“จักรทิพย์”ส่งทุกหน่วยประสานงานร่วมทัพเรือค้นหาผู้สูญหายจากเหตุเรือล่ม

กรุงเทพฯ 6 ก.ค.- ผบ.ตร. สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุเรือนักท่องเที่ยวล่มในทะเลอันดามัน พร้อมตั้งศูนย์ปฏิบัติการประสานงานกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยว


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการค้นหาผู้สูญหาย  จากเหตุประสบภัยพิบัติทางทะเลเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวบริเวณทะเลอันดามันเมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 ก.ค. 2561  ในพื้นที่ จ. ภูเก็ต ว่า

1.เรือ เซเรนนาต้า (Selenata) ตรวจสอบจำนวนผู้โดยสาร ที่ท่าเรือวิศิษฐ์พันวา นั้นมีจำนวนทั้งสิ้น   42 คน ขณะนี้เจ้าหน้าที่พบตัวแล้วจำนวน 40 คน และยังมีสูญหายอีก 2 คน เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน  1 ราย และพนักงานประจำเรือ 1 ราย 


2.เรือฟีนิกซ์ซึ่งมีผู้โดยสารรวม 105 คนแบ่งเป็นนักท่องเที่ยว 93 คนลูกเรือและไกด์ 12 คน ข้อมูลการช่วยเหลือสามารถช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้จำนวน 36 คนและช่วยเหลือลูกเรือได้ 12 คนรวมเป็น 48 คน พบผู้เสียชีวิต จำนวน 1 คน ขณะนี้ยังคงเหลือนักท่องเที่ยว ที่ยังไม่พบอีกจำนวน 56 คน 

การปฏิบัติทางจังหวัดภูเก็ต จะยังคงบูรณาการกับทัพเรือภาคที่ 3  ตำรวจน้ำและเรือประมงเพื่อดำเนินการค้นหาผู้สูญหาย โดยขณะนี้ การค้นหา ยังระดมเจ้าหน้าที่ดำเนินการค้นหา อย่างต่อเนื่อง และวันนี้จะนำเฮลิคอปเตอร์ ออกค้นหาบุคคลที่ยังคงสูญหายทั้ง  58 คน 

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ได้รายงานเพิ่มเติมให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ทราบแล้ว ซึ่งท่านมีความเป็นห่วงกับเหตุการณ์ดังกล่าวมาก พร้อมทั้งได้กำชับให้ ทุกกองบัญชาการตำรวจที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ ดูแลความปลอดภัย ผู้ประสบเหตุดังกล่าวให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการในพื้นที่เหมาะสม เพื่อเป็นศูนย์ควบคุมสั่งการในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวพร้อมทั้งให้บูรณาการร่วมกับ หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และอาสาสมัครในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว จัดชุดหาข่าวและพนักงานสอบสวนร่วมกันสืบสวนสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงตามอำนาจหน้าที่,  บช.ท่องเที่ยว และสตม. จัดล่ามแปลอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวและผู้ประสบภัย, บก.รน.สนับสนุนกำลังพลพร้อมเรืออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวและผู้ประสบภัย, บก.ทล.อำนวยความสะดวกด้านการจราจร, บ.ตร. สนับสนุน ฮ. จำนวน 3 ลำให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวและผู้ประสบภัย โดยให้ปฏิบัติการในพื้นที่ จ.ภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง โดยประสานการปฏิบัติร่วมกับ ภ.8 อย่างใกล้ชิด ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยที่รับผิดชอบ มีความพร้อมเต็มที่ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย และรองรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นดังกล่าวด้วย ขณะนี้ได้มีการประชุม เพื่อสรุปสถานการณ์ และมอบภารกิจกับผู้ที่เกี่ยวข้องออกไปปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือแล้ว ซึ่งจะได้รายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าว


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

นักวิชาการชี้เลือกตั้งนายก อบจ.ไม่ใช่ภาพสะท้อนเลือกตั้งใหญ่

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผ่านพ้นไปแล้วทั้ง 47 จังหวัด ขณะนี้รอประกาศผลอย่างเป็นทางการจาก กกต. แต่ผลที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครที่มีเครือข่ายพรรคการเมืองใหญ่สนับสนุนได้ชัยชนะหลายจังหวัด แต่นักวิชาการชี้ว่ายังไม่สามารถสะท้อนให้เห็นภาพชัดถึงผลสนามเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตได้

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ได้ชีวิตใหม่ ไม่สิ้นเคยหวัง เชื่อว่าต้องได้กลับบ้านในสักวัน เผยอยากกินลาบ-ซอยจุ๊

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน หลายประเทศทะลุ 190 AQI

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน “เมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย” หลายประเทศทะลุ 190 AQI ส่วนไทย อีก 2 วัน มีลมแรงช่วยพัดฝุ่นกระจายตัวดีขึ้น ด้าน ปภ.ช. สั่งพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) ดีเดย์ ทุกหน่วยทั่วประเทศเคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” ฝ่าฝืนจับสถานเดียว