สปส.19 ก.ค.-เลขาฯประกันสังคม เผย สนช.เห็นชอบผ่านร่างพ.ร.บ.เงินทดแทนฉบับใหม่แล้ว เตรียมเสนอสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อบังคับใช้ต่อไป
นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ในที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)พิจารณาเห็นชอบรับร่างหลักการวาระที่ 2 และวาระ 3 แล้ว สำหรับร่างพระราชบัญญัติที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับนี้ มีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ในเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำของสังคม และการสร้างโอกาสเข้าถึงบริการของรัฐ ซึ่งเป็นกฎหมายที่แก้ไขแล้วลูกจ้างได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้นและนายจ้างได้รับความเป็นธรรม อีกทั้งยังมีการเพิ่มคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อกำกับดูแลความโปร่งใสของกองทุนเงินทดแทนอีกด้วย
นายสุรเดช กล่าวต่อว่า ประเด็นการแก้ไขสาระสำคัญของกฎหมายเงินทดแทนฉบับดังกล่าว อาทิ ขยายความคุ้มครองแก่ลูกจ้างของส่วนราชการ ขยายความคุ้มครองให้ครอบคลุมไปถึงลูกจ้างซึ่งทำงานในองค์กรของนายจ้างที่มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไรทางเศรษฐกิจ แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า “ภัยพิบัติ” เพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับความหมายหรือลักษณะของภัยพิบัติทำให้นายจ้างได้รับการลดการจ่ายเงินเพิ่มตามกฎหมายในท้องที่ที่รัฐมนตรีกำหนด รวมถึงแก้ไขการบังคับใช้เกี่ยวกับขอบเขตการคุ้มครองลูกจ้างซึ่งได้รับการจ้างงานในประเทศ(Local staff)ของสถานเอกอัครราชทูตและองค์การระหว่างประเทศ
รวมทั้งได้แก้ไขการออกหลักเกณฑ์เงื่อนไขและอัตราในการจ่ายค่ารักษา พยาบาล ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงานและค่าทำศพกรณีลูกจ้างประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยจนถึงแก่ความตายหรือสูญหาย ให้ดำเนิน การออกเป็นกฎกระทรวงเพื่อให้ลูกจ้างได้รับประโยชน์ ดังนี้
การเพิ่มอัตราค่าทดแทนกรณีต่างๆ จากร้อยละ60 เป็นร้อยละ70 ของค่าจ้างรายเดือน,เพิ่มระยะเวลาการจ่ายค่าทดแทนกรณีลูกจ้างทุพพลภาพเป็นไม่น้อยกว่า15 ปี ปัจจุบันไม่เกิน 15 ปี ,เพิ่มระยะเวลาการจ่ายค่าทดแทนกรณีลูกจ้าง ถึงแก่ความตายหรือสูญหายเป็นไม่เกิน 10 ปี ปัจจุบันไม่เกิน 8 ปี,แก้ไขหลักเกณฑ์การจ่ายค่าทดแทนสำหรับกรณีลูกจ้าง ไม่สามารถทำงานได้ให้ได้รับตั้งแต่วันแรกที่ลูกจ้างไม่สามารถทำงาน ปัจจุบันจ่ายค่าทดแทนกรณีลูกจ้าง ไม่สามารถทำงานติดต่อกันได้เกิน 3 วัน
เพิ่มการจ่ายค่าทำศพแก่ผู้จัดการศพของลูกจ้าง ตามอัตราที่กำหนด ในกฎกระทรวง ปัจจุบันการจ่ายค่าทำศพแก่ผู้จัดการศพของลูกจ้างเป็นจำนวน 100 เท่าของอัตราสูงสุดของค่าจ้างขั้นต่ำรายวันตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน
ในส่วนของนายจ้างก็ได้รับประโยชน์จากร่างพระราชบัญญัติเงินทดแทนนี้เช่นกัน คือมีร่างกฎหมายในการปรับลดเงิน เพิ่มจากเดิมร้อยละ3 ต่อเดือน ลดลงเหลือร้อยละ2 ต่อเดือน และกำหนดเกณฑ์การคำนวณเงินเพิ่ม กรณีนายจ้างค้างชำระเงินสมทบโดยกำหนดให้จำนวนเงินเพิ่มต้องไม่เกินจำนวนเงินสมทบที่นายจ้างต้องจ่ายปัจจุบันไม่ได้กำหนดเพดานเงินเพิ่มไว้
สำหรับขั้นตอนต่อไปเตรียมเสนอสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อบังคับใช้ต่อไปคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในสิ้นปี 2561.-สำนักข่าวไทย