สำนักข่าวไทย 2ก.ค.-ผอ.ศูนย์คนไร้ที่พึ่งฯสมุทรปราการ ติดใจทนายอ้าง อดีตปลัด พม.ดื่มยาพิษเพราะน้อยใจผู้ใหญ่คนหนึ่ง อาจเป็นการเบี่ยงประเด็น ด้านนักวิชาการ ชี้การตายมีเงื่อนงำควรอายัดศพ
จากกรณีการเสียชีวิตของนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่ดื่มยาพิษผสมไวน์ พร้อม น.ส.วาสนา ตะเภาพงษ์ สาวคนสนิท ภายในห้องนอนหมู่บ้านย่านปทุมธานี แต่น.ส.วาสนา รอดชีวิตและในเวลาต่อมาทนายของนายพุฒิพัฒน์ ได้ออกมาชี้แจงถึงสาเหตุการณ์การเสียชีวิตว่าไม่ได้หนีคดี แต่เกิดจากการน้อยใจผู้ใหญ่บางคนที่ขอเข้าชี้แจงแต่ไม่ตอบรับ พร้อมอ้างว่าอดีตปลัดพูดว่า “ผมได้สั่งให้เขาหยุดแล้ว แต่ไม่ฟังผม ผมไว้ใจคนผิด”
นางฐณิฎฐา จันทนฤกษ์ ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสมุทรปราการ ที่เคยร้องเรียนให้มีการตรวจสอบการทุจริตเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งก่อนหน้านี้ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทย ว่าการกล่าวอ้างของทนายอดีตปลัด พม.ที่บอกว่าการดื่มยาพิษเป็นเพราะน้อยใจผู้ใหญ่บางคน เนื่องจากขอเข้าพบเพื่อชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกระทรวงฯ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์แต่ไม่มีการตอบรับใดนั้น เป็นการเบี่ยงเบนประเด็นและยัดเยียดความรู้สึกผิดให้กับผู้ใหญ่คนดังกล่าว ซึ่งไม่ขอระบุว่าเป็นใคร แต่เป็นคนที่ตำแหน่งใหญ่กว่าและสามารถให้คุณให้โทษกับอดีตปลัดได้ ซึ่งตนมองว่าการไม่ให้เข้าพบนั้น เป็นสิ่งที่เหมาะสม ทำถูกต้องแล้ว เพราะหากให้ปลัดฯ เข้าพบเพื่อชี้แจง ข้าราชการที่เอี่ยวกับการทุจริตกว่า 200 คนต้องได้เข้าพบด้วย ซึ่งผู้ใหญ่คนดังกล่าวอาจถูกมองไม่ดีและสร้างความเสียหายแก่ท่านได้ อีกทั้งเรื่องนี้มีคณะกรรมการสอบทางวินัย ที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบโดยเฉพาะ และเปิดโอกาสให้อดีตปลัดและผู้ที่เกี่ยวข้อง ชี้แจงข้อเท็จจริงอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเข้าชี้แจงกับผู้ใหญ่เป็นการส่วนตัว
ส่วนประเด็นที่ทนายอดีตปลัดกล่าวอ้างว่า อดีตปลัดเคยห้ามคนบางคนให้หยุด แต่ไม่หยุดและพลาดที่ไว้ใจคนผิดนั้น ควรออกมาระบุว่าหมายถึงใคร ไม่ควรกล่าวอ้างลอยๆ แบบนี้ แต่ถ้าหากไม่ทราบว่าเป็นใคร น.ส.วาสนา ตะเภาพงษ์ หญิงคนสนิทก็อาจจะตอบได้ เพื่อให้เกิดความกระจ่าง
ด้าน ผศ.วิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ รองประธานอนุกรรมการปราบปรามคอร์รัปชันของสภาปฏิรูปแห่งชาติและอดีตอาจารย์อาชญาจิตวิทยา คณะจิตวิทยา มหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดเผยว่า การเสียชีวิตของอดีตปลัดมีเงื่อนงำ ทั้งเวลาของการดื่มยาพิษ เพราะจากผลชันสูตรพบว่า อดีตปลัด พม.เสียชีวิตเวลาเที่ยงคื่นครึ่ง แสดงว่าต้องดื่มยาในเวลาเที่ยงคืน ซึ่งกว่าจะมีคนเข้ามาพบก็ล่วงเลยมากว่า 8 ชั่วโมง แต่ทำไม น.ส.วาสนาถึงยังรอด ทั้งที่ดื่มไวน์ไปหมดแก้ว ขณะที่อดีตปลัดฯ ดื่มไปครึ่งแก้ว และเพราะหากดื่มพร้อมกันคงเสียชีวิตไปแล้ว จากจดหมายลาตาย ต้องเขียนก่อนดื่ม แต่ทำไมยาพิษของสาวคนสนิทถึงออกฤทธิ์ช้า
อีกทั้งจากภาพถ่ายลักษณะการเสียชีวิตเหมือนคนนอนหลับปกติ ห่มผ้าเรียบร้อย ซึ่งผิดวิสัยของคนดื่มยาพิษที่เฮือกสุดท้ายของลมหายใจจะต้อง มีอาการดิ้นทุรนทุราย น้ำลายฟูมปาก ก่อนสิ้นใจ ทั้งคดีนี้เป็นคดีใหญ่ เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์รัฐบาล ทรัพย์สมบัติของชาติบ้านเมืองเป็นร้อยๆ ล้านแต่ทำไมเจ้าหน้าที่เร่งรัดคดี อีกทั้งยังนำศพมาประกอบพิธีและจะเผาวันนี้(2 ก.ค.)ตามที่จดหมายลาตายกำหนด
ผศ.วิวัฒน์ชัย กล่าวต่อว่า เพื่อให้การตรวจสอบมีความกระจ่าง โปร่งใส ตำรวจควรอายัดศพ ตรวจสอบอย่างละเอียด รวมถึงสอบปากคำหญิงสาวคนสนิทด้วยว่า ลักษณะการดื่มยาพิษจนนำมาสู่การเสียชีวิตเป็นอย่างไร ใครดื่มก่อนดื่มหลัง ทำไมคนขับรถถึงเข้ามาดูในช่วงเช้า เป็นการเตรียมการไว้ก่อนของใครบางคนหรือไม่ ส่วนตัวเชื่อว่า ต้องมีคนบงการอยู่เบื้องหลังแน่นอนเพราะหากอดีตปลัดฯมีชีวิตอยู่ต้องรับสารภาพ ทรัพย์สินที่เอี่ยวกับการทุจริตจะต้องถูกยึดเป็นของแผ่นดินทั้งหมด .-สำนักข่าวไทย