์ ผู้บาดเจ็บ ทำงานอยู่ ทราบว่า นายสุวิทย์ มาอาศัยอยู่กับนายเพิ่มศักดิ์ โดยเชิญตัวมาสอบปากคำ

ใช้เวลาสอบสวนอยู่พักใหญ่ นายเพิ่มศักดิ์ จึงยอมให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นคนลงมือก่อเหตุทำร้าย พร้อมกับใช้มีดเชือดอวัยวะเพศของนายสุวิทย์ พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนพร้อมเพื่อนร่วมงานและตัวนายสุวิทย์ มานั่งดื่มสุรากันที่บ้านพักของตน  จนกระทั่งเวลา 02.00 น. ของวันที่ 22 ก.ค. สุราที่ดื่มเกิดหมด ตนพร้อมเพื่อนอีกคนจึงขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปปากซอย เพื่อซื้อสุรากลับมานั่งดื่มต่อ


เมื่อมาถึงหน้าบ้านพัก ระหว่างจอดรถจักรยานยนต์เห็นนางทิน อายุ 52 ปี ภรรยาของตน วิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากบ้าน ตนจึงรีบเดินเข้าไปในบ้าน ก็เห็นนายสุวิทย์ ยืนอยู่หน้าห้อง จึงตะโกนถามว่า ทำอะไรเมียของตน จากนั้นคว้าค้อนขนาดเล็กและเครื่องมือช่างที่คว้าได้กระหน่ำตีที่ศีรษะและใบหน้าจนล้มฟุบสลบ จากนั้นลากตัวออกมาตรงเพิงหน้าบ้าน นายสุวิทย์ อยู่ในสภาพสลบและยังนุ่งกางเกงขาสั้น จึงใช้มีดปลายแหลมปอกผลไม้ตัดอวัยวะเพศจนขาด จากนั้นนำไปโยนทิ้งในพงหญ้า พร้อมกับเดินไปเรียกเพื่อนบ้านบริเวณใกล้เคียงให้ช่วยนำตัวนายสุวิทย์ ขึ้นรถยนต์กระบะสีดำไปส่งโรงพยาบาลบ้านโป่ง

นายเพิ่มศักดิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อช่วงเช้า คิดกลับใจจะเข้ามอบตัวกับตำรวจ และขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเชิญตัวไปสอบปากคำ จึงยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือทำร้ายนายสุวิทย์เอง ซึ่งตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายเพิ่มศักดิ์ ไว้ดำเนินคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย