สว.อังคณา กระตุกขาเพื่อน สว. ชะลอเลือกองค์กรอิสระ 30 พ.ค.นี้

รัฐสภา​ 27 พ.ค.-สว.อังคณา กระตุกขาเพื่อน สว. เรียกร้องสปิริตขอให้ชะลอเลือกองค์กรอิสระ 30 พ.ค.นี้ เตรียมขอพูดกลางที่ประชุม สว. บอกขึ้นอยู่กับท่านประธาน “มงคล” จะใจกว้างหรือไม่ ย้ำหากเลือกไปแล้วคดีฮั้ว สว.มีความผิดทำยังไง ชี้ไม่สง่างาม ลั่นของแบบนี้อยู่ที่จิตสำนึก ฉะ กกต.ทำงานช้า ขนาด สส. 500 คน ยังมีใบส้ม-เหลือง-แดง

นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีเสียงเรียกร้องให้การประชุมวุฒิสภา สมัยวิสามัญ ในวันที่ 30 พ.ค.นี้ ชะลอการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบประวัติองค์กรอิสระ เพราะสมาชิกบางคนถูกกล่าวหาว่าฮั้วเลือก สว. ว่า พูดตรงๆ ในฐานะที่ตนมีส่วนได้ส่วนเสีย เราตั้งข้อสงสัยว่าทุกครั้งที่มีการตั้งคณะกรรมการ ทำไมคณะ กมธ.พัฒนาการเมืองฯ สว. จึงไม่ถูกเลือกให้เข้าไปเป็นหนึ่งในกรรมการสรรหาองค์กรอิสระ ซึ่งเป็น กมธ.เดียวใน 21 คณะ ที่ไม่ได้เข้าไปเลยสักครั้ง และเราพูดมาตลอดว่าหลักการต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้บริสุทธิ์ เป็นสิ่งที่พูดก่อนจะมีรายชื่อ สว. ที่เป็นผู้ต้องสงสัย วันนี้เมื่อเปิดเผยรายชื่อออกมาแล้ว และมี สว.ไปรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่อย่างน้อยที่สุด สว.เหล่านี้ต้องพิจารณาตัวเอง คำนึงถึงเรื่องหลักจริยธรรม หากถามว่าผิดกฎหมายหรือไม่ มันไม่ผิดกฎหมาย แต่ผิดจริยธรรม แล้วถ้า สว.ไม่เลือกองค์กรอิสระก็ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีคนทำหน้าที่ เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่าหากกรรมการองค์กรอิสระหมดวาระ คืออายุ 70 ปี หากไม่สามารถสรรหาคนมาแทนได้ และไม่ครบองค์ประชุม รัฐธรรมนูญเปิดให้ประธานศาลฎีกาและประธานศาลปกครองสูงสุดแต่งตั้งบุคคลเข้ามาปฏิบัติหน้าที่แทนได้อยู่แล้ว จึงไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้


“ดิฉันยืนยันตลอดว่าทุกคนต้องได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ช่วงที่เป็นผู้ถูกกล่าวหา โดยเฉพาะถูกกล่าวหาว่าเข้าไปเกี่ยวข้อง กับการได้มาซึ่ง สว.ที่ไม่ชอบธรรม ดิฉันคิดว่าเป็นสปิริต และเป็นจริยธรรมของแต่ละบุคคล ซึ่งคงจะมีการพูดเรื่องนี้ในที่ประชุม แต่ต้องดูก่อนว่าท่านประธานวุฒิสภาจะใจกว้างให้มีการถกแถลงเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน และอยู่ที่ สว.แต่ละคนด้วยว่าคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เพราะหากเลือกไปแล้ว สมมติว่าวันข้างหน้ามีการชี้ออกมาแล้วว่าใครที่ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง สว. แต่บุคคลเหล่านั้นเข้าไปเลือกองค์กรอิสระแล้ว จะเป็นโมฆะหรือไม่ ดิฉันคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง พูดตรงๆ อยู่ที่จิตสำนึกของความรับผิดชอบของแต่ละคน” นางอังคณา กล่าว

นางอังคณา กล่าวต่อว่า ในวันพรุ่งนี้ (28 พ.ค.) วิปวุฒิสภาจะมีการประชุม จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญขึ้นมาพิจารณาคุณสมบัติขององค์กรอิสระ แต่ดูแล้ว สว.ส่วนมาก อาจจะคำนึงถึงแค่ข้อกฎหมายและคงจะเดินไปข้างหน้าอย่างเดียว แต่หาก ย้อนกลับมาเรื่องจริยธรรมและความรับผิดชอบตนคิดว่ามีทางออกที่จะให้ สว.ทุกคน มีที่ยืนอย่างสง่างาม และคิดว่าการทำความจริงให้ปรากฎเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่ว่าไปดีลแล้วจบ โดยที่ไม่มีใครรู้ ไม่สามารถเปิดเผยข้อเท็จจริงได้ว่าผิดหรือถูก ก็จะทำให้การเมืองไทยถดถอยและเป็นอะไรที่ไม่มีเกียรติมีศักดิ์ศรีเลย


เมื่อถามว่าล่าสุดมีคลิปเสียงที่เชื่อว่าเป็นการสัญญาว่าจะให้ในการจัดตั้งกลุ่มฮั้ว สว.ออกมา มองอย่างไร นางอังคณา กล่าวว่า ตอนนั้นเราเข้าไปนั่งในคูหาเลือกตั้ง เราไม่ได้ยินว่ามีการสัญญาว่าจะให้เงินหรือไม่ แต่ได้ยินว่ามีการแลกคะแนนกัน ตนชื่อขึ้นต้น อ. อยู่ท้ายๆ เลยเป็นที่จับตาของเจ้าหน้าที่ เวลาจะเดินเข้ามีเจ้าหน้าที่มาห้าม แต่ผู้สมัครหลายคนสามารถเดินไปมาได้ ตนมองว่าเรื่อง สว. ไม่ควรมาถึงตรงนี้หากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ขนาด สส. 500 คน ยังสามารถออกใบเหลือง ใบส้ม ใบแดงได้ แต่ สว.แค่ 200 คน ทำไม กกต.ถึงล่าช้า เป็นประเด็นสำคัญที่ทุกคนถาม แล้ว สว.ก็จะไปเลือก กกต. ป.ป.ช. อีก ดิฉันคิดว่าองค์กรอิสระที่เป็นรากฐานของสังคม มีการคัดสรรมาโดยที่อาจจะเป็นคนของใครหรือไม่ หรือทำเพื่อประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง นอกเหนือจากประโยชน์ของประชาชน ดิฉันคิดว่า เป็นกระบวนการที่เซาะกร่อนบ่อนทำลายสังคมไทยในอนาคตได้ เพราะ องค์กรอิสระอื่นอยู่ 7 ปี ป.ป.ช. อยู่ 9 ปี ซึ่งยาวนานมาก และ สว.หลายคนก็ไปร้อง ป.ป.ช. แล้ว สว.จะมาคัดเลือกอีก ดิฉันคิดว่าเป็นอะไรที่ไม่มีความสง่างาม จึงหวังว่าเพื่อน สว.จะใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบ ระมัดระวังในเรื่องนี้ และศักดิ์ศรีความเป็น สว.ก็อยู่ที่ว่าเราจะรับผิดชอบและมีจิตสำนึกต่อสังคมอย่างไร” นางอังคณา กล่าว

ช่วงท้ายผู้สื่อข่าวได้แซวว่า นายอลงกต วรกี สว. ตัวตึง ก็ชื่อ อ. เหมือนกัน ยังเดินไปทั่วได้ นางอังคณา กล่าวทันทีว่าคนละกลุ่ม เขาเดินไปเดินมา แต่ตนนั่งยาวมาก ไม่ได้ไปไหนเลย ก่อนจะหัวเราะ.-319.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]

ทบ.เผยหากสถานการณ์บีบบังคับ อาจต้องใช้สิทธิป้องกันตนเอง

12 ส.ค.- ทบ.ชี้กัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดคุกคามต่อเนื่อง ไม่สนผิดอนุสัญญาออตตาวา โฆษก ทบ.เผยหากสถานการณ์บีบบังคับ กองทัพอาจจำเป็นต้องใช้สิทธิป้องกันตนเองตามหลักสากล พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 09.10 น. สิบเอก ธีรพล เพียขันที สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2610 พร้อมกำลังพลรวม 7 นาย ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย บนเส้นทางประจำ ห่างจากปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างปฏิบัติภารกิจ สิบเอก ธีรพล ได้เหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางไว้ ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณข้อเท้าซ้าย ปัจจุบันได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว เหตุการณ์นี้เป็นหลักฐานชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และไม่เคารพต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งห้ามใช้และวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทุกชนิด นับเป็นการลอบโจมตีที่มีเป้าหมายต่อกำลังพลฝ่ายไทยโดยตรง และเกิดขึ้นในเขตแดนไทย ยิ่งไปกว่านั้น เหตุลักษณะเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่ชายแดน สะท้อนถึงเจตนาร้ายและพฤติกรรมต่อเนื่องของฝ่ายกัมพูชาในการคุกคามฝ่ายไทย และละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนไทย สวนทางกับข้อตกลงหยุดยิงระหว่างประเทศในการประชุม GBC ที่ผ่านมา จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า […]

ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน สูญเสียขาอีก 1 นาย

12 ส.ค.- ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิด ขณะลาดตระเวนพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม หลังรั้วลวดหนามฝั่งไทย คาดทหารเขมรล่าถอยแล้วฝังทุ่นระเบิดไว้ เมื่อเวลา 09.10 น. รายงานข่าวจากกองทัพพื้นที่สองเปิดเผยว่า ได้เกิดเหตุทหารพราน 2610 เหยียบกับระเบิดขณะทำการลาดตระเวนบริเวณฐานจุ๊บตาโมก ฝั่งตะวันตกของปราสาทตาเมือนธม ซึ่งอยู่ในแนวรั้วลวดหนามของฝั่งประเทศไทย บริเวณพิกัด R51 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ทราบชื่อ ส.อ.ธีรพล เพียขันที กรุ๊ปเลือด AB ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาด ขณะนี้กำลังนำส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากเหตุปะทะกันทางทหารกัมพูชาได้ล่าถอยและฝั่งทุ่นระเบิดไว้ก่อนออกนอกพื้นที่เขตประเทศไทย -สำนักข่าวไทย