ก.ท่องเที่ยว เข้มแก้ปัญหาธุรกิจนำเที่ยวนอมินี

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-ก.ท่องเที่ยวฯถกแก้ปัญหาธุรกิจนำเที่ยวนอมินี หลังเกิดเหตุเรือล่ม จ.ภูเก็ต มอบทุกฝ่ายทำแผนระยะสั้นเร่งด่วน พบนักท่องเที่ยวชาวจีน ยกเลิกจองห้องพักในภูเก็ต แล้วร้อยละ10-15 


นายอภิชาติ จีระพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาการประกอบธุรกิจใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง หรือนอมินี และการประกอบธุรกิจท่องเที่ยวในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวราคาต่ำกว่าทุนหรือ ทัวร์ศูนย์เหรียญ หลังเกิดเหตุเรือล่ม จ.ภูเก็ต มีนักท่องเที่ยวชาวจีน เสียชีวิตจำนวนมาก ร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง


นายอภิชาติ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมวันนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่มอบหมายให้ทุกหน่วยงาน ดำเนินการจัดทำแผนระยะสั้น ระยะยาว ในการควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการตรวจสอบภาคธุรกิจ ภายหลังจากที่จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ยอมรับขั้นตอนการพิสูจน์ทราบว่าธุรกิจใดมีคนไทยเป็นนอมินี ใช้ระยะเวลานาน ไม่สามารถทราบได้ทันที เชื่อปัญหาที่เกิดขึ้นสามารถควบคุมได้  โดยจะมีการประชุมสรุปชัดเจนอีกครั้ง ในต้นเดือนสิงหาคมนี้


ด้านนายอนันต์  วงศ์เบญจรัตน์  อธิบดีกรมการท่องเที่ยว  กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การปราบปรามนอมินีในธุรกิจนำเที่ยว มีการตั้งคณะกรรมการร่วมกระบวนการตรวจสอบ ในขั้นตอนก่อนและหลังจดทะเบียน มี 2 ประเด็นที่จะพิจารณา คือการยื่นจดทะเบียนถูกต้องตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ หรือไม่  โดยตั้งข้อสังเกตในสัดส่วนของผู้ถือหุ้นของชาวไทยและต่างชาติ 

หลังจากนั้นจะลงพื้นที่ตรวจสอบว่า มีพฤติกรรมเป็นนอมินีหรือไม่ เบื้องต้นพบหลายธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีคนไทยเป็นนอมินี ยังไม่สามารถระบุตัวเลขที่ชัดเจน

ขณะที่นายพงษ์ภาณุ  เศวตรุนทน์  ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงความคืบหน้าการเยียวยา ว่า วานนี้ได้รับรายงาน มีบริษัทเอกชนเริ่มจ่ายเงินเยียวยาให้กับนักท่องเที่ยวไปแล้ว 9 ราย รายละ 1 ล้าน 1 แสนบาท โดยภาครัฐจะจ่ายสมทบให้ทันทีภายใต้งบประมาณ 64 ล้านบาท ส่วนผลกระทบด้านการท่องเที่ยวขณะนี้มีการยกเลิกการจองโรงแรมที่ภูเก็ตร้อยละ10-15 ยอมรับน่าเป็นห่วงเพราะภูเก็ต มีนักท่องเที่ยวชาวจีนหมุนเวียน 3 ล้านคนต่อปี มีการใช้จ่ายประมาณ 150,000 ล้านบาทต่อปี หลังจากนี้ต้องเร่งฟื้นฟูความมั่นใจ ภายใน 2 สัปดาห์นี้ต้องจับตาตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวจีนอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ในที่ประชุมยังหารือถึงแนวทางมาตรการรักษาความปลอดภัยในการท่องเที่ยวทางน้ำและทางถ้ำ เบื้องต้นสั่งการให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง เข้มงวด กวดขัน กับบริษัทนำเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวโดยเร็วที่สุด .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนฝนน้อย-อีสานอากาศเย็นตอนเช้า

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อย โดยภาคอีสานมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 20%

กต.ย้ำมีแผนพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล-เลบานอน

กต.ประชุมประเมินสถานการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ย้ำมีแผนอพยพพร้อม เผย 5 แรงงานไทยเตรียมเดินทางกลับ แนะประชาชนตัดสินใจก่อนน่านฟ้าปิด

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน