fbpx

แนะภาคธุรกิจลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกหวั่นคู่ค้ากีดกัน

นนทบุรี 1 มี.ค.- ผู้อํานวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) แนะภาคธุรกิจลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก รับมือมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศคู่ค้านำมาใช้กีดกันทางการค้ากับไทยได้ ย้ำขั้นตอนดูแลและจัดทำไม่ยากจึงอยากให้ผู้ประกอบการไทยตระหนักให้มากขึ้น


นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อํานวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยหลังลงพื้นที่พบปะผู้ประกอบการว่า ขณะนี้ สนค. อยู่ระหว่างดำเนินโครงการศึกษาแนวทางการปรับตัวเพื่อเตรียมพร้อมต่อมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมของภาคธุรกิจไทย: กรณีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยกระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับการสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย โดยที่ผ่านมา หลายประเทศทั่วโลกเร่งพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ขณะเดียวกันกลับสร้างความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทำให้ทุกประเทศหันมาให้ความสำคัญกับประเด็นการปกป้องคุ้มครองสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก และมีการออกมาตรการต่าง ๆ จนกลายเป็นอุปสรรคและมีผลกีดกันทางการค้า อาทิ สหภาพยุโรปออกมาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (Carbon border Adjustment Mechanism: CBAM) 

ทั้งนี้ จะเห็นว่าหลายประเทศดังกล่าวเริ่มใช้กับสินค้า 7 กลุ่ม คือ เหล็กและเหล็กกล้า อะลูมิเนียม ซีเมนต์ ปุ๋ย ไฟฟ้าไฮโดรเจน และสินค้าปลายน้ำ บางรายการ (เช่น น็อตและสกรูทำจากเหล็ก) รวมถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อม (Indirect Emissions) 


โดยตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.66 กำหนดให้ผู้นำเข้าต้องรายงานข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และจะบังคับใช้มาตรการเต็มรูปแบบในวันที่ 1 ม.ค.69 ที่จะต้องซื้อใบรับรอง CBAM ขณะที่สหรัฐอเมริกามีการเสนอร่างกฎหมาย Clean Competition Act (CCA) เพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเท่าเทียม โดยจะเก็บภาษีนำเข้ากับสินค้าที่มีกระบวนการผลิตที่ส่งผลให้เกิดการปล่อยคาร์บอนในปริมาณสูง มีอุตสาหกรรมเป้าหมาย คือ เชื้อเพลิงฟอสซิล ผลิตภัณฑ์จากการกลั่นปิโตรเลียม ปิโตรเคมี ปุ๋ย ไฮโดรเจน กรดอะดิพิก ซีเมนต์ เหล็กและเหล็กกล้า อะลูมิเนียม กระจก เยื่อกระดาษและกระดาษ และเอทานอล โดยกฎหมายของสหรัฐฯ จะเริ่มบังคับใช้ในปี 67

นอกจากนี้ การที่ไทยจะรักษาความสามารถทางการแข่งขันในตลาดโลกได้นั้น จำเป็นต้องเร่งผลักดันให้ผู้ผลิตและผู้ประกอบการไทยตระหนักว่า “การพัฒนาที่มุ่งเน้นเพียงเรื่องผลกำไร โดยมองข้ามสิ่งแวดล้อมนั้น ไม่เพียงพอต่อการค้าและการแข่งขันในโลกปัจจุบัน” สนค. เล็งเห็นถึงความสำคัญของประเด็นดังกล่าว จึงได้ดำเนินโครงการศึกษาแนวทางการปรับตัวเพื่อเตรียมพร้อมต่อมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมของภาคธุรกิจไทย: กรณีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยจะจัดทำเป็นรายงานสรุปผลการศึกษาและข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการกำหนดนโยบาย รวมทั้งเป็นการให้ความรู้กับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs ให้สามารถเตรียมพร้อมรับมือกับมาตรการของประเทศคู่ค้าได้อย่างทันท่วงที

อย่างไรก็ตาม โดยเมื่อวันที่ 20 – 22 ก.พ.66 ที่ผ่านมา ทาง สนค. พร้อมด้วยข้าราชการ สนค. และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงราย ได้ลงพื้นที่ ณ จังหวัดเชียงราย เพื่อเก็บข้อมูลและระดมความคิดเห็นจากหน่วยงานและผู้ประกอบการที่มีการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่ (1) หอการค้าจังหวัดเชียงราย (2) บริษัทเดอะคอฟฟี่ แฟ๊คทอรี่ จำกัด (3) บริษัท สุวิรุฬห์ชาไทย จำกัด (4) โรงงานหลวงดอยคำ อำเภอแม่จัน (โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่2) (5) โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ (6) โรงแรม เดอะ ริเวอร์รี บาย กะตะธานีและ (7) วิสาหกิจชุมชนแปรรูปสมุนไพรแทนคุณ จากการลงพื้นที่พบว่าหน่วยงานและผู้ประกอบการดังกล่าว มีศักยภาพสามารถปรับตัวเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจการค้าโดยได้มีการดำเนินการ อาทิการขอรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint of Product หรือ CFP) การขอรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร (Carbon Footprint for Organization หรือ CFO) การเข้าร่วมโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme: LESS) และการใช้พลังงานสะอาดในกระบวนการผลิต 


ทั้งนี้ การจัดทำข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จะต้องมีการเก็บข้อมูลกิจกรรมการดำเนินธุรกิจตลอดห่วงโซ่ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้ก๊าซเรือนกระจก ซึ่งผู้ประกอบการ SMEs ที่อยู่ในห่วงโซ่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทขนาดใหญ่จะมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง ดังนั้น ผู้ประกอบการทุกระดับต้องหันมาให้ความสำคัญกับการเก็บข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยสามารถเริ่มต้นง่าย ๆ ตั้งแต่การเก็บข้อมูลค่าน้ำ ค่าไฟ การใช้น้ำมัน และปริมาณวัตถุดิบ เป็นต้น เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้เป็นพื้นฐานในการพิจารณาว่าขั้นตอนใดของกระบวนการผลิตที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาก ซึ่งจะนำไปสู่การบริหารจัดการการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างตรงจุดต่อไป และพบว่ายังมีปัญหาสำคัญในเรื่องการสร้างความตระหนักให้ผู้บริโภคหันมาเลือกซื้อสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อีกทั้งผู้ประกอบการส่วนใหญ่อาจเห็นว่ายังเป็นเรื่องไกลตัว ซึ่งภาครัฐต้องสร้างความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการถึงประโยชน์ของการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ช่วยลดต้นทุนการทำธุรกิจในระยะยาว ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าและบริการ และในการทำธุรกิจการค้ากับประเทศพัฒนาแล้วจะต้องให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ร่างศึกษา พ.ร.บ.นิรโทษฯ เข้าสภา 26 ก.ย.นี้

“นิกร” เผยร่างศึกษา พ.ร.บ.นิรโทษฯ เข้าสภา 26 ก.ย.นี้ ชง ครม. เป็นเจ้าภาพ ยกร่าง-เคาะปม ม.112 จะรวมหรือไม่ หวั่นคําวินิจฉัยศาลฟันก้าวไกล พ่นพิษ

คนร้ายฆ่าสาวโบลท์ เครียด ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ

เครียด! “ไอ้แม็ก” มือฆ่าชิงทรัพย์สาวโบลท์ ใช้หัวโขกลูกกรง สน.มีนบุรี จนตำรวจต้องเข้าระงับเหตุ ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ ล่าสุดคุมตัวไปฝากขังแล้ว