7 กิจกรรมที่คนกรุงตั้งใจทำช่วงเข้าพรรษา

กทม.20ก.ค.-โพลพบประชาชนส่วนใหญ่เตรียมตัวกระตือรือร้นต่อเทศกาลเข้าพรรษาปีนี้มากเหมือนปีที่แล้ว 7กิจกรรมที่ตั้งใจทำ คือทำบุญตักบาตรไหว้พระ เวียนเทียน–อยู่บ้าน-ทำกิจกรรมกับครอบครัว-กลับภูมิลำเนา–ท่องเที่ยว-ทำงาน-เที่ยวสถานบันเทิง พร้อมเสนอรัฐรณรงค์งดเหล้าอย่างจริงจังในช่วงเทศกาล   


สถาบันวิจัยและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ(เอยูโพล) เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจเรื่องเทศกาลเข้าพรรษา2561กรณีศึกษา : ตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 1,210 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 1-10 ก.ค.2561 พบว่าการเตรียมตัวและความกระตือรือร้นของคนไทยต่อเทศกาลเข้าพรรษาในปีนี้กับปีที่แล้ว กลุ่มตัวอย่างถึงร้อยละ 65.45 ระบุว่ามากเหมือนเดิม ร้อยละ20.63 น้อยเหมือนเดิม ร้อยละ10.60 มากขึ้นกว่าเดิม และร้อยละ 3.32 น้อยลงกว่าเดิม 


สำหรับกิจกรรมที่ตั้งใจทำในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา อันดับ 1 กิจกรรมทางพุทธศาสนา เช่น ทำบุญตักบาตร ไหว้พระ เวียนเทียน ร้อยละ 80.40 ,อันดับ 2 พักผ่อนอยู่บ้านร้อยละ37.22 ,อันดับ3 ทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวร้อยละ 33.09 อันดับ 4 เดินทางกลับภูมิลำเนาหรือไปเยี่ยมครอบครัว ญาติ   พี่น้อง ร้อยละ 12.66 อันดับ 5 กิจกรรมท่องเที่ยว เช่น ไปต่างจังหวัด ไปต่างประเทศ ร้อยละ 11.00 อันดับ 6 ทำงาน ร้อยละ 2.23 และอันดับ 7 เที่ยวสถานบันเทิง ร้อยละ 0.17 


ส่วนการให้ความสำคัญกับกิจกรรมทางศาสนาในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ร้อยละ 51.66ให้ความสำคัญปานกลาง ร้อยละ34.25 ให้ความสำคัญมาก ร้อยละ 7.21 มากที่สุด ร้อยละ 5.80 น้อย และร้ออยละ 1.08 น้อยที่สุด 

ขณะที่สิ่งที่ตั้งใจจะทำในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ร้อยละ 71.25 ปฏิบัติตนเหมือนทุกๆวัน ,ร้อยละ 26.18 งดเหล้า ,ร้อยละ 19.97 รักษาศีลอย่างเคร่งครัด,ร้อยละ 9.53 งดบุหรี่, ร้อยละ 0.66 ทำบุญตักบาตร และร้อยละ 0.50 บวช 

สำหรับการเตรียมค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ โดยเฉลี่ยในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา  1.ให้พ่อแม่ญาติพี่น้อง 3,299 บาท 2.ค่าที่พัก 3,084 บาท 3.ค่าซื้อสินค้า เช่น ของที่ระลึก ของฝาก เป็นต้น 1,070 บาท 4.ค่าอาหาร 992 บาท 5. ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เช่น ค่าน้ำมัน ค่ารถโดยสาร เป็นต้น 721 บาท และ 6.เงินทำบุญ 692 บาท

เมื่อถามถึงความตั้งใจในการทำบุญ ภายหลังจากรับทราบข่าวไม่ดีต่างๆ ที่กระทบต่อพระพุทธศาสนา ส่วนใหญ่ร้อยละ 78.08 ตั้งใจทำบุญเท่าเดิม ร้อยละ 17.04 ตั้งใจทำบุญน้อยลง และร้อยละ 4.88 ตั้งใจทำบุญมากขึ้น 

สำหรับระดับความเชื่อความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาที่ถูกสั่นคลอนจากข่าวไม่ดีต่างๆ ส่วนใหญ่ร้อยละ 45.03 ระบุว่าปานกลาง , ร้อยละ 19.54 น้อย, ร้อยละ 17.22 มาก ร้อยละ 12.25 มากที่สุด และร้อยละ 5.96 น้อยที่สุด 

คำถามว่าสภาพเศรษฐกิจของครอบครัวเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ร้อยละ 52.03 ดีเหมือนเดิม ร้อยละ 32.92 แย่เหมือนเดิม ร้อยละ 7.94 ดีขึ้นกว่าเดิม และร้อยละ 7.11 แย่ลงกว่าเดิม 

ส่วนการใช้จ่ายในเทศกาลเข้าพรรษาปีนี้เทียบกับเทศกาลเข้าพรรษาปีที่แล้ว ส่วนใหญ่ร้อยละ 69.64 คาดว่าจะใช้จ่ายเท่าเดิม , ร้อยละ 17.95 คาดว่าจะใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และร้อยละ 12.14 คาดว่าจะใช้จ่ายลดลง 

ความตั้งใจทำบุญในเทศกาลเข้าพรรษาปีนี้เทียบกับเทศกาลเข้าพรรษาปีที่แล้ว ร้อยละ 75.85 ตั้งใจจะทำบุญเท่าเดิม ร้อยละ 16.95 ตั้งใจจะทำบุญน้อยลง ร้อยละ 7.20 ตั้งใจจะทำบุญมากขึ้น 

การคาดการณ์สภาพเศรษฐกิจของครอบครัวในอีก 6เดือนข้างหน้า ร้อยละ 36.51 แย่เหมือนเดิม, ร้อยละ 33.28 ดีเหมือนเดิม , ร้อยละ 25.91 ดีขึ้นกว่าเดิม และร้อยละ 4.30 แย่ลงกว่าเดิม 

สำหรับเรื่องที่ต้องการให้รัฐบาลรณรงค์ให้เห็นเป็นรูปธรรมในเทศกาลเข้าพรรษา ร้อยละ 40.10 รณรงค์ให้งดเหล้าช่วงเข้าพรรษาอย่างจริงจัง,ร้อยละ 22.96 ไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ,ร้อยละ18.82 รณรงค์ให้ประชาชนมาเข้าวัดทำบุญกันมากขึ้น ,ร้อยละ 12.02 ปิดสถานบันเทิงตลอดช่วงเทศกาล และร้อยละ 3.25 อนุรักษ์การแต่งกายด้วยชุดไทยมาทำบุญ  .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย