วงเสวนาสะท้อนสิทธิเสรีภาพในไทยยังมีปัญหา

สำนักงาน กสม.  13 ก.ค. -วงเสวนาโรดแมปสิทธิมนุษยชนเส้นทางประชาธิปไตย  เห็นตรงกันสิทธิเสรีภาพในรัฐบาลหลังรัฐประหารยังมีปัญหา”วัส” ระบุตราบาปรัฐธรรมนูญ 60  คนร่างมีวาระซ่อนเร้น  ใช้กฎหมายเซ็ตซีโรองค์กรอิสระ     “บรรเจิด”  เห็นว่า เรื่องการเซ็ตซีโร่ กสม.และ กกต.เป็นรอยด่างในรัฐธรรมนูญ 60   ด้าน “พงษ์เทพ”  ชี้องค์กรอิสระขาดความน่าเชื่อถือ  เพราะได้ประโยชน์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 ก.ค.)สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  จัดงานครบรอบวันสถาปนาองค์กร กสม. 17 ปี โดยมีการเสวนาหัวข้อ   “โรดแมป สิทธิมนุษยชนเส้นทางประชาธิปไตย”   โดยมี นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยนชนแห่งชาติ    นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม   นายบรรเจิด สิงคะเนติ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์   และนายวิทิต มันตราภรณ์   อาจารย์คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมเวที  โดยส่วนใหญ่เห็นตรงกัน  ว่าเรื่องของสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยมีความก้าวหน้ามาโดยลำดับ  แต่ยังมีหลายอย่างที่เป็นปัญหา โดยเฉพาะเรื่องของสิทธิเสรีภาพ

นายวัส  กล่าวว่า การเขียนบทเฉพาะกาลในรัฐธรรมนูญให้กรรมการในองค์กรอิสระอยู่ในวาระต่อไปหรือไม่  ให้เป็นไปตามกฎหมาย จนทำให้มีการเซ็ตซีโร่องค์กรอิสระ   แต่ไม่เซ็ตซีโร่บางองค์กร  จะเป็นปัญหาการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรที่ไม่ถูกเซ็ตซีโร  ว่าจะมีการคอบแทนบุญคุณหรือไม่    ซึ่งตนและ กสม.บางคนได้ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย  แต่ก็มีการยกคำร้อง   ในขณะที่คนที่จะต้องเป็นผู้วินิจฉัย คือ  ศาล  ก็ได้ประโยชน์จากกฎหมายลักษณะนี้  ทำให้เกิดปัญหาผลประโยชน์ขัดกัน   ถือเป็นเรื่องที่ผิดตั้งแต่การร่างรัฐธรรมนูญ  เหมือนเป็นตราบาป   จึงเชื่อว่าผู้เขียนกฎหมายน่าจะมีวาระซ่อนเร้นหรือไม่  และเห็นว่ารัฐธรรมนูญที่ต้องการลดความขัดแย้งภายในประเทศนั้น  หากผู้มีอำนาจในปัจจุบันเดินหน้าเป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้งจะทำให้เห็นได้ว่าความหวังที่คิดว่าปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติจะเลือนลางเต็มที


นายวิทิต  กล่าวว่า เรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศที่มีความก้าวหน้า คือ  เรื่องการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ การปราบปรามการค้ามนุษย์  มีการนำหลักการสากลมาใช้ในประเทศมากขึ้น  และการนำกระบวนการยุติธรรมปกติมาใช้ในพื้นที่ภาคใต้มากขึ้น  แทนที่จะใช้แต่ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินเพียงอย่างเดียว   แต่สิ่งที่ยังไม่ราบรื่น คือ เรื่องนิรโทษกรรมตนเองยังมีอยู่ หรือการลังเลเรื่องการเลือกตั้งทำให้นานาชาติไม่สบายใจและเรื่องสิทธิเสรีภาพยังมีปัญหาทั้งเรื่องกฎหมายอาญามาตรา 112 และ 116 นอกจากนี้ยังมีการจับกุมคนที่เรียกร้องประชาธิปไตย   และมีการลงโทษประหารชีวิต   อย่างไรก็ตามในเรื่องพื้นที่สู่การเลือกตั้ง มี 4 คดี ที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความแล้วว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ  เปิดช่องทางสู่การเลือกตั้งง่ายขึ้นคือ คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 ออกมาแก้ไข พ.ร.ป.พรรคการเมือง / ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.  / ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความ   และกรณีที่ยกฟ้องเรื่องการทำรัฐประหาร ทำให้การเลือกตั้งน่าจะเร็วขึ้น  จึงอยากให้เปิดพื้นที่การแสดงออกมากขึ้น  และเปิดให้ภายนอกเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง  จัดการเลือกตั้งให้เกิดความเสรีและเที่ยงธรรม อย่างไรก็ตามเรื่องของสิทธิมนุษยชนนั้น  ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้งหรือไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง  ก็ไม่มีหลักประกันว่าสิทธิมนุษยชนจะได้รับความคุ้มครอง   สังคมจึงต้องร่วมกันผลักดันให้ผู้มีอำนาจเคารพสิทธิมนุษยชนของประชาชนด้วย พร้อมกับเสนอให้ลดการใช้กฎหมายที่ไปลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน   และคดีที่เกี่ยวกับพลเรือนอย่าไปขึ้นศาลทหาร  หรือถ้าขึ้นศาลทหารก็ขอให้อุทธรณ์ไปยังศาลพลเรือนได้

ด้านนายบรรเจิด   กล่าวว่า หลักการสิทธิมนุษยชนกับหลักการประชาธิปไตยเป็นรากแก้วของเสรีประชาธิปไตย คือหลักนิติรัฐนิติธรรมและประชาธิปไตย  ต้องสัมพันธ์กันจึงจะอยู่อย่างมั่นคงได้  ประเทศไทยเรื่องหลักนิติรัฐ นิติธรรม มีปัญหาตั้งแต่การยกร่างรัฐธรรมนูญปี 2560   ส่วนประชาธิปไตยในรอบหนึ่งทศวรรษมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งและไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง    ซึ่งรัฐบาลจากการเลือกตั้งไม่มีปัญหาเรื่องเสรีภาพในการแสดงออก   แต่เมื่อมีการใช้เสรีภาพในการชุมนุมกลับมีปัญหาเรื่องการทำลายชีวิต   ส่วนรัฐบาลที่ไม่มาจากการเลือกตั้งมีข้อจำกัดเรื่องการแสดงออก  แต่มีความมั่นคงในชีวิตและร่างกาย  เพราะฉะนั้นบริบทสิทธิมนุษยชนในหนึ่งทศวรรษจึงมีปัญหาทั้งสองด้าน   จึงเหมือนทางสองแพ่งว่าจะเดินต่ออย่างไร นายบรรเจิด ยังเห็นว่า รัฐธรรมนูญปี 60  มีปัญหา   เพราะแม้จะมีการกำหนดเรื่องหลักนิติรัฐ  นิติธรรมเอาไว้ แต่กลับมีการเซ็ตซีโร กกต.และ กสม. คุ้มครองบางองค์กร   ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาในอนาคต  เช่น ป.ป.ช.หากวินิจฉัยเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายการเมืองก็จะถูกมองว่าสองมาตรฐาน  เพราะได้ประโยชน์จากการไม่ถูกเซ็ตซีโร่   จะกลายเป็นประเด็นที่ถูกนำมาขยายผล ถือว่าเป็นรอยด่างของรัฐธรรมนูญที่ควรจะซักฟอกใหม่  ไม่เช่นนั้นจะเป็นรอยด่างไปชั่วนิรันดร์  ไม่สามารถอธิบายหลักความเสมอภาคและการเลือกปฏิบัติได้  อีกทั้งขัดกับหลักการให้กฎหมายมีผลย้อนหลัง

“เพราะกฎหมายมหาชนกฎหมายมีผลย้อนหลังได้  แต่รัฐต้องอธิบายได้ว่า  มีประโยชน์สาธารณะสำคัญกว่าหลักการคุ้มครองความสุจริต  พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญที่การระบุเกี่ยวกับสิทธิการชุมนุม   ว่าต้องไม่กระทบความมั่นคงของรัฐ   ซึ่งจะทำให้สิทธิเสรีภาพการชุมนุมถูกจำกัดตั้งแต่ต้นทาง”นายบรรเจิด กล่าว


ส่วนนายพงษ์เทพ  เห็นว่า เมื่อประเทศไม่เป็นประชาธิปไตยก็ทำให้ประชาชนไม่มีสิทธิมนุษยชนอย่างที่ควรจะเป็น  ทำอะไรไม่ได้  เพราะจะถูกจับตั้งข้อหา  อีกทั้งรัฐธรรมนูญปี 60 ยังคุ้มครองการใช้อำนาจของ คสช.ให้ใช้อำนาจได้ทั้งฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติและตุลาการ   ซึ่งเป็นระบบที่แย่กว่ารัฐบาลจากการรัฐประหารในอดีต  เพราะสามารถแทรกแซงได้ทั้งศาลและองค์กรอิสระ  และยังมีการกำหนดถึงวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการในองค์กรอิสระให้ขึ้นอยู่กับกฎหมาย จนมีการเซ็ตซีโร่  กสม.และ กกต.แต่หลายองค์กรได้รับความคุ้มครอง  ทำให้สังคมขาดความเชื่อมั่นต่อการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรอิสระ รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญ ที่ได้ประโยชน์จากเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นเดียวกัน   นอกจากนี้ยังกำหนดให้ ส.ว.มาจากการแต่งตั้งของ คสช. 250 คน  มีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรี  และจะเป็นผู้ให้ความเห็นชอบองค์กรอิสระในอนาคต  ทำให้เชื่อมั่นไม่ได้ ขณะเดียวกันผู้มีอำนาจก็แสดงท่าทีว่าจะกลับเข้าสู่อำนาจอีกครั้ง  ทำให้กระบวนการตรวจสอบมีปัญหา อย่างไรก็ตามยังเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยแม้จะมีปัญหา แต่การปกครองระบอบอื่นมีปัญหามากกว่า  โดยในช่วงการบริหารของรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร  คงต้องฝากความหวังไว้กับศาลเพียงอย่างเดียว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่น้ำท่วมหลายชุมชน ปิดน้ำตก 3 แห่ง

เชียงใหม่ 26 พ.ค.-เชียงใหม่ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง เกรงจะเกิดอันตราย ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ น้ำท่วมหลายชุมชน ระบายน้ำไม่ทัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ฝนตกหนัก ทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วย ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เชียงใหม่ สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง ทั้งน้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก อำเภอแม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า อำเภอแม่แตง เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีสีแดงขุ่น กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าบนดอยสุเทพ ไหลหลากลงลำห้วยมาตามทางระบายน้ำและไหลลงลำคลองคูไหว ทำให้เอ่อล้น จนระบายน้ำไม่ทัน เข้าท่วมขังในชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนฟ้าใหม่ ชุมชนกาดก้อม ระดับน้ำท่วมขังสูง 30-50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนและร้านค้าได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับนักเรียนกำลังเดินทางไปเรียน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเทสบาลนครเชียงใหม่ กำลังเร่งสูบระบายน้ำอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

“บังยา บองหลาคิงส์” รุดจับแม่งูจงอาง ไล่ฉกชาวบ้านวิ่งป่าราบ

สงขลา 25 พ.ค.- ชาวสวนยางสงขลา ผวา! แม่งูจงอางหวงไข่ดุมาก ไล่ฉกเจ้าของสวนวิ่งป่าราบ ต้องหยุดกรีดยาง ร้อนถึง “บังยาบองหลาคิงส์” ราชางูจงอางภาคใต้ ต้องมาช่วยจับ บังยา บองหลาคิงส์ ราชางูจงอางของภาคใต้ ตีรถด่วนจาก จ.กระบี่ มาช่วยจับงูจงอางนอนฟักไข่เฝ้ารังอยู่ในป่าสวนยาง พื้นที่บ้านควนยาง หมู่ 9 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นสวนยางของนายปรีชา อายุ 46 ปี ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่กล้าไปกรีดยางเพราะมีแม่งูจงอางมานอนฟักไข่เฝ้ารังติดกับต้นยาง ครั้งแรกที่ไปเจอตอนไปกรีดยางเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เกือบโดนฉกมาแล้วเพราะเข้าไปใกล้รัง จนต้องวิ่งหนีสุดชีวิต หลังจากนั้นก็ไม่กล้าขึ้นไปกรีดยางอีกเลย จนต้องแจ้งขอความช่วยเหลือไปยัง บังยา บองหลาคิงส์ ให้มาช่วยจับ เมื่อทีมงานบังยา บองหลาคิงส์ มาถึงก็ต้องเดินเท้าขึ้นไปที่ป่าสวนยาง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร เมื่อไปถึงก็พบแม่งูจงอางตัวนี้นอนอยู่บนรังไม่ไปไหน และดุมากชูคอฉกตลอดเวลาหากเข้าใกล้ บังยาต้องหลอกล่ออยู่สักพักก็อาศัยจังหวะความนิ่งใช้มือเปล่าล็อกคอเอาไว้ได้ เป็นแม่งูสาวน่าจะท้องแรกหรือท้องสอง ยาวเกือบ 3 เมตร และเมื่อรื้อรังดูก็มีไข่อยู่ในรัง 28 ฟองและอีกไม่เกิน 10 […]

ข่าวแนะนำ

เสียงปืนสนั่นชายแดนพบพระ ผู้ปกครองไม่กล้าพาลูกไป รร.

ตาก 28 พ.ค. – เช้านี้สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ตึงเครียดหนัก ทหารกะเหรี่ยงและทหารเมียนมายิงปะทะกันด้วยอาวุธหนัก ติดชายแดน อ.พบพระ จ.ตาก ผู้ปกครองไม่กล้าพาบุตรหลานมาโรงเรียนแนวชายแดน และบางส่วนพึ่งหลุมหลบภัย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดความตึงเครียดบริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา โดยกองกำลังทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ( KNLA ) พร้อมทหารหน่วยพิทักษ์ประชาชน (PDF) จำนวนมากพร้อมอาวุธครบมือ ซึ่งเป็นฝ่ายต่อต้านทหารเมียนมาได้บุกโจมตีทหารเมียนมา จากกองบังคับการควบคุมยุทธการที่ 13 จำนวนกว่า 70 คน ที่กำลังเดินทัพไปเสริมกำลังที่ฐานบ้านทิบาโบ แต่ระหว่างทางถูกทหารกะเหรี่ยงเข้าสกัดจนเกิดการยิงปะทะด้วยอาวุธหนักนานกว่า 1 ชั่วโมง ที่บริเวณสนามกีฬาบ้านส่งซี่เมี่ยน อำเภอซูการี จังหวัดเมียวดี ฝั่งตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ห่างแนวชายแดนไทยไปไม่ถึง 1กิโลเมตร รวมถึงทหารเมียนมาจากฐานทิบาโบ ซึ่งเป็นฐานขนาดใหญ่ ก็ได้ระดมยิงอาวุธหนักเข้าช่วยเหลือทหารเมียนมาด้วย เกิดเสียงระเบิดดังไปทั่วแนวชายแดน ทำให้ชาวบ้าน หมู่บ้านมอเกอไทย ซึ่งเป็นหมู่บ้านฝั่งไทยที่ติดกับพื้นที่ยิงปะทะ เตรียมความพร้อมไปอยู่ในหลุมหลบภัย ขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียน มอเกอไทย เผยว่า วันนี้เปิดเรียนตามปกติแต่มีเด็กมาเรียนน้อย เนื่องจากผู้ปกครองส่วนใหญ่เกรงเรื่องความปลอดภัยจึงให้บุตรหลานหยุดเรียน โดยมีทหารชุดเฉพาะกิจราชมนู เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านมอเกอ […]

มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ

อุบลราชธานี 28 พ.ค.-มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ ทหารไทยเข้าเจรจากลับยิงสวน ลั่นปกป้องอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 เต็มที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึง เหตุปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังพลของกองกำลังสุรนารีได้ลาดตระเวนและพบว่า ทหารกัมพูชาขุดคูเลต เช่นเดียวกับเนิน 745 ช่องบก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา แต่ทางกัมพูชา ยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน อย่างที่เป็นข่าว สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อจากนี้ ผู้บังคับบัญชาในระดับพื้นที่กำลังพูดคุยเจรจา “ยืนยันว่าทหารไทยทำหน้าที่รักษาอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 ซึ่งในพื้นที่ทับซ้อนของทั้ง 2 ประเทศ จะมีการออกลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายล้ำเข้ามา ซึ่งทุกฝ่ายต้องยึดตาม MOU 2543”.-313.-สำนักข่าวไทย

paper with statement supports Harvard

ม.ฮาร์วาร์ดแสดงพลังหนุนนักศึกษาต่างชาติ

เคมบริดจ์ 28 พ.ค.- นักศึกษาและคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังของสหรัฐ ชุมนุมแสดงพลังสนับสนุนนักศึกษาต่างชาติ และเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยยืนหยัดท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐบาลกลาง การชุมนุมเมื่อวานนี้มีขึ้นที่ด้านนอกมหาวิทยาลัย ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ นักศึกษาและอาจารย์หลายคนผลัดกันขึ้นพูดบนโต๊ะที่ใช้เป็นเวทีชั่วคราว ประธานนักศึกษาชุมชนชาวยิวในฮาร์วาร์ดกล่าวว่า กระแสต่อต้านชาวยิวเป็นปัญหาในฮาร์วาร์ดและปัญหาของสหรัฐมายาวนาน แต่นโยบายของรัฐบาลไม่ช่วยแก้ปัญหานี้เลย ขณะที่อาจารย์รัฐศาสตร์คนหนึ่งกล่าวว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการล้มมหาวิทยาลัยที่ยืนหยัดเรื่องการมีความคิดและการแสดงออกอย่างเสรี เพราะเป็นสิ่งที่ขวางทางเผด็จการ และในวันเดียวกัน สำนักงานบริหารงานบริการทั่วไปได้สั่งการให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางทบทวน และอาจยกเลิกสัญญาที่เหลืออยู่กับมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งประเมินว่ามีมูลค่าราว 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,270 ล้านบาท) หลังจากที่ได้ยกเลิกเงินให้เปล่าด้านการวิจัยมูลค่าเกือบ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 98,150 ล้านบาท) ไปแล้ว รวมทั้งเพิกถอนสิทธิ์ในการรับนักศึกษาต่างชาติ ซึ่งมีอยู่ราว 6,800 คน คิดเป็นร้อยละ 27 ของนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด.-816(814).-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารกัมพูชา

ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณช่องบก คลี่คลายแล้ว

กองทัพบก 28 พ.ค.-ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างรอการเจรจา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยระบุว่าได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารีเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.30 น. โดย หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเพื่อเข้าพูดคุยเจรจาตามแนวทางการปฏิบัติที่เคยกระทำมา เมื่อถึงบริเวณดังกล่าว กำลังส่วนระวังเหตุของทหารกัมพูชา ได้เข้าใจผิด และเริ่มใช้อาวุธ ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานงานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อจัดการกรณีอ้างสิทธิในพื้นที่ และกำหนดแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ ตามข้อตกลงที่มีอยู่ […]