กรุงเทพฯ 20 ก.ค. – สศก.เผยจีดีพีเกษตรไตรมาส 2 โตร้อยละ 6.2 ทุกสาขาขยายตัว สาขาพืชนำโด่ง พุ่งร้อยละ 8.4 ทั้งปีสัญญาณยังดี คาดโตต่อเนื่องร้อยละ 3-4
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงภาวะเศรษฐกิจการเกษตรไตรมาส 2 ปี 2561 พบว่า ขยายตัวร้อยละ 6.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของ ปี 2560 ปัจจัยหนุนสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการผลิตทางการเกษตร มีการพัฒนาแหล่งน้ำและระบบการกระจายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับการดำเนินนโยบายที่สำคัญ อาทิ การตลาดนำการผลิต การส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ การพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐาน ทำให้การผลิตสินค้าเกษตรมีประสิทธิภาพและมีมาตรฐานที่ดีขึ้น ส่งผลให้ผลผลิตพืชเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ สาขาพืช ไตรมาส 2 ปี 2561 ขยายตัวร้อยละ 8.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 โดยผลผลิตพืชสำคัญที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวนาปี ข้าวนาปรัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อ้อยโรงงาน สับปะรดโรงงาน ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ลำไย และเงาะ สาขาปศุสัตว์ ขยายตัวร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปี 2560 โดยผลผลิตไก่เนื้อ ไข่ไก่ และน้ำนมดิบ มีปริมาณเพิ่มขึ้น สาขาประมง ขยายตัวร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 โดยการทำประมงทะเลและประมงน้ำจืดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สาขาบริการทางการเกษตรขยายตัวร้อยละ 5.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 สาขาป่าไม้ ขยายตัวร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 เนื่องจากผลผลิตป่าไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ไม้ยางพารา ครั่ง และรังนก เพิ่มขึ้น
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตรปี 2561 คาดว่าจะขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 3.0 – 4.0 โดยทุกสาขาการผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2560 จากสภาพอากาศและปริมาณน้ำที่เอื้ออำนวยต่อการผลิตทางการเกษตร การดำเนินนโยบายด้านการเกษตรต่าง ๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาเกษตรกรและประสิทธิภาพในการผลิตสินค้าเกษตร รวมถึงเศรษฐกิจโลกที่มีสัญญาณดีขึ้น ส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ของไทย ทั้งนี้ จำเป็นต้องติดตามสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรอย่างใกล้ชิด อาทิ ภัยธรรมชาติ ความผันผวนของสภาพอากาศ และโรคระบาด ซึ่งอาจส่งผลต่อการผลิตทางการเกษตรในช่วงครึ่งหลังของปี 2561.-สำนักข่าวไทย