เชียงราย 5 ก.ค. -เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถนำ 13 ชีวิต ออกจากถ้ำหลวงได้ เนื่องจากระแสน้ำในถ้ำยังสูง ล่าสุดหน่วยซีลเพิ่มกำลังอีก 31 นาย ขณะที่การสำรวจปล่องด้านบนยังดำเนินการต่อไป
การสูบน้ำแม้จะพยายามสูบทั้งวันทั้งคืน และเพิ่มเครื่องสูบน้ำเข้าไปอีก รวมถึงพยายามเบนทางน้ำไม่ให้เข้าไปเติมในถ้ำ แต่ก็ไม่ง่ายเลย ที่จะทำให้น้ำลดระดับลงง่ายๆ มีรายงานว่าน้ำลดประมาณชั่วโมงละ 1 เซนติเมตร ซึ่งถ้านำยังมีปริมาณมากอยู่ เจ้าหน้าที่ก็คงไม่เสี่ยงที่จะพาเด็กออกมา เพราะจากเนินนมสาวมาถึงสามแยกระยะทางราว 1 กิโลเมตร มีจุดแคบมากที่ไม่สามารถเดินได้ ต้องคลานออกได้ทีละคน และมีน้ำท่วมเต็ม น่าจะเป็นอุปสรรคสำคัญในการดำน้ำออกมา
ล่าสุดเมื่อชั่วโมงที่ผ่านมา นาวาเอก ศุภชัย ธนสารสาคร รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ หรือหน่วยซีล ได้นำกำลังมาร่วมสมทบอีก 31 นาย จากเดิมที่มีเจ้าหน้าที่หน่วยซีลปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้วประมาณ 80 นาย
นอกจากการเพิ่มกำลังหน่วยซีล ยังมีการระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง ตชด นเรศวร 261 ชุดพลร่มกู้ชีพ ตชด.ที่ 32 ตำรวจกองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่มีความเชียวชาญเฉพาะด้านปีนเขา โรยตัว และชุดเดินเท้า พร้อมอุปกรณ์ที่ใช้ในการขุด เจาะ อาหาร น้ำดื่ม ลำเลียงขึ้นเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบล 412 rescue ที่จัดเตรียมไว้ 2 ลำ โดยถอดเบาะที่นั่งออกทั้งหมด เพื่อให้สามารถบรรทุกน้ำหนักขึ้นไปได้มากที่สุด โดยมีพลตำรวจเอกสุชาติ ธีรสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ควบคุมปฏิบัติการครั้งนี้
ซึ่งตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา เฮลิคอปเตอร์ได้บินวนเหนือพื้นที่ เพื่อหาปล่องที่อาจเชื่อมต่อในถ้ำได้ เป็นอีกเส้นทางที่จะพาทั้ง 13 ชีวิตออกมา เพราะว่าแม้สองวันมานี้แดดจะดี ไม่มีฝนตก แต่พยากรณ์อากาศบริเวณถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จะมีฝนตกลงมาอีก ซึ่งจะยิ่งเป็นปัญหาต่อระดับน้ำในถ้ำ.-สำนักข่าวไทย