นายกฯ ขอสื่อฯ อย่ายุ่งชีวิตส่วนตัวทีมหมูป่า 13 ชีวิต

ทำเนียบฯ 11 ก.ค. – นายกรัฐมนตรี ขอสื่อฯ อย่ายุ่งกับชีวิตส่วนตัวของทีมหมูป่า 13 ชีวิต หลังออกจากโรงพยาบาล ชี้อยากให้ใช้ชีวิตและเรียนหนังสือตามปกติ  พร้อมเผยสถานการณ์ถ้ำหลวงทุกอย่างสำเร็จเกือบ 100% ขออย่าดราม่าไม่ใช้เรือดำน้ำจิ๋วของอีลอน มัสค์ 


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการปฏิบัติการช่วยเหลือทีมหมูป่า 13 คน ในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ว่า ขณะนี้ทุกอย่างประสบความสำเร็จเกือบ 100% เพราะยังคงเหลือในเรื่องของขั้นตอนทางการเแพทย์ในการฟื้นฟู ดูแลให้ทุกคนมีความปลอดภัย ก่อนส่งกลับไปยังครอบครัว ที่ผ่านมาได้ปฏิบัติการตามมาตรฐานสากลทั้งหมด ซึ่งครั้งนี้ไทยยังได้ในเรื่องของการบูรณาการ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การแสดงออกถึงน้ำใจจากนานาประเทศ 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาสื่อมวลชนพยายามนำเสนอข่าวอย่างดีที่สุด จึงขอขอบคุณสื่อฯ ที่เข้าใจกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ ที่บางครั้งมีการจำกัดพื้นที่การทำข่าว เพื่อให้เกิดความชัดเจนและความถูกต้องในการให้ข้อมูล ขอให้สื่อมวลชนระมัดระวัง เพราะตนได้เห็นบทสัมภาษณ์ของผู้ประสบเหตุเหมืองถล่มที่ประเทศชิลี ที่ชีวิตเปลี่ยนไปหลังได้รับการช่วยเหลือ หลายเรื่องที่ได้รับการสัญญาว่าจะได้ แต่สุดท้ายไม่เป็นไปตามนั้น


“สิ่งที่ต้องระมัดระวังและให้ความสำคัญมากที่สุดในกรณีของทั้ง 13 คน คือช่วงหลังจากได้รับการช่วยเหลือแล้ว เช่น การรักษาความเป็นส่วนตัว ทุกคนต้องช่วยกันระมัดระวัง เพราะเด็กยังมีภูมิต้านทานน้อย และบางครั้งการพูดหรือการให้สัมภาษณ์ ก็จะเป็นมุมมองของเด็ก ก็ขออย่านำไปขยายความ ซึ่งหนทางที่ดีที่สุด ก็คือการไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเด็ก ๆ หลังจากนี้ ขอให้ทุกคนทำหน้าที่ ได้เรียนหนังสือและเป็นคนดีของสังคม เชื่อว่าประเทศไทยจะไม่เกิดกรณีเช่นเดียวกับชิลี และมีการดูแลผู้ประสบภัยอย่างเหมาะสมที่สุด ส่วนกำลังใจก็ต้องส่งให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทุกคน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการพบกับนายอีลอน มัสค์ ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารบริษัท เทสล่า ที่เดินทางมาส่งมอบเรือดำน้ำจิ๋วให้การปฏิบัติการครั้งนี้ ว่า ได้พูดคุยกับนายอีลอน มัสค์ ว่าแม้เครื่องมือดังกล่าวจะไม่ได้นำมาใช้ในการปฏิบัติการครั้งนี้ เนื่องจากสภาพต่าง ๆ ของถ้ำหลวงและถ้ำที่อื่นของโลก มีความแตกต่างกัน แต่ถือว่าจะเป็นประโยชน์กับประเทศไทยในอนาคตที่จะได้เรียนรู้เทคโนโลยี และนำไปศึกษา ต่อยอดพัฒนากับกรณีอื่น ๆ ได้ 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่ไทยได้รับ นั่นคือน้ำใจจากทั่วโลก รวมถึงผู้นำประเทศต่างๆ ได้ชื่นชมความสำเร็จในการปฏิบัติการของไทย และเสียใจกับการสูญเสีย จ.อ.สมาน กุนัน ที่เปรียบเสมือนวีรบุรุษในเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งรัฐบาลจะให้การดูแลอย่างดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือทุกคนในการที่จะไม่ขยายความให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ หรือ ดราม่า เรื่องการไม่ใช้เครื่องมือของนายอีลอน มัสค์ เพราะแม้ไม่ได้ใช้ แต่ประเทศไทยก็มีความต้องการในเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีอยู่ดี 


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลกังวลและให้ความสำคัญมากที่สุดในขณะนี้ คือการปรับสภาพพื้นที่ ให้กลับสู่สภาพปกติมากที่สุด โดยเฉพาะส่วนที่เป็นพื้นที่รับน้ำ และเป็นพื้นที่ระบายน้ำลงจากภูเขา โดยต้องหาวิธีจัดการกับปริมาณน้ำที่มีจำนวนมากขณะนี้ ซึ่งอาจะต้องพิจารณาหาพื้นที่กักเก็บน้ำ เพื่อไม่ให้กระทบพื้นที่การเกษตร

ผู้สื่อข่าวถามนายกรัฐมนตรี ว่าช่วงนี้ดูเหน็ดเหนื่อย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  เพราะมีงานหลายอย่างที่ต้องทำตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา และในวันพรุ่งนี้ (12 ก.ค.) ก็ต้องเดินทางไปเยือนประเทศศรีลังกา แต่การบริหารงานก็ไม่ได้ขาด เพราะมีการติดต่อสื่อสารตลอดเวลา เช่น ศูนย์ที่ช่วยเหลือถ้ำหลวง ก็ติดตามตลอดเวลา เพื่อรับฟังความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล เพราะตนต้องรับผิดชอบในภาพรวม เนื่องจากตนเป็นผู้บัญชาการศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติ และมอบหมายกรอบการทำงานไปยังพื้นที่ 

ขณะที่การจัดเลี้ยงขอบคุณผู้ปฏิบัติงานนั้น ก็จะพิจารณาอย่างเหมาะสม โดยกระทรวงมหาดไทยก็ปรึกษาหารือกันอยู่ แต่ขอให้สถานการณ์ในพื้นที่เรียบร้อยจริงๆ ก่อน เมื่อส่งเด็กกลับไปสู่ครอบครัว  และ ศอร. ก็จะย้ายมาอยู่ที่จังหวัดแทน และในพื้นที่ก็ต้องจัดการในเรื่องของการเก็บของ  เช็คบัญชีการช่วยเหลือ รวมถึงการบริหารจัดการน้ำ ปรับพื้นที่ให้เข้าสู่ธรรมชาติเช่นเดิม

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การสั่งการในพื้นที่นั้น มอบหมายให้นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ดูแล โดยไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะได้มอบแนวทางการให้ไปปฎิบัติ โดยใช้หลักการทางทหาร แต่ตนก็ยังต้องติดตามสถานการณ์อยู่ดี เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน และขอขอบคุณสื่อมวลชน ที่เชื่อฟังเหตุผลในการปิดกั้นพื้นที่ เพราะการนำเสนอข่าวนั้น มีสองด้านเสมอ คือเรื่องที่ดี และเรื่องที่ไม่ดี โดยเฉพาะหากข้อมูลคลาดเคลื่อน ก็อาจส่งผลกระทบต่อคนดูข่าวได้ ส่งผลให้คนท้อแท้ได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ตนไม่เคยพูดว่าจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ แต่ในใจนั้น เชื่อว่าจะสำเร็จได้ เพราะมีแรงศรัทธา เช่นเดียวกับแรงศรัทธานี้ ก็ส่งผลให้ตนมีแรงในการบริหารราชการแผ่นดิน ดังนั้นอยากให้ทุกคนตั้งมั่นในสิ่งเหล่านี้ แล้วสติปัญญาจะเกิดขึ้นในการแก้ปัญหา อย่างไรก็ตาม อยากให้สื่อมวลชนลดการนำเสนอข่าวดราม่า เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งที่ได้ทำดีมาตลอด 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีสื่อต่างประเทศที่สนใจนำเรื่องของ13 คนในถ้ำหลวงนี้ไปทำเป็นภาพยนตร์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องพิจารณาดูเค้าโครงเรื่องว่าเหมาะสมหรือไม่ โดยมีคณะกรรมการด้านภาพยนต์ระดับชาติและกระทรวงวัฒนธรรมพิจารณา

ส่วนเมื่อเหตุการณ์ช่วยเหลือหมูป่าผ่านไปแล้วการเมืองจะกลับมาเข้มข้นขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่สนใจ การเมืองต้องทำไป เมื่อถึงเวลาปลดล็อก ก็ดำเนินกิจกรรมได้ แต่ถ้ายังไม่ปลดล็อก และทำความผิดก็ต้องดำเนินคดี.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย