วงเสวนาสะท้อนสิทธิเสรีภาพในไทยยังมีปัญหา

สำนักงาน กสม.  13 ก.ค. -วงเสวนาโรดแมปสิทธิมนุษยชนเส้นทางประชาธิปไตย  เห็นตรงกันสิทธิเสรีภาพในรัฐบาลหลังรัฐประหารยังมีปัญหา”วัส” ระบุตราบาปรัฐธรรมนูญ 60  คนร่างมีวาระซ่อนเร้น  ใช้กฎหมายเซ็ตซีโรองค์กรอิสระ     “บรรเจิด”  เห็นว่า เรื่องการเซ็ตซีโร่ กสม.และ กกต.เป็นรอยด่างในรัฐธรรมนูญ 60   ด้าน “พงษ์เทพ”  ชี้องค์กรอิสระขาดความน่าเชื่อถือ  เพราะได้ประโยชน์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 ก.ค.)สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  จัดงานครบรอบวันสถาปนาองค์กร กสม. 17 ปี โดยมีการเสวนาหัวข้อ   “โรดแมป สิทธิมนุษยชนเส้นทางประชาธิปไตย”   โดยมี นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยนชนแห่งชาติ    นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม   นายบรรเจิด สิงคะเนติ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์   และนายวิทิต มันตราภรณ์   อาจารย์คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมเวที  โดยส่วนใหญ่เห็นตรงกัน  ว่าเรื่องของสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยมีความก้าวหน้ามาโดยลำดับ  แต่ยังมีหลายอย่างที่เป็นปัญหา โดยเฉพาะเรื่องของสิทธิเสรีภาพ

นายวัส  กล่าวว่า การเขียนบทเฉพาะกาลในรัฐธรรมนูญให้กรรมการในองค์กรอิสระอยู่ในวาระต่อไปหรือไม่  ให้เป็นไปตามกฎหมาย จนทำให้มีการเซ็ตซีโร่องค์กรอิสระ   แต่ไม่เซ็ตซีโร่บางองค์กร  จะเป็นปัญหาการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรที่ไม่ถูกเซ็ตซีโร  ว่าจะมีการคอบแทนบุญคุณหรือไม่    ซึ่งตนและ กสม.บางคนได้ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย  แต่ก็มีการยกคำร้อง   ในขณะที่คนที่จะต้องเป็นผู้วินิจฉัย คือ  ศาล  ก็ได้ประโยชน์จากกฎหมายลักษณะนี้  ทำให้เกิดปัญหาผลประโยชน์ขัดกัน   ถือเป็นเรื่องที่ผิดตั้งแต่การร่างรัฐธรรมนูญ  เหมือนเป็นตราบาป   จึงเชื่อว่าผู้เขียนกฎหมายน่าจะมีวาระซ่อนเร้นหรือไม่  และเห็นว่ารัฐธรรมนูญที่ต้องการลดความขัดแย้งภายในประเทศนั้น  หากผู้มีอำนาจในปัจจุบันเดินหน้าเป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้งจะทำให้เห็นได้ว่าความหวังที่คิดว่าปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติจะเลือนลางเต็มที


นายวิทิต  กล่าวว่า เรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศที่มีความก้าวหน้า คือ  เรื่องการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ การปราบปรามการค้ามนุษย์  มีการนำหลักการสากลมาใช้ในประเทศมากขึ้น  และการนำกระบวนการยุติธรรมปกติมาใช้ในพื้นที่ภาคใต้มากขึ้น  แทนที่จะใช้แต่ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินเพียงอย่างเดียว   แต่สิ่งที่ยังไม่ราบรื่น คือ เรื่องนิรโทษกรรมตนเองยังมีอยู่ หรือการลังเลเรื่องการเลือกตั้งทำให้นานาชาติไม่สบายใจและเรื่องสิทธิเสรีภาพยังมีปัญหาทั้งเรื่องกฎหมายอาญามาตรา 112 และ 116 นอกจากนี้ยังมีการจับกุมคนที่เรียกร้องประชาธิปไตย   และมีการลงโทษประหารชีวิต   อย่างไรก็ตามในเรื่องพื้นที่สู่การเลือกตั้ง มี 4 คดี ที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความแล้วว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ  เปิดช่องทางสู่การเลือกตั้งง่ายขึ้นคือ คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 ออกมาแก้ไข พ.ร.ป.พรรคการเมือง / ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.  / ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความ   และกรณีที่ยกฟ้องเรื่องการทำรัฐประหาร ทำให้การเลือกตั้งน่าจะเร็วขึ้น  จึงอยากให้เปิดพื้นที่การแสดงออกมากขึ้น  และเปิดให้ภายนอกเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง  จัดการเลือกตั้งให้เกิดความเสรีและเที่ยงธรรม อย่างไรก็ตามเรื่องของสิทธิมนุษยชนนั้น  ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้งหรือไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง  ก็ไม่มีหลักประกันว่าสิทธิมนุษยชนจะได้รับความคุ้มครอง   สังคมจึงต้องร่วมกันผลักดันให้ผู้มีอำนาจเคารพสิทธิมนุษยชนของประชาชนด้วย พร้อมกับเสนอให้ลดการใช้กฎหมายที่ไปลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน   และคดีที่เกี่ยวกับพลเรือนอย่าไปขึ้นศาลทหาร  หรือถ้าขึ้นศาลทหารก็ขอให้อุทธรณ์ไปยังศาลพลเรือนได้

ด้านนายบรรเจิด   กล่าวว่า หลักการสิทธิมนุษยชนกับหลักการประชาธิปไตยเป็นรากแก้วของเสรีประชาธิปไตย คือหลักนิติรัฐนิติธรรมและประชาธิปไตย  ต้องสัมพันธ์กันจึงจะอยู่อย่างมั่นคงได้  ประเทศไทยเรื่องหลักนิติรัฐ นิติธรรม มีปัญหาตั้งแต่การยกร่างรัฐธรรมนูญปี 2560   ส่วนประชาธิปไตยในรอบหนึ่งทศวรรษมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งและไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง    ซึ่งรัฐบาลจากการเลือกตั้งไม่มีปัญหาเรื่องเสรีภาพในการแสดงออก   แต่เมื่อมีการใช้เสรีภาพในการชุมนุมกลับมีปัญหาเรื่องการทำลายชีวิต   ส่วนรัฐบาลที่ไม่มาจากการเลือกตั้งมีข้อจำกัดเรื่องการแสดงออก  แต่มีความมั่นคงในชีวิตและร่างกาย  เพราะฉะนั้นบริบทสิทธิมนุษยชนในหนึ่งทศวรรษจึงมีปัญหาทั้งสองด้าน   จึงเหมือนทางสองแพ่งว่าจะเดินต่ออย่างไร นายบรรเจิด ยังเห็นว่า รัฐธรรมนูญปี 60  มีปัญหา   เพราะแม้จะมีการกำหนดเรื่องหลักนิติรัฐ  นิติธรรมเอาไว้ แต่กลับมีการเซ็ตซีโร กกต.และ กสม. คุ้มครองบางองค์กร   ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาในอนาคต  เช่น ป.ป.ช.หากวินิจฉัยเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายการเมืองก็จะถูกมองว่าสองมาตรฐาน  เพราะได้ประโยชน์จากการไม่ถูกเซ็ตซีโร่   จะกลายเป็นประเด็นที่ถูกนำมาขยายผล ถือว่าเป็นรอยด่างของรัฐธรรมนูญที่ควรจะซักฟอกใหม่  ไม่เช่นนั้นจะเป็นรอยด่างไปชั่วนิรันดร์  ไม่สามารถอธิบายหลักความเสมอภาคและการเลือกปฏิบัติได้  อีกทั้งขัดกับหลักการให้กฎหมายมีผลย้อนหลัง

“เพราะกฎหมายมหาชนกฎหมายมีผลย้อนหลังได้  แต่รัฐต้องอธิบายได้ว่า  มีประโยชน์สาธารณะสำคัญกว่าหลักการคุ้มครองความสุจริต  พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญที่การระบุเกี่ยวกับสิทธิการชุมนุม   ว่าต้องไม่กระทบความมั่นคงของรัฐ   ซึ่งจะทำให้สิทธิเสรีภาพการชุมนุมถูกจำกัดตั้งแต่ต้นทาง”นายบรรเจิด กล่าว


ส่วนนายพงษ์เทพ  เห็นว่า เมื่อประเทศไม่เป็นประชาธิปไตยก็ทำให้ประชาชนไม่มีสิทธิมนุษยชนอย่างที่ควรจะเป็น  ทำอะไรไม่ได้  เพราะจะถูกจับตั้งข้อหา  อีกทั้งรัฐธรรมนูญปี 60 ยังคุ้มครองการใช้อำนาจของ คสช.ให้ใช้อำนาจได้ทั้งฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติและตุลาการ   ซึ่งเป็นระบบที่แย่กว่ารัฐบาลจากการรัฐประหารในอดีต  เพราะสามารถแทรกแซงได้ทั้งศาลและองค์กรอิสระ  และยังมีการกำหนดถึงวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการในองค์กรอิสระให้ขึ้นอยู่กับกฎหมาย จนมีการเซ็ตซีโร่  กสม.และ กกต.แต่หลายองค์กรได้รับความคุ้มครอง  ทำให้สังคมขาดความเชื่อมั่นต่อการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรอิสระ รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญ ที่ได้ประโยชน์จากเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นเดียวกัน   นอกจากนี้ยังกำหนดให้ ส.ว.มาจากการแต่งตั้งของ คสช. 250 คน  มีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรี  และจะเป็นผู้ให้ความเห็นชอบองค์กรอิสระในอนาคต  ทำให้เชื่อมั่นไม่ได้ ขณะเดียวกันผู้มีอำนาจก็แสดงท่าทีว่าจะกลับเข้าสู่อำนาจอีกครั้ง  ทำให้กระบวนการตรวจสอบมีปัญหา อย่างไรก็ตามยังเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยแม้จะมีปัญหา แต่การปกครองระบอบอื่นมีปัญหามากกว่า  โดยในช่วงการบริหารของรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร  คงต้องฝากความหวังไว้กับศาลเพียงอย่างเดียว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

EOD เก็บกู้ทำลายระเบิด M33 กลางบ้าน

ตรัง 20 ส.ค.- คนร้ายลอบขว้างระเบิด M33 ใส่บ้านในพื้นที่ ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ระเบิดทำงาน 1 ลูก อีก 1 ลูกไม่ทำงาน เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ทำลายเสียงดังสนั่น เร่งสืบสวนหาตัวคนร้าย-สอบปมเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD จังหวัดตรัง ได้ทำการเก็บกู้และทำลายระเบิด M33 ที่ยังไม่ทำงาน ระหว่างทำลายเกิดเสียงดังสนั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ ยางรถยนต์ที่ใช้เป็นอุปกรณ์ป้องกันแรงระเบิดปลิวลอยขึ้นฟ้า ควันฟุ้งกระจายไปทั่ว สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง  โดยเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในพื้นที่บ้านยูงงาม ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบขว้างระเบิดเข้าใส่บ้านหลังหนึ่ง ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ เจ้าของบ้านเล่าว่าช่วงเกิดเหตุคนในบ้านกำลังนอนหลับ ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด 1 ครั้ง แต่ไม่กล้าออกมาดู กระทั่งเช้าพบหลุมระเบิดขนาดกว้างราว 2 ฟุต ลึก 1 ฟุต อยู่ข้างบ้าน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ทราบว่าบ้านหลังนี้เคยถูกลอบยิงมาแล้วหลายครั้ง จนเจ้าของบ้านต้องสร้างกำแพงสูงเพื่อป้องกัน แต่ล่าสุดกลับถูกลอบขว้างระเบิดแบบลูกเกลี้ยง […]

ทำแผนโจรชิงทอง 123 บาท สารภาพเป็นหนี้นอกระบบ

สมุทรปราการ 20 ส.ค.- โจรชิงทองกลางห้างดังสมุทรปราการ 123 บาท ทำแผนรับสารภาพกู้เงินมาลงทุนร้านซ่อมรถ เสียดอกรายวันแต่หมุนเงินไม่ทัน จึงก่อเหตุ  กรณีนายวีรวัฒน์ อายุ 31 ปี บุกเดี่ยวควงปืนก่อเหตุชิงทองรูปพรรณน้ำหนัก 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ที่ร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ  ก่อนจะอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีเส้นทางที่ไร้กล้องวงจรปิด โดยเหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ต่อมา ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พบว่าผู้ต้องหานำรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีไปทิ้งบ่อปลาแห่งหนึ่งในซอยวัดคอลาด แล้วหลบหนีต่อไป จึงไล่เรียงเบาะแสจนพบหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพัก เมื่อวาน (19 ส.ค.) จึงนำหมายค้นบ้านนายวีรวัฒน์ พร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมกับของกลางทองรูปพรรณซุกซ่อนไว้ในตู้ลำโพงหน้าบ้าน และใส่ในถุงพลาสติกฝังดินใต้ต้นไม้ข้างบ้าน รวมตรวจยึดทองคืนได้ประมาณ 90 บาท ยังเหลือทองคำอีก 33 บาท อยู่ระหว่างสอบขยายผล  ผู้ต้องหาสารภาพว่า ก่อเหตุเพราะเป็นหนี้นอกระบบจากการกู้ยืมมาลงทุนร้านซ่อมรถและต้องเสียดอกเบี้ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท จึงหมุนเงินไม่ทัน จากนั้นคิดวางแผนในการก่อเหตุ ประมาณ 1 […]

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบฯ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน

ทำเนียบฯ 20 ส.ค.-บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบค้างท่อ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน เน้นเศรษฐกิจชายแดน รองรับผลกระทบภาษี “ทรัมป์” และเหตุจำเป็น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) หลังจากรัฐบาลจัดสรรงบกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรก 1.15 แสนล้านบาท รอบสอง 1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดสรรเงินให้กับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท และกองทุนเงินให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (กยศ.) 8,488 ล้านบาท นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การจัดสรรให้กับหน่วยงานต่างๆ ในรอบแรกพบว่า มีหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างไม่ทัน จึงดึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลือค้างท่อ 2.6 หมื่นล้านบาท กลับเข้ามาอยู่ในงบกลางสำรองฉุกเฉิน เพื่อนำมาพิจารณาใช้ในเรื่องจำเป็น เช่น การฟื้นเศรษฐกิจแดนไทย-กัมพูชา การใช้งบรองรับผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐร้อยละ 19 ในบางรายการ หากส่วนราชการใดต้องการใช้งบดังกล่าว ต้องจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จภายใน 30 ก.ย.นี้ โดยสำนักงบประมาณจะพิจารณาในการจัดสรรงบให้ สำหรับผลกระทบจากภาษีศุลกากรสหรัฐ ยอมรับว่า รายย่อยที่ได้รับผลกระทบ […]