นายกฯ ยันพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในระบบสุขภาพ สู่ไทยแลนด์ 4.0

เมืองทองธานี 18 ก.ค.-นายกฯ เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการ 100 ปีการสาธารณสุขไทยภายใต้แนวคิด “เพื่อประชาชนสุขภาพดี 100 ปีแห่งการพัฒนา” ย้ำบุคลากรทางการแพทย์ต้องมีศรัทธาและเสียสละ ยันให้ความสำคัญการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในระบบสุขภาพ นำพาประเทศสู่ไทยแลนด์ 4.0


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการ 100 ปี การสาธารณสุขไทยภายใต้แนวคิด “เพื่อประชาชนสุขภาพดี 100 ปีแห่งการพัฒนา” และงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 15 พร้อมปาฐกถา ในหัวข้อ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เพื่อสุขภาพคนไทย” ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมพิธี

โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปาฐกถา ว่า วันนี้เป็นวันดีที่พบกันในตอนเช้า เพราะปกติจะพบกันในตอนค่ำ ๆ ส่วนตัวได้เห็นรอยยิ้มของบุคลากรทางการแพทย์ ก็สบายใจ เพราะทุกคนมีศรัทธาจากการทำงานช่วยเหลือผู้อื่น ประเทศไทยประกอบด้วยคน และพื้นที่ ดังนั้นต้องสร้างวิสัยทัศน์ไว้ก่อน เช่นเดียวกับงานสาธารณสุขที่ครบรอบ 100 ปี เพื่อวางเป้าหมายในวันข้างหน้าและสามารถตอบโจทย์ได้หลายด้าน เหมือนรัฐบาลที่วางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ซึ่งจะสามารถตอบคำถามได้ทุกอาชีพ การสาธารณสุขจึงต้องวางยุทธศาสตร์ เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่จะขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เหล่านี้ เนื่องจากสุขภาพเป็นพื้นฐานของคน เด็กวันนี้ ต้องได้รับการดูแลให้แข็งแรงในอีก 20 ปีข้างหน้า เพื่อให้ได้คนรุ่นใหม่ที่สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ และทุก ๆ 5 ปี สามารถปรับแก้ได้


นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ 100 ปี การสาธารณสุขไทย มีการพัฒนาอย่างน่าภาคภูมิใจ แต่ต้องเดินหน้าต่อในเรื่องการพัฒนาระบบต่าง ๆ เช่น ระบบประกันสุขภาพ และการพัฒนาวัคซีน แม้เราจะได้รับการยอมรับจากต่างประเทศในระบบสาธารณสุขและการบริการ รวมถึงแพทย์แผนไทย ส่วนเรื่องการบริการที่ล่าช้าของระบบสาธารณสุข อยากให้ทำความเข้าใจกับผู้ป่วยว่าไม่ใช่เป็นเพราะไปรับผู้ป่วยต่างประเทศหมด ขณะที่พืชสมุนไพร อยากฝากให้นำไปปรับปรุง พืชชนิดใดสามารถทำให้ติดตลาดได้ และจะพัฒนาระบบสาธารณสุขได้อย่างไรต่อไปในอนาคต

“คนดี มีคุณค่า ต้องดีทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่ดีที่เกียรติยศ หรือเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วเป็นคนดี เกียรติยศที่ได้มาคือประชาชนเป็นคนให้ หากประชาชนไม่ยอมรับ ก็อยู่ไม่ได้ เราต้องทำตัวให้มีคุณค่าและมีความสุข นั่นคือหน้าที่ของเราทุกคน วันนี้ผมเป็นหวัด เพราะตากฝน เครียด ที่ผ่านมาก็บ่นกับตัวเอง แต่ไม่เป็นไร ยังมีศรัทธา เหมือนเพลงรางวัลแด่คนช่างฝันที่พี่หมอร้องให้ฟัง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในระบบสุขภาพ ตามแนวคิด “คนดี มีคุณค่า มีความสุข เพื่อนำพาประเทศสู่ไทยแลนด์ 4.0” โดยจะเร่งรัดพัฒนาระบบบริการสุขภาพด้วย 3 ยุทธศาสตร์สำคัญ ได้แก่ 1.ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความมั่นคง เช่น การปฏิรูประบบบริการปฐมภูมิ มีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว ดูแลประชาชนครบทุกครัวเรือนภายใน 10 ปี การดูแลระยะยาวให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น การดูแลผู้ป่วยเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติมีสิทธิทุกที่ 2.ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างความมั่งคั่ง เช่น อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร การพัฒนาเขตสุขภาพพิเศษ และ 3.สร้างสมดุลในการพัฒนาให้เกิดความยั่งยืน โดยพัฒนาโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 959 แห่ง เพื่อลดมลพิษลดการใช้พลังงานและลดภาวะโลกร้อน


“โลกขับเคลื่อนด้วยประชาธิปไตย ด้วยเทคโนโลยี ดังนั้นโซเชียลมีเดียจึงมีบทบาทสูง และไม่สามารถใช้กฎหมายจัดการทั้งหมดได้ ขึ้นอยู่กับจิตใจของคนใช้ ที่สำคัญข่าวสารที่ปรากฎในโลกโซเชียลมีเดีย มีทั้งที่ดีและไม่ดี มีคนเบี่ยงเบนข้อมูลข้อเท็จจริง แต่คนส่วนใหญ่ชอบเสพ เหมือนกรณีหวย 30 ล้านที่ควรจะจบ แต่ก็ไม่จบ จนส่งผลต่อสภาพจิตใจ จึงขอฝากให้ช่วยกัน เพราะคงไปโทษ หรือห้ามใครไม่ได้ อยู่ที่จิตใจ หากเรารู้ว่าอะไรทำให้ไม่สุข ประเทศไม่สุข ก็ต้องช่วยกันแก้ปัญหาตรงนี้ ประเทศจะได้เจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ขอแนะนำบุคลากรที่เข้ามาร่วมงาน ให้เลือกรับข่าวทางโซเชียลมีเดีย เพราะมีทั้งข่าวจริงข่าวปลอม เมื่อเสพมากอาจทำให้เครียดได้ และขอฝากเตือนสื่อมวลชน ให้ระมัดระวังเรื่องการเสนอข่าวทีมนักฟุตบอลเยาวชนหมูป่าอะคาเดมี เพราะกระจายไปทั่วโลก และมองว่าสิ่งใดที่เกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องนำมาเป็นบทเรียน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีได้หยอกล้อกับบุคลากรทางการแพทย์ว่า “ที่นี่คงไม่มีปฏิญญาเมืองทอง การเป็นหนี้เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ เพราะมีเกียรติ เนื่องจากเงินที่ยืมมาไม่มีใครเอาไปใช้ เราใช้ของเราเอง จะบอกว่าไม่รู้เรื่องไม่ได้ ดังนั้นทยอยใช้คืนไปเถอะ เพราะหากเรารู้จักพัฒนาตัวเอง ก็สามารถแก้ไขปัญหาได้”

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ถ่ายรูปร่วมกับตัวแทนอาสาสมัครสาธารณสุข ประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเยี่ยมชมนิทรรศการ 100 ปีการสาธารณสุขไทย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]