ออมสินแจงช่วยเหลือหนี้ครู

กรุงเทพฯ  20 ก.ค. –  ธนาคารออมสินแจงปัญหาหนี้สินครู ยืนยันคิดดอกเบี้ยต่ำสุด ทั้งยังมีมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ที่ยืดหยุ่น ช่วยเหลือแก้ไขหนี้ตลอดกว่า 12 ปี  และยินดีช่วยแก้ไขปัญหาไม่ว่าจะอยู่ในขั้นตอนใด 


นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยถึงกรณีเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูรวมตัวประมาณ 100 คน เรียกร้องให้รัฐบาลและธนาคารออมสินพักหนี้โครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา ( ช.พ.ค.) ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป พร้อมชักชวนลูกหนี้ ช.พ.ค. ทั่วประเทศร่วมกันยุติการชำระหนี้กับธนาคารออมสิน ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2561 ว่า ปัจจุบันธนาคารออมสินคิดดอกเบี้ยโครงการ ช.พ.ค.ต่ำมากเพียงร้อยละ 5-6 ต่อปี (ตามข้อตกลงใหม่) ขณะที่สินเชื่อบุคคลทั่วไปในระบบสถาบันการเงินที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน คิดดอกเบี้ยร้อยละ 15 – 28 ต่อปี อีกทั้งระยะเวลาผ่อนชำระนานถึง 30 ปี ซึ่งคิดดอกเบี้ยลดต้นลดดอกเช่นเดียวกับสินเชื่อเคหะที่มีเงินงวดผ่อนชำระต่ำ ทำให้สามารถกู้เงินจำนวนที่สูงขึ้นได้ แล้วแต่ความจำเป็นของครู แต่ถ้าสามารถผ่อนชำระเงินกู้มากกว่าเงินงวดตามเงื่อนไข หรือนำเงินมาสมทบชำระหนี้ เพื่อให้ชำระหนี้หมดเร็วกว่าที่กำหนดไว้จะทำให้จ่ายดอกเบี้ยลดลง

นอกจากนี้ ตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการธนาคารออมสินมีการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้ครูมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับผู้ที่มีปัญหาในการผ่อนชำระหรือชำระไม่ไหวด้วยการส่งหนังสือเชิญชวนให้เข้ามาปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้เงื่อนไขพิเศษ 3 แนวทาง คือ 1.กรณีรายได้คงเหลือหลังหักค่าใช้จ่ายมากกว่าร้อยละ 30 ของรายได้ สามารถพักชำระเงินต้นไม่เกิน 3 ปี และชำระดอกเบี้ยปกติ ร้อยละ 100  2.กรณีรายได้คงเหลือหลังหักค่าใช้จ่ายตั้งแต่ร้อยละ 15-30 ของรายได้ สามารถพักชำระเงินต้นไม่เกิน 3 ปี และชำระดอกเบี้ยปกติไม่น้อยกว่าร้อยละ  50  และ 3.กรณีรายได้คงเหลือหลังหักค่าใช้จ่ายน้อยกว่าร้อยละ 15 ของรายได้ สามารถพักชำระเงินต้นไม่เกิน 3 ปี และชำระดอกเบี้ยปกติไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 เพื่อให้ผู้กู้ที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขเดิมกลับมาเป็นหนี้ปกติที่ได้รับอัตราดอกเบี้ยต่ำตามเดิมได้ นับว่าเป็นมาตรการที่ยืดหยุ่นอย่างมาก เช่น วงเงินกู้  1 ล้านบาท ระยะเวลา 30 ปี ปกติผ่อนชำระ 6,200 บาทต่อเดือน (เงินต้น+ดอกเบี้ย) หากผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยร้อยละ  25 – 100 เงินชำระต่อเดือนลดลง (ปัจจุบันมีผู้กู้เข้ามาปรับโครงสร้างหนี้กว่า 40,000 ราย)


ส่วนกรณีการทำประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อนั้น ไม่ได้บังคับ และปรากฏว่ามีครูผู้กู้เลือกทำประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อ คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 85 ของจำนวนผู้กู้ทั้งหมด โดยในช่วง  7-8 ปีที่ผ่านมา มีครูเสียชีวิตประมาณ 15,900 คน ครูที่ทำประกันประมาณ 10,800 คน รวมทุนประกันประมาณ 13,000 ล้านบาท ซึ่งครูจะมีหนี้ประมาณ 1 ล้านบาทต่อราย เมื่อเสียชีวิตจะนำเงิน ช.พ.ค. 700,000 บาทต่อรายมาชำระหนี้ปิดบัญชี และจะมีเงินเหลือคืนทายาทรวมประมาณ 9,000 ล้านบาท และนี่คือประโยชน์ของการทำประกันอย่างแท้จริง  ทำให้ทายาทและผู้ค้ำประกันไม่เดือดร้อน

“ยอดสินเชื่อโครงการ ช.พ.ค. ล่าสุดมีผู้กู้รวมประมาณ 433,000 ราย  คิดเป็นวงเงินกู้ประมาณ 406,000 ล้านบาท โดยมี NPLs ประมาณ 4,079 ราย  คิดเป็นร้อยละ  0.94 ของลูกหนี้ทั้งหมดเท่านั้น ธนาคารอยากให้ครูที่มีปัญหาการผ่อนชำระ ไม่ว่าจะอยู่ในขั้นตอนใด ขอให้เข้ามาแจ้งความประสงค์ เพราะธนาคารมีมาตรการช่วยเหลือครูที่ยืดหยุ่นผ่อนคลาย อยากให้ครูมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีวินัยทางการเงิน เพราะครูต้องทำหน้าที่ให้ความรู้ สร้างคนให้เป็นคนดีมีความรู้มีวินัยให้แก่ประเทศชาติต่อไป” นายชาติชาย กล่าว

สำหรับโครงการ ช.พ.ค.เกิดจากกระทรวงศึกษาธิการและธนาคารออมสินร่วมกันดำเนินโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตครูและบุคลากรทางการศึกษา ด้วยการรวมหนี้สินของครูจากหลายแหล่งทั้งในระบบและนอกระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงมากู้ที่ธนาคารออมสินเพียงแห่งเดียว โดยปี 2548 มีการจัดหาสวัสดิการด้านสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ และทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับธนาคารออมสิน เพื่อดำเนินโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. – ช.พ.ส. รวม 7 โครงการ ด้วยการนำเงิน ช.พ.ค.และการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาในกรณี คู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) มาค้ำประกัน และ/หรือบุคคลค้ำประกัน หรือทำประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง