กรุงเทพฯ 13 ก.ค. – กระทรวงเกษตรฯ แจงผลสอบงบไทยนิยมยั่งยืน ยังไม่พบสหกรณ์ทุจริต ย้ำต้องดำเนินการด้วยความถูกต้องทุกขั้นตอน
นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า คณะกรรมการเฉพาะกิจตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ว่า ราคาครุภัณฑ์สำหรับการรวบรวม เก็บรักษาผลผลิต และแปรรูปผลผลิตที่สหกรณ์การเกษตร 307 แห่ง จากทั้งหมด 3,700 กว่าแห่ง เสนอจัดซื้อจัดจ้างมีแตกต่างด้านราคา ทั้งที่เป็นครุภัณฑ์อย่างเดียวกัน ผลการตรวจสอบปรากฏว่าเป็นความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นในขั้นตอนเสนอขออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมปี 2561 เพื่อโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์รับผิดชอบ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาสถาบันเกษตรกรจัดเก็บพืชผลทางการเกษตร โครงการสนับสนุนอุปกรณ์แปรรูปผลผลิตทางการเกษตร และโครงการเพิ่มศักยภาพการรวบรวมการแปรรูปยางพาราในสถาบันเกษตรกร
ทั้งนี้ ความจำเป็นที่ทุกหน่วยงานต้องเร่งเสนอประมาณการงบประมาณ เพื่อส่งเข้าระบบ E-Budgetting ทำให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ให้สหกรณ์ต่าง ๆ รวบรวมรายการครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างที่ต้องการ เช่น จัดซื้อจัดจ้างสร้างยุ้งฉาง สร้างไซโล เครื่องอบ เครื่องชั่ง รถห้องเย็น รถโฟร์คลิฟต์ เป็นต้น โดยแต่ละพื้นที่สอบถามราคาจากผู้ประกอบการ 3 ราย ซึ่งราคาครุภัณฑ์ชนิดเดียวกัน แต่ราคาที่สหกรณ์แต่ละแห่งเสนอมาไม่เท่ากันขึ้นกับศักยภาพและคุณสมบัติเฉพาะของครุภัณฑ์ที่เสนอมา โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ส่งราคาต่ำที่สุดเข้าระบบ E-Budgetting เป็นขั้นตอนแรก ขั้นตอนที่ 2 สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลังพิจารณากำหนดราคามาตรฐานโดยหากสินค้าใดมีราคามาตรฐานอยู่แล้วตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของสำนักนายกรัฐมนตรีให้ใช้ราคานั้นอ้างอิง แต่หากเป็นครุภัณฑ์ที่ยังไม่มีราคามาตรฐานจะนำราคาที่เสนอมาทั้งหมดรวมกันแล้วหารเฉลี่ยเพื่อเป็นราคาอ้างอิง
สำหรับการก่อสร้างนั้น มีราคามาตรฐานกำหนดต่อตารางเมตร ขั้นตอนที่ 3 คือ นำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา เพื่อออกเป็นพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 2561 จากนั้นอนุมัติจัดสรรให้กระทรวงและกรมต่าง ๆ ที่รับผิดชอบโครงการ โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์รับงบดำเนินโครงการพัฒนาสถาบันเกษตรกรจัดเก็บพืชผลทางการเกษตร 1,017 ล้านบาท โครงการสนับสนุนอุปกรณ์แปรรูปผลผลิตทางการเกษตร 410 ล้านบาท พื้นที่ดำเนินการ 40 จังหวัด และโครงการเพิ่มศักยภาพการรวบรวมและการแปรรูปยางพารา 340 ล้านบาท พื้นที่ดำเนินการ 22 จังหวัด
นายเลิศวิโรจน์ กล่าวว่า เมื่อผ่านการพิจารณาทั้ง 3 ขั้นตอน ความหลากหลายของราคาครุภัณฑ์ชนิดเดียวกัน จึงลดความแตกต่างเป็นราคามาตรฐานหรือราคากลางตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างเช่นเดียวกับที่ราชการใช้ นอกจากนี้ การอนุมัติงบประมาณยังกำหนดว่าสนับสนุนงบประมาณให้ร้อยละ 90 โดยสหกรณ์จะต้องสมทบเงินจัดซื้อจัดจ้างไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 และจะยังไม่โอนเงินให้สหกรณ์ จนกว่าจะทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างเรียบร้อย ซึ่งขณะนี้มีบางสหกรณ์ได้รับเงิน และยืนยันว่าไม่พบการทุจริตในขั้นตอนการเสนอของบประมาณจัดซื้อจัดจ้างแต่อย่างใด
ทั้งนี้ กระบวนการดำเนินงานต่าง ๆ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้สั่งการให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงและกรมต่าง ๆ ออกไปกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดและหากผู้ใดพบเบาะแสการทุจริตสามารถแจ้งหน่วยงานตรวจสอบทั้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ทางกระทรวงเกษตรฯ จะดำเนินการต่อผู้ทุจริตอย่างเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย