วงเสวนาสะท้อนสิทธิเสรีภาพในไทยยังมีปัญหา

สำนักงาน กสม.  13 ก.ค. -วงเสวนาโรดแมปสิทธิมนุษยชนเส้นทางประชาธิปไตย  เห็นตรงกันสิทธิเสรีภาพในรัฐบาลหลังรัฐประหารยังมีปัญหา”วัส” ระบุตราบาปรัฐธรรมนูญ 60  คนร่างมีวาระซ่อนเร้น  ใช้กฎหมายเซ็ตซีโรองค์กรอิสระ     “บรรเจิด”  เห็นว่า เรื่องการเซ็ตซีโร่ กสม.และ กกต.เป็นรอยด่างในรัฐธรรมนูญ 60   ด้าน “พงษ์เทพ”  ชี้องค์กรอิสระขาดความน่าเชื่อถือ  เพราะได้ประโยชน์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 ก.ค.)สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  จัดงานครบรอบวันสถาปนาองค์กร กสม. 17 ปี โดยมีการเสวนาหัวข้อ   “โรดแมป สิทธิมนุษยชนเส้นทางประชาธิปไตย”   โดยมี นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยนชนแห่งชาติ    นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม   นายบรรเจิด สิงคะเนติ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์   และนายวิทิต มันตราภรณ์   อาจารย์คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมเวที  โดยส่วนใหญ่เห็นตรงกัน  ว่าเรื่องของสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยมีความก้าวหน้ามาโดยลำดับ  แต่ยังมีหลายอย่างที่เป็นปัญหา โดยเฉพาะเรื่องของสิทธิเสรีภาพ

นายวัส  กล่าวว่า การเขียนบทเฉพาะกาลในรัฐธรรมนูญให้กรรมการในองค์กรอิสระอยู่ในวาระต่อไปหรือไม่  ให้เป็นไปตามกฎหมาย จนทำให้มีการเซ็ตซีโร่องค์กรอิสระ   แต่ไม่เซ็ตซีโร่บางองค์กร  จะเป็นปัญหาการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรที่ไม่ถูกเซ็ตซีโร  ว่าจะมีการคอบแทนบุญคุณหรือไม่    ซึ่งตนและ กสม.บางคนได้ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย  แต่ก็มีการยกคำร้อง   ในขณะที่คนที่จะต้องเป็นผู้วินิจฉัย คือ  ศาล  ก็ได้ประโยชน์จากกฎหมายลักษณะนี้  ทำให้เกิดปัญหาผลประโยชน์ขัดกัน   ถือเป็นเรื่องที่ผิดตั้งแต่การร่างรัฐธรรมนูญ  เหมือนเป็นตราบาป   จึงเชื่อว่าผู้เขียนกฎหมายน่าจะมีวาระซ่อนเร้นหรือไม่  และเห็นว่ารัฐธรรมนูญที่ต้องการลดความขัดแย้งภายในประเทศนั้น  หากผู้มีอำนาจในปัจจุบันเดินหน้าเป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้งจะทำให้เห็นได้ว่าความหวังที่คิดว่าปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติจะเลือนลางเต็มที


นายวิทิต  กล่าวว่า เรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศที่มีความก้าวหน้า คือ  เรื่องการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ การปราบปรามการค้ามนุษย์  มีการนำหลักการสากลมาใช้ในประเทศมากขึ้น  และการนำกระบวนการยุติธรรมปกติมาใช้ในพื้นที่ภาคใต้มากขึ้น  แทนที่จะใช้แต่ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินเพียงอย่างเดียว   แต่สิ่งที่ยังไม่ราบรื่น คือ เรื่องนิรโทษกรรมตนเองยังมีอยู่ หรือการลังเลเรื่องการเลือกตั้งทำให้นานาชาติไม่สบายใจและเรื่องสิทธิเสรีภาพยังมีปัญหาทั้งเรื่องกฎหมายอาญามาตรา 112 และ 116 นอกจากนี้ยังมีการจับกุมคนที่เรียกร้องประชาธิปไตย   และมีการลงโทษประหารชีวิต   อย่างไรก็ตามในเรื่องพื้นที่สู่การเลือกตั้ง มี 4 คดี ที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความแล้วว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ  เปิดช่องทางสู่การเลือกตั้งง่ายขึ้นคือ คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 ออกมาแก้ไข พ.ร.ป.พรรคการเมือง / ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.  / ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความ   และกรณีที่ยกฟ้องเรื่องการทำรัฐประหาร ทำให้การเลือกตั้งน่าจะเร็วขึ้น  จึงอยากให้เปิดพื้นที่การแสดงออกมากขึ้น  และเปิดให้ภายนอกเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง  จัดการเลือกตั้งให้เกิดความเสรีและเที่ยงธรรม อย่างไรก็ตามเรื่องของสิทธิมนุษยชนนั้น  ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้งหรือไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง  ก็ไม่มีหลักประกันว่าสิทธิมนุษยชนจะได้รับความคุ้มครอง   สังคมจึงต้องร่วมกันผลักดันให้ผู้มีอำนาจเคารพสิทธิมนุษยชนของประชาชนด้วย พร้อมกับเสนอให้ลดการใช้กฎหมายที่ไปลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน   และคดีที่เกี่ยวกับพลเรือนอย่าไปขึ้นศาลทหาร  หรือถ้าขึ้นศาลทหารก็ขอให้อุทธรณ์ไปยังศาลพลเรือนได้

ด้านนายบรรเจิด   กล่าวว่า หลักการสิทธิมนุษยชนกับหลักการประชาธิปไตยเป็นรากแก้วของเสรีประชาธิปไตย คือหลักนิติรัฐนิติธรรมและประชาธิปไตย  ต้องสัมพันธ์กันจึงจะอยู่อย่างมั่นคงได้  ประเทศไทยเรื่องหลักนิติรัฐ นิติธรรม มีปัญหาตั้งแต่การยกร่างรัฐธรรมนูญปี 2560   ส่วนประชาธิปไตยในรอบหนึ่งทศวรรษมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งและไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง    ซึ่งรัฐบาลจากการเลือกตั้งไม่มีปัญหาเรื่องเสรีภาพในการแสดงออก   แต่เมื่อมีการใช้เสรีภาพในการชุมนุมกลับมีปัญหาเรื่องการทำลายชีวิต   ส่วนรัฐบาลที่ไม่มาจากการเลือกตั้งมีข้อจำกัดเรื่องการแสดงออก  แต่มีความมั่นคงในชีวิตและร่างกาย  เพราะฉะนั้นบริบทสิทธิมนุษยชนในหนึ่งทศวรรษจึงมีปัญหาทั้งสองด้าน   จึงเหมือนทางสองแพ่งว่าจะเดินต่ออย่างไร นายบรรเจิด ยังเห็นว่า รัฐธรรมนูญปี 60  มีปัญหา   เพราะแม้จะมีการกำหนดเรื่องหลักนิติรัฐ  นิติธรรมเอาไว้ แต่กลับมีการเซ็ตซีโร กกต.และ กสม. คุ้มครองบางองค์กร   ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาในอนาคต  เช่น ป.ป.ช.หากวินิจฉัยเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายการเมืองก็จะถูกมองว่าสองมาตรฐาน  เพราะได้ประโยชน์จากการไม่ถูกเซ็ตซีโร่   จะกลายเป็นประเด็นที่ถูกนำมาขยายผล ถือว่าเป็นรอยด่างของรัฐธรรมนูญที่ควรจะซักฟอกใหม่  ไม่เช่นนั้นจะเป็นรอยด่างไปชั่วนิรันดร์  ไม่สามารถอธิบายหลักความเสมอภาคและการเลือกปฏิบัติได้  อีกทั้งขัดกับหลักการให้กฎหมายมีผลย้อนหลัง

“เพราะกฎหมายมหาชนกฎหมายมีผลย้อนหลังได้  แต่รัฐต้องอธิบายได้ว่า  มีประโยชน์สาธารณะสำคัญกว่าหลักการคุ้มครองความสุจริต  พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญที่การระบุเกี่ยวกับสิทธิการชุมนุม   ว่าต้องไม่กระทบความมั่นคงของรัฐ   ซึ่งจะทำให้สิทธิเสรีภาพการชุมนุมถูกจำกัดตั้งแต่ต้นทาง”นายบรรเจิด กล่าว


ส่วนนายพงษ์เทพ  เห็นว่า เมื่อประเทศไม่เป็นประชาธิปไตยก็ทำให้ประชาชนไม่มีสิทธิมนุษยชนอย่างที่ควรจะเป็น  ทำอะไรไม่ได้  เพราะจะถูกจับตั้งข้อหา  อีกทั้งรัฐธรรมนูญปี 60 ยังคุ้มครองการใช้อำนาจของ คสช.ให้ใช้อำนาจได้ทั้งฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติและตุลาการ   ซึ่งเป็นระบบที่แย่กว่ารัฐบาลจากการรัฐประหารในอดีต  เพราะสามารถแทรกแซงได้ทั้งศาลและองค์กรอิสระ  และยังมีการกำหนดถึงวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการในองค์กรอิสระให้ขึ้นอยู่กับกฎหมาย จนมีการเซ็ตซีโร่  กสม.และ กกต.แต่หลายองค์กรได้รับความคุ้มครอง  ทำให้สังคมขาดความเชื่อมั่นต่อการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรอิสระ รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญ ที่ได้ประโยชน์จากเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นเดียวกัน   นอกจากนี้ยังกำหนดให้ ส.ว.มาจากการแต่งตั้งของ คสช. 250 คน  มีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรี  และจะเป็นผู้ให้ความเห็นชอบองค์กรอิสระในอนาคต  ทำให้เชื่อมั่นไม่ได้ ขณะเดียวกันผู้มีอำนาจก็แสดงท่าทีว่าจะกลับเข้าสู่อำนาจอีกครั้ง  ทำให้กระบวนการตรวจสอบมีปัญหา อย่างไรก็ตามยังเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยแม้จะมีปัญหา แต่การปกครองระบอบอื่นมีปัญหามากกว่า  โดยในช่วงการบริหารของรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร  คงต้องฝากความหวังไว้กับศาลเพียงอย่างเดียว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

“สุริยะ” นำ 14 รมต.ใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ

3 ก.ค. – “สุริยะ” นำ 14 รมต.ใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งใหม่ จำนวน 14 คน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ .-สำนักข่าวไทย

ชื่นมื่น! 5 พรรคร่วมฝ่ายค้านประสานมือ ต้อนรับน้องใหม่ “ภท.”

รัฐสภา 3 ก.ค.- “พรรคร่วมฝ่ายค้าน” ชื่นมื่น ประสานมือ 5 พรรค ต้อนร้บน้องใหม่ “ภูมิใจไทย” ด้าน “ณัฐพงษ์” ถกแนวทางแสวงหาจุดร่วมเพื่อผลักดัน ย้ำ ไม่ก้าวก่ายจุดยืนข้อแตกต่าง “อนุทิน” ปลื้ม ถูกต้อนรับอบอุ่น ยัน พร้อมตรวจสอบรัฐบาลเต็มที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านนัดแรก ภายหลังเปิดสมัยประชุมสภาฯ เพื่อหารือทิศทางการทำงาน โดยแกนนำแต่ละพรรคที่เข้าร่วม มีดังนี้ แกนนำพรรคประชาชน ประกอบด้วยนายณัฐพงษ์ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรค และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรค แกนนำพรรคภูมิใจไทย ประกอบด้วยนายอนุทิน […]

14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบถ่ายรูป ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ

ทำเนียบ 3 ก.ค.- ชื่นมื่น! 14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบฯ ตั้งแต่ช่วงเช้า ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ “อรรถกร” มาถึงคนแรก ปิดท้ายด้วย “นายกฯ แพทองธาร” เตรียมประชุม ครม. นัดพิเศษในช่วงบ่าย แบ่งงานรองนายกฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐมนตรีใหม่ 14 คน ทยอยเดินทางมายังตึกสันติไมตรี เพื่อตรวจเอทีเค ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีที่เดินทางมาเป็นคนแรก คือ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหกรณ์ และ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากนั้น นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตามด้วย นายอนุชา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ-อีสานตอนบน-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]