ผลกระทบพายุเซินติญ เกิดน้ำท่วม-ดินสไลด์

น่าน 22 ก.ค.-อิทธิพลของพายุเซินติญ ส่งผลให้มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ เกิดน้ำท่วมหลากบ้านเรือนประชาชนและเกิดดินสไลด์ เจ้าหน้าที่ต้องเร่งให้ความช่วยเหลือ 


ที่จังหวัดน่าน อิทธิพลพายุเซินติญ ส่งผลระดับน้ำในแม่น้ำน่านและแม่น้ำสาขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่จุดวัดระดับน้ำ N1 กาดแลง อำเภอเมืองน่าน วัดระดับได้ที่ 5 เมตร 80 เซนติเมตร ใกล้จุดวิกฤตที่อยู่ 7 เมตร ทำให้น้ำล้นทะลักเข้าท่วมถนนหน่อคำ ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน  สูงกว่า 40 เซนติเมตร บ้านเรือนประชาชน ได้รับผลกระทบ ต้อง เร่งขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง และนำกระสอบทรายมาปิดกั้นป้องกันน้ำเข้าท่วม  

ขณะที่ทางเทศบาลเมืองน่าน ได้ ปิดประตูน้ำทั้ง 7 แห่ง พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ รวม 5 เครื่อง ซึ่งหากฝนหยุดตก คาดว่า การระบายจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำค่อยๆ ลดลง ส่วนการเร่งค้นหาผู้สูญหายจากน้ำพัด 2 คน ค้นหาพบแล้ว 1 คน เหลือเพียง นางเฟือย อินปา ชาวบ้านในตำบลภูคา อำเภอปัว ที่ยังไม่พบ เจ้าหน้าที่ยังคงออกค้นหาอย่างเต็มที


ส่วนที่จังหวัดตาก ฝกที่ตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่อง ส่งผล ให้แม่น้ำเมย ล้นตลิ่งไหลและหลากเข้าท่วมที่เชิงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 แบบฉับพลัน ส่งผลให้น้ำท่วมบ้านพักคนงานก่อสร้างริมตลิ่งแม่น้ำเมยกว่า 100 หลังคาเรือน มีคนงานอาศัยอยู่กว่า 300 ชีวิต ต้องอพยพสิ่งของ และเคลื่อนย้ายเด็กเล็กออกจากพื้นที่อย่างโกลาหล บางคนใช้กะละมังซักผ้า ในการเคลื่อนย้ายเด็ก 

เจ้าหน้าที่ทหารพราน ที่ 35 ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 และชุดสยามกู้ภัยอำเภอแม่สอด นับ 100 นาย ได้สนธิกำลังนำเรือติดเครื่องยนต์  4 ลำ  เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่ยังติดอยู่บนหลังคาบ้านพัก ขณะเดียวกันก็ได้มีการเปิดศูนย์พักพิง ให้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมฉุกเฉินชั่วคราว 2 จุด

ผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม และดินสไลด์ทับเส้นทางหมู่บ้านสายในเงา สายจือทะ และสายห้วยน้ำผึ้ง จังหวัดแม่ฮองสอน ทำให้ 16 หมู่บ้าน 62 หย่อมบ้านถูกตัดขาดมา 2 วันแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันแบกรถมอร์เตอร์ไซด์ข้ามน้ำให้ราษฎร พร้อมใช้เรือหางยาว บริการบางจุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในการสัญจรภายในพื้นที่ พร้อมขนย้ายเครื่องจักรหนัก เพื่อนำไปใช้ในการเปิดเส้น เนื่องจากเกิดดินสไลด์หลายจุดในพื้นที่ จึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวังในการสัญจร  


ส่วนสถานการณ์น้ำท่วม ที่อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ผู้ว่าราชการาจังหวัดกาญจนบุรี ต้องเข้าเจรจากับ ชาวบ้าน บ้านสะเนพ่อง ให้อพยพออกจากพื้นที่ อบต.ไล่โว่ เป็นการชั่วคราวก่อน หากระดับน้ำลดลง จึงค่อยกลับมาอาศัยอยู่ที่บ้านได้ตามปกติ เนื่องจากเส้นทางการเข้าออก ยากลำบากต้องอาศัยการเดินเท้าเข้าพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง โดยวันนี้เจ้าหน้าที่สามารถนำถุงยังชีพไปช่วยเหลือประชาชนได้ประมาณ 200 คน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย