กรุงเทพฯ
21 ม.ค.-กสิกรไทยประเมินค่าเงินบาทสัปดาหน้า กรอบ 33.20-33.70 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากสัปดาห์นี้ อ่อนค่า แตะ33.52 บาท/ดอลลาร์ฯ
อ่อนค่าสุดในรอบ 9 เดือน
บริษัท
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 9 เดือน ที่ 33.52
บาทต่อดอลลาร์ฯ
สอดคล้องกับแรงกดดันต่อค่าเงินหยวนและสกุลเงินในเอเชียท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ
และจีน ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ มีแรงหนุนในระหว่างสัปดาห์จากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ
หรือ เฟด ต่อสภาคองเกรส ซึ่งยังคงส่งสัญญาณทยอยคุมเข้มนโยบายการเงินของสหรัฐฯ
ด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี
นอกจากนี้
การอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับสถานะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติเช่นกัน
อย่างไรก็ดี เงินบาทฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วน
หลังการอ่อนค่าของเงินหยวนชะลอลงก่อนช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยในวันศุกร์ (20 ก.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.41
อ่อนค่าลงต่อเนื่องจากระดับ 33.36 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (13 ก.ค.)
ด้าน ดัชนีตลาดหุ้นไทยทะยานขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่กลางสัปดาห์
โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับที่ 1,671.06 จุด ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.68% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่
มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันปรับเพิ่มขึ้น 7.15% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 48,176.17 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 431.45 จุด เพิ่มขึ้น 0.48% จากสัปดาห์ก่อน
สัปดาห์ถัดไป
(23-27 ก.ค.)
ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.20-33.70 บาทต่อดอลลาร์ฯบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย
จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,660
และ 1,645 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,680 และ 1,700 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม
คงได้แก่ ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2561 ของบริษัทจดทะเบียนไทย
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อื่นๆ ได้แก่ จีดีพีไตรมาส
2/2561 ยอดขายบ้านใหม่และบ้านมือสอง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย. ขณะที่
ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป
ตลอดจนดัชนี PMI Composite (เบื้องต้น) ของสหรัฐฯ
และยูโรโซนเดือนก.ค.รวมไปถึงประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
สถานการณ์ค่าเงินหยวน –สำนักข่าวไทย