สระบุรี 20 ก.ค.-นายปรีชา พิลาวุธ อายุ 53 ปี เจ้าของบ้านไร่แก่นเกษตร จ.สระบุรี เลี้ยงไก่เนื้อประสบปัญหาขาดทุน หันมาทำสวนผสมผสาน โดยเฉพาะการปลูกอะโวคาโด สร้างรายได้หมุนเวียนให้กับครอบครัวเดือนละประมาณ 40,000-50,000 บาท
นายปรีชา พิลาวุธ อายุ 53 ปี เจ้าของบ้านไร่แก่นเกษตร หมู่ 1 ต.ลำสมพุง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เปิดเผยว่า เคยประกอบอาชีพฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อ แต่ประสบปัญหาขาดทุนแทบหมดตัว เนื่องจากเกิดไข้หวัดนกระบาด จนต้องปิดกิจการ และได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยว จ.เชียงใหม่ และเข้าไปเยี่ยมชมโครงการหลวงปางดะ มีการปลูกต้นหม่อนและอะโวคาโดในที่สูง โดยเฉพาะอะโวคาโดเป็นผลไม้ที่สนใจ และคิดว่าพื้นที่หลังบ้านของตนเองน่าจะปลูกได้ จึงซื้อต้นกล้าอะโวคาโดกลับมา 20 ต้น มีพันธุ์บัคคาเนีย ปิเตอร์สัน แฮส จนกระทั่งต้นอะโวคาโคเติบโตและออกผลผลิตต่อต้นจำนวนมาก
จากนั้นนายปรีชาได้ขยายพื้นที่ปลูกอะโวคาโดเพิ่มขึ้นจาก 20 ต้น เป็น 150 ต้น ในพื้นที่ 4 ไร่ จากพื้นที่หลังบ้านที่มีอยู่ 20 ไร่ ขณะที่พื้นที่ที่เหลืออีก 16 ไร่ เป็นสวนผสมผสาน ปลูกไผ่ยักษ์น่าน ไผ่ฟ้าหม่น ไผ่ช้างเม่น ต้นหม่อน และฝรั่ง เพื่อให้มีรายได้หมุนเวียน สร้างรายได้ให้กับครอบครัว โดยเฉลี่ยผลอะโวคาโดรายได้ประมาณเดือนละ 40,000-50,000 บาท
การเพาะปลูกอะโวคาโดไม่ยุ่งยาก โดยนำเมล็ดอะโวคาโดมาปลูกในถุงดินที่เตรียมไว้ ดูแลรดน้ำ เมื่อต้นพันธุ์อายุได้ 6 เดือน จะโตแข็งแรงพอ จากนั้นนำยอดพันธุ์ดีของต้นแม่ที่ดีมาเสียบยอดแล้วพันด้วยเทปพันกิ่ง ทิ้งไว้ประมาณ 2 เดือน จนมีใบเขียวออก ก็นำไปปลูกในแปลงดินที่เตรียมไว้ ใช้เวลาดูแลบำรุงรักษาประมาณ 4 ปี ก็จะผลิดอกออกผล เฉลี่ย 1 ต้นจะออกผลประมาณ 200-300 ผล หรือ 300 กิโลกรัมต่อต้น ขายหน้าสวนกิโลกรัมละ 70 บาท นอกจากขายผลแล้ว ยังขยายพันธุ์ตอนกิ่งอะโวคาโดขายในราคากิ่งละ 250-300 บาท
ปรีชากล่าวว่า การทำสวนผสมผสานจนประสบความสำเร็จ สร้างรายได้หมุนเวียนให้กับครอบครัวเป็นอย่างดี ทำให้หน่วยงานราชการในพื้นที่นำสวนของตนเข้าไปประกวดในระดับจังหวัดและระดับภาค จนได้รับรางวัลเกษตรกรดีเด่น สาขาอาชีพการทำงาน ในปี 2560 อีกด้วย นอกจากนี้ยังได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจเรียนรู้การปลูกอะโวคาโดแบบผสมผสานเข้ามาชมและเรียนรู้ได้ฟรี หากผู้ใดสนใจเดินทางมาชมได้ที่สวนบ้านไร่แก่นเกษตร ต.ลำสมพุง อ. มวกเหล็ก จ.สระบุรี .-สำนักข่าวไทย