ฐานทัพเรือสัตหีบ 22ก.ย.- กองทัพเรือจัดเรือรบ-ยิงสลุต 19 นัด อำลา ผบ.สส. ขณะที่ พล.อ.สมหมาย ปลื้มเหล่าทัพสามัคคี ฝากกองทัพเรือรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และแผ่นดินไทย
พล.อ.สมหมาย เกาฏีระ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เดินทางมาเยี่ยมอำลากองทัพเรือ เนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการ ณ ท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี มี พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ เรือหลวงปิ่นเกล้าได้ยิงสลุต เพื่อเป็นเกียรติจำนวน 19 นัด ก่อนที่ พล.อ.สมหมาย จะลงจากเรือหลวงนราธิวาส ซึ่งเป็นเรือรับรอง ไปยังเรือตรวจการณ์ 112 เพื่อตรวจพลสวนสนาม โดยมีการจัดกำลังพลจำนวน 1 กรมผสม ประกอบด้วยกำลังพลจากกองเรือยุทธการ และกำลังทางเรือที่รับการตรวจพล ซึ่งประกอบด้วยเรือหลวงมกุฎราชกุมาร เรือหลวงตากสิน เรือหลวงนราธิวาส เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงสุโขทัย เรือหลวงปิ่นเกล้า และเรือหลวงคีรีรัฐ รวมถึง อากาศยาน ประกอบด้วย เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงและกู้ภัย เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง เครื่องบินลาดตระเวน และยังมีกำลังพลทางบก 1 กรมผสม ประกอบด้วย กำลังพลจากกองเรือยุทธการ 1 กองร้อย กำลังพลจากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน 1 กองร้อย พร้อมยุทโธปกรณ์
พล.อ.สมหมาย กล่าวกับกำลังพลกองทัพเรือว่า พิธีตรวจพลทางเรือในวันนี้ เป็นการแสดงถึงความรักความสามัคคี ไม่แบ่งหมู่คณะ ซึ่งเป็นไปตามเจตนาของผู้บัญชาการเหล่าทัพ ตั้งแต่ในอดีตที่ผ่านมา ความสำคัญทั้งปวง คือความสามัคคี ที่จะช่วยให้สังคมและประเทศชาติดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงถาวร และเป็นสิ่งเดียวที่สามารถเอาชนะศัตรู หรือผู้รุกรานได้อย่างเด็ดขาด จะไม่มีผู้ใดรุกรานประเทศไทยได้
“ผมขอฝากกำลังพลกองทัพเรือ ช่วยกันรักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และแผ่นดินไทยตลอดไป ซึ่ พิธีอำลาชีวิตราชการ ที่กองทัพเรือ ในวันนี้ จะอยู่ในความทรงจำตลอดชีวิต” พล.อ.สมหมาย กล่าว
พล.อ.สมหมาย เกาฏีระ เกิดเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2499 จบมัธยมศึกษาที่ 4 ร.ร.วัดเขมาภิรตาราม และจบการศึกษาโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 15 / โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 26 สำเร็จการศึกษาด้วยผลคะแนนลำดับที่ 5 ของรุ่น ส่วนตำแหน่งสำคัญ พล.อ.สมหมาย เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เมื่อปี 2555 และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของกองทัพไทย ในตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เมื่อปี 2558 .-สำนักข่าวไทย