กรุงเทพฯ 2 ก.ค. – กระทรวงพลังงานเปิดตัวโครงการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 20 ย้ำรถบรรทุกเก่าใช้ได้ทุกยี่ห้อ และใช้มาร์กเกอร์เติมสี โดยบี 20 สีแดงแตกต่างจากบี 7 สีเขียว เตือนผู้ใช้น้ำมันระมัดระวังดูสีก่อนซื้อ
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานเปิดตัวขายบี 20 โดยยืนยัน ว่า กรมธุรกิจพลังงานร่วมทดสอบกับรถบรรทุกเก่าปรับสภาพทุกทั้ง ฮีโน่ อีซูซุ วอลโว เป็นระยะทาง 100,000 กิโลเมตรใช้ได้ไม่มีปัญหา ซึ่งรถที่ใช้พบว่าไม่มีผลกระทบต่อเครื่องยนต์และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงไม่แตกต่างกับการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วปกติ นอกจากนี้ ยังทำให้ระบบการเผาไหม้ของเครื่องยนต์สะอาดยิ่งขึ้น เป็นการช่วยลดมลภาวะและส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย แต่ทั้งนี้ต้องเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่น พร้อมทั้งเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นเร็วขึ้นกว่าปกติ
“รถบรรทุกที่เข้าร่วมโครงการต้องดูแลรักษาเครื่องยนต์ของตนเองได้ เปลี่ยนไส้กรองหลักร้อยบาทก็ใช้ได้ ส่วนรถยนต์ส่วนบุคคล รถปิกอัพ รถบรรทุกขนาดเล็ก ไม่มีผลการทดสอบที่แน่ชัด กระทรวงพลังงานจึงยังไม่แนะนำให้ใช้” รมว.พลังงาน กล่าว
สำหรับบี 20 จะจำหน่ายในจุดจอดหรือฟลีทรถบรรทุกไม่ได้ขายในปั๊มน้ำมันทั่วไปขายราคาต่ำกว่าบี 7 อัตรา 3 บาท/ลิตร ใช้กับรถเฉพาะกลุ่ม เช่น กลุ่มรถบรรทุกขนส่งสินค้า รถโดยสาร เรือโดยสาร มีเป้าหมายจำหน่ายบี 20 ที่ 15 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มดิบได้มากขึ้น จากเดิม 1.3 ล้านตันต่อปี เป็น 2 ล้านตันต่อปี โดยมาร์กเกอร์ที่ใช้บี 20 จะมีสีแดง แตกต่างจากบี 7 ที่มีสีเขียว ดังนั้น ผู้ใช้บี 7 ก่อนซื้อน้ำมันก็ต้องสังเกตสี ป้องกันการนำบี 20 มาขายเป็นบี 7 เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค
โครงการบี 20 ทางกระทรวงพลังงานดำเนินการการ เพื่อร่วมแก้ไขสถานการณ์น้ำมันปาล์มดิบล้นตลาดและราคาตกต่ำและลดค่าใช้จ่ายในส่วนของน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นผลให้ลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและค่าโดยสาร ช่วยลดผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน ในเบื้องต้นมีผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 จำนวน 5 ราย ได้แก่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก บางจาก ไออาร์พีซี ซัสโก้ และบริษัท ซัสโก้ดีลเลอร์ ได้แจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการเพื่อจำหน่ายน้ำมันบี 20 ให้กับผู้ประกอบการ fleet รถบรรทุก จำนวน 24 ราย และเรือด่วน อีก 1 ราย. -สำนักข่าวไทย