นครราชสีมา 17 ก.ค.- “หมอภาคย์” กลับถึงค่ายสุรธรรมพิทักษ์ด้วยความภาคภูมิใจช่วยภารกิจถ้ำหลวงสำเร็จ เก็บความประทับใจจากเยาวชนเล่าสู่กันฟัง ชื่นชม “โค้ชเอก” น้ำใจประเสริฐ ยกย่อง “จ่าแซม” ยอดวีรบุรุษ ขณะที่ผู้ว่าฯ โคราช-ภาคเอกชนเตรียมจัดงานร่วมยินดี 26 ก.ค.นี้
เช้าวันนี้ (17 ก.ค.) พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน ผู้บังคับกองพันเสนารักษ์ที่ 3 เดินทางกลับกองพันเสนารักษ์ที่ 3 กองพลทหารราบที่ 3 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดยมีผู้ใต้บังคับบัญชานับร้อยนายให้การต้อนรับพร้อมมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีกับภารกิจที่สำเร็จ หลังจาก พ.ท.นพ.ภาคย์ ได้เดินทางไป อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อร่วมภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี่ ออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้อย่างปลอดภัย
หมอภาคย์ กล่าวว่า รู้สึกภาคภูมิใจอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในภารกิจครั้งนี้ การฝึกทหารที่ผ่านมาก็เพื่อความพร้อมสามารถเข้าปฏิบัติภารกิจที่สำคัญได้ทันที เหตุการณ์กู้ภัยในถ้ำถือเป็นครั้งแรกของการทำหน้าที่ ถือเป็นบทเรียนที่ทุกคนทุกประเทศต้องนำไปศึกษาเรียนรู้ และอยากให้มองภาพเหตุการณ์นี้เป็นเหมือนการต่อภาพจิ๊กซอว์ ซึ่งตนเป็นเพียงจิ๊กซอว์ตัวหนึ่งที่ใช้ต่อภาพให้สมบูรณ์เท่านั้น เพราะทุกคนมีความสำคัญทั้งหมด หากขาดใครคนใดคนหนึ่งไปภารกิจครั้งนี้ก็จะไม่สำเร็จ ส่วนนักดำน้ำต่างชาติทุกคนเป็นมืออาชีพมาก รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร
“ผมประทับใจเด็กๆ ทุกคนที่ติดในถ้ำหลวง เด็กทุกคนมีความใสซื่อเดียงสาตามประสาเด็ก ทุกคนมีจิตใจดีงาม และความประทับใจของผมคือทุกคนเป็นคนมีระเบียบวินัย เมื่อถามเด็กก็รู้ว่าเข้าไปเที่ยวในถ้ำเป็นการเที่ยวแบบเชิงอนุรักษ์ ตั้งใจจะทำกิจกรรมเพียง 1 ชั่วโมงแล้วจะกลับออกไป ส่วนโค้ชเอกก็เป็นที่มีจิตใจดีมาก รักเด็กๆ เป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก อายุแค่ 24-25 ปี สามารถเป็นศูนย์รวมจิตใจของเด็ก ๆได้ดี และมีการอบรมสั่งสอนเรื่องการแบ่งปันกัน เป็นคนเสียสละที่ไม่พูดอะไร เอาอาหารให้เด็กรับประทานตลอดโดยที่ตัวเองแทบไม่ได้กิน ขอให้เด็กกินอิ่มก่อน ต้องขอชื่นชมโค้ชเอกเป็นอย่างมาก”
พ.ท.นพ.ภาคย์ ยังเล่าเรื่องราวของเด็กระหว่างรอประเมินความพร้อมก่อนพาออกจากถ้ำว่า ขณะนั้นได้พูดคุยกันหลายเรื่อง เช่น ออกมาจะกินอะไรกัน จะไปเที่ยวไหนกัน แต่ที่เด็กกังวลมากเรื่องเดียวคือ การบ้านของโรงเรียนที่ค้างอยู่ กลัวออกมาจะทำไม่ทัน และตนยังได้บอกกับเด็กว่าตอนนี้ดังไปทั่วโลกแล้ว ทุกคนก็ยิ้มตามประสาเด็ก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตนอยากบอกกล่าวดัง ๆ คือ นาวาตรีสมาน กุนัน หรือจ่าแซม อดีตหน่วยซีล ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะนั้นยังมียศจ่าเอก โดยจ่าแซมได้รับมอบหมายภารกิจให้นำถังอ๊อกซิเจนไปวางไว้ตามจุดต่างๆ ภายในถ้ำ เพราะหากขาดถังออกซิเจนภารกิจทั้งหมดก็ไม่มีทางสำเร็จได้เช่นกัน การสูญเสียครั้งนี้ถือเป็นการสูญเสียยิ่งใหญ่
พ.ท.นพ.ภาคย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การที่หลายคนพูดว่าตนเป็นหมอแข็งแกร่งที่สุดในปฐพีนั้น คนที่แข็งแรงก็มีมากมาย และขอขอบคุณที่มีคนตั้งฉายาให้ และไม่อยากใครมองว่าตนเป็นที่สุดอะไร เพราะมันไม่มีคำว่าที่สุดจริง ๆ
ส่วนการจัดกิจกรรมแสดงความยินดีให้กับ พ.ท.นพ.ภาคย์ และเจ้าหน้าที่อีกหลายหน่วยงานที่ในจังหวัดที่ไปร่วมภารกิจครั้งนี้ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงภาคเอกชนกำหนดการจัดงานในวันที่ 26 ก.ค.นี้ โดยจะมีขบวนแห่ไปรอบตัวเมืองนครราชสีมา และประกอบพิธีที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(คุณย่าโม) ถ.ราชดำเนิน
สำหรับ พ.ท.นพ.ภาคย์ เป็นแพทย์ทหารที่ผ่านการฝึกหลักสูตรรบพิเศษมาแล้วครบทุกหลักสูตรในประเทศไทย เช่น หลักสูตรบุคคลทำการรบแบบจู่โจม หลักสูตรปฏิบัติการพิเศษกองทัพอากาศ หลักสูตรทหารเสือราชินี หลักสูตรการรบพิเศษลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบก และจู่โจม นาวิกโยธิน และหลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจม หรือมนุษย์กบ.-สำนักข่าวไทย