ธปท. 4 ก.ค. – ธปท. หวั่นปัญหากีดกันทางการค้ากระทบส่งออกปี 62 อาจโตต่ำกว่าร้อยละ 5 ยอมรับมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะโน้มไปด้านต่ำ ชี้ความจำเป็นที่จะต้องใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายลดลง
นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยรายงานนโยบายการเงิน เดือนมิถุนายน 2561 ว่า นโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐ และการตอบโต้จากประเทศเศรษฐกิจสำคัญ ถือเป็นความเสี่ยงมากที่สุดต่อประมาณการเศรษฐกิจที่จะโน้มไปด้านต่ำมากกว่าที่เคยประเมินไว้ แม้ว่า กนง.จะปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้เป็นขยายตัวร้อยละ 4.4 จากเดิมร้อยละ 4.1 โดยมองว่าแม้ปัญหากีดกันทางการค้าในปัจจุบันยังมีผลกระทบน้อย แต่ผลกระทบจะมากขึ้นในช่วงปลายปีนี้เป็นต้นไป ซึ่งหากปัญหาดังกล่าวรุนแรงขึ้นจนมีผลกระทบต่อปริมาณการค้าโลกชะลอตัวจะมีผลต่อการส่งออกของไทยในปี 2562 อาจจะโตต่ำกว่าที่ประเมินไว้ร้อยละ 5 จากปีนี้ที่คาดว่าโตร้อยละ 9
“สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ หากการส่งออกของจีนถูกกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้า ในฐานะประเทศไทยที่อยู่ในซัพพลายเชน อาจถูกกระทบไปด้วย และหากประเทศที่ถูกกีดกันทางการค้า เข้ามาแย่งตลาดเรา หรือทุ่มตลาด ผู้ส่งออกไทยอาจถูกกระทบได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ประเมินได้ยากมาก” นายจาตุรงค์ กล่าว
นอกจากนี้ความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับนโยบายกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศและความเสี่ยงของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ กระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนและเงินทุนเคลื่อนย้าย โดยนักลงทุนลดการถือสินทรัพย์เสี่ยงในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ รวมถึงไทย ทำให้เงินทุนเคลื่อนย้ายไหลออกมากขึ้น โดยสิ้นไตรมาส 2/61 มีเงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นไทย 5,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลง
นอกจากนี้ กนง.เห็นว่าหากเศรษฐกิจยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มอยู่ในกรอบเป้าหมายได้ชัดเจนขึ้น ความจำเป็นที่จะต้องใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากในระดับปัจจุบันจะเริ่มลดลง และการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสร้างขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคตจะมีความสำคัญมากขึ้น . – สำนักข่าวไทย