นนทบุรี 20 ก.ค. – พาณิชย์เผยส่งออกเดือนมิถุนายน มูลค่าสูงถึง 21,779 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 8.19 ขอเวลาถกเอกชนทุกกลุ่ม 7 ส.ค. เพื่อประเมินตัวเลขทั้งปีใหม่
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กล่าวว่า แม้ปัญหาสงครามการค้าระหว่าง 2 ประเทศยักษใหญ่อย่างจีนและสหรัฐที่ทั่วโลกมีความกังวล แต่การส่งออกของไทยครึ่งปีแรกยังไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด โดยในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ขยายตัวร้อยละ 10.95 สูงสุดในรอบ 7 ปี โดยเฉพาะการส่งออกเดือนมิถุนายนที่ผ่านมามูลค่าการส่งออกสินค้าไปสหรัฐสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งอาจจะมีการนำเข้าสินค้าจากไทยไปทดแทนประเทศต่าง ๆ ที่กระทบจากมาตรการทางภาษี
ขณะที่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พบว่ามีมูลค่าสูงถึง 21,779 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 8.19 ยังโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และผู้ส่งออกไทยสามารถปรับตัวรองรับผลกระทบจากสงครามการค้า และใช้โอกาสจากการส่งออกได้ดี โดยเฉพาะตลาดหลักอย่างสหรัฐมีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งอาจจะมีการนำเข้าสินค้าจากไทยไปทดแทนประเทศต่าง ๆ ที่กระทบจากมาตรการทางภาษี รวมทั้งการส่งออกไป ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป รวมถึงจีน ยังขยายตัวได้ดีเช่นกัน และการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16 ที่ร้อยละ 8.2 และการส่งออกสินค้าเกษตรและเกษตรอุตสาหกรรม ที่ยังขยายตัวร้อยละ 4.5 ส่งผลให้ครึ่งปีแรกมีมูลค่าส่งออกรวม 125,812 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 11 สูงสุดในรอบ 7 ปี
ทั้งนี้ หากดูสินค้าที่ส่งออกไปสหรัฐเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขยายตัวหลายกลุ่ม เช่น คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 50 เครื่องจักร ขยายตัวร้อยละ 21 ยานพาหนะ และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 41 และการส่งออกเหล็ก ขยายตัวร้อยละ 29.3 แต่รายการสินค้าส่งออกอยู่ในกลุ่มเดียวกับที่สหรัฐมีมาตรการกีดกันกับประเทศคู่ค้าบางประเทศ เริ่มได้รับผลกระทบจากระบบโควต้าภาษี ทำให้ภาษีส่งออกของไทยสูงกว่าคู่แข่ง โดยเฉพาะการส่งออกโซลาเซลล์ ในเดือนมิถุนายน ลดลงถึงร้อยละ 21.9 และตู้เย็น ตู้แช่งแข็ง ลดลงร้อยละ 2
อย่างไรก็ตาม ยังคงประเมินแนวโน้มการส่งออกครึ่งปีหลังจะยังขยายตัวได้ดีตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้นเกือบทุกภูมิภาค แม้ปัญหาสงครามทางการค้าจะยังไม่สะท้อนจากตัวเลขการส่งออกเดือนมิถุนายนมากนัก แต่ผู้ประกอบการส่งออกไทยควรมีการเตรียมความพร้อมและกระจายตลาดส่งออกใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะการใช้โอกาสจากสงครามการค้า เข้าไปทำตลาดทั้งในสหรัฐ และจีนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยง และผลกระทบจากความไม่แน่นอนได้ โดยคาดว่าปีนี้การส่งออกของไทยจะขยายตัวใกล้เคียงกับเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งไว้ที่ร้อยละ 8 แต่หากต้องการขยับเป้าหมายการส่งออกไปที่ร้อยละ 9 จะต้องมีมูลค่าการส่งออกต่อเดือนหลังจากนี้เฉลี่ย 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยวันที่ 7 สิงหาคมนี้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเตรียมเรียกผู้ส่งออกทุกกลุ่มอุตสาหกรรมมาทบทวนและประเมินภาพรวมการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังนี้อีกครั้ง
ส่วนการนำเข้าเดือนมิถุนายนมีมูลค่า 20,201 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 10.8 จากการนำเข้าเชื้อเพลิง สินค้าทุนและวัตถุดิบ แต่ไทยยังเกินดุลการค้ากว่า 1,579 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และครึ่งปีแรก มีมูลค่านำเข้ารวม 122,356 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยยังคงเกินดุลการค้ากว่า 1,877 ล้านดอลลาร์สหรัฐ.-สำนักข่าวไทย