กรุงเทพฯ 23 ก.ย. – สถาบันการก่อสร้างไทยสร้างมาตรฐานผลิตภัณฑ์งานก่อสร้างแนะนำสำหรับผู้สูงอายุและคนพิการ
สถาบันการก่อสร้างแห่งประเทศไทย มอบ “เครื่องหมายผลิตภัณฑ์งานก่อสร้าง แนะนำสำหรับผู้สูงอายุและคนพิการ” ให้ผู้ประกอบการที่ได้รับตราสัญลักษณ์ จำนวน 3 บริษัท รวมสินค้า 14 รายการสินค้า ที่จะนำออกมาจำหน่ายในท้องตลาด เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้สูงอายุและคนพิการ ตลอดจนผู้ดูแลผู้สูงอายุและคนพิการ โดยมีนายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นผู้มอบ สำหรับบริษัทที่ได้รับเครื่องหมาย ได้แก่ บริษัท สยามซานิทารีแวร์อินดัสทรี จำกัด บริษัท สยามซานิทารีฟิตติ้งส์ จำกัด และบริษัท วชิรธร จำกัด
ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ประเทศไทยและทั่วโลกนับจากนี้ จำนวนผู้สูงวัยมีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นโดยประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 จะเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจสีดอกเลาหรือ Silver Economy ซึ่งเกิดขึ้นจากการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และวิทยาการทางการแพทย์มีความก้าวหน้ามากขึ้น ส่งผลให้ประชากรมีช่วงอายุที่ยืนยาว จนเข้าสู่ภาวะผู้สูงวัย จึงเป็นตลาดที่น่าจับตามองและเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง ทำให้มีช่องว่างในการทำตลาดผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดังกล่าวอีกมากในอนาคต
ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้สูงอายุประมาณ 10 ล้านคน และยังมีคนพิการมากกว่า 1.9 ล้านคน และผู้สูงอายุกำลังมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจากวิทยาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้ามากขึ้น ประเมินว่า ในช่วง 30 ปีนับจากนี้ไป ประเทศไทย อาจจะมีจำนวนประชากรที่มีอายุเกิน 65 ปี มากกว่าประชากรที่มีอายุต่ำกว่า 14 ปี สถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้มูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อผู้สูงอายุและคนพิการ ที่ปัจจุบันมีมูลค่าการลงทุนเพื่อการก่อสร้างเพื่อผู้สูงอายุ 9,500 ล้านบาท หรือเท่ากับ 950 บาท/ผู้สูงอายุ 1 คน ในขณะที่มูลค่าการลงทุนเพื่อการก่อสร้างของประเทศไทยในปีเดียวกันมีมูลค่ามากกว่า 1.16 ล้านล้านบาท หรือมากกว่า 17,000 บาทต่อประชากรไทย 1 คน ดังนั้นจึงคาดว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า มูลค่าการลงทุนเพื่อการก่อสร้างเพื่อผู้สูงอายุจะมีการขยายตัวประมาณ 10 เท่าหรือประมาณ 100,000 ล้านบาท
ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า รายงานของ Bank of America Merrill Lynch ระบุว่าในปัจจุบันทั่วโลกมีผู้สูงอายุประมาณ 900 ล้านคน และจะเพิ่มเป็น 2.1 พันล้านคนในปี พ.ศ.2593 และเศรษฐกิจสีดอกเลา (Silver Economy) ที่ในปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 7 ล้านล้าน ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 245 ล้านล้านบาท จะเพิ่มเป็น 15 ล้านล้าน ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 525 ล้านล้านบาท ใน ปี พ.ศ.2563 ประเทศที่มีสัดส่วนของผู้สูงอายุจำนวนมาก ได้แก่ ประเทศในกลุ่มยุโรป ประเทศญี่ปุ่น ประเทศไต้หวัน ประเทศเกาหลีใต้ และประเทศไทย
นายจักรพร อุ่นจิตต์ ผู้อำนวยการสถาบันการก่อสร้างแห่งประเทศไทยกล่าวว่า สถาบันฯได้จัดทำรายการผลิตภัณฑ์แนะนำเพื่อผู้สูงอายุและคนพิการ โดยเกณฑ์ในการพิจารณามาจากผลการศึกษาผู้สูงอายุและคนพิการในประเทศ เกณฑ์การพิจารณาผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุและคนพิการของต่างประเทศ และร่างมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสำหรับผู้สูงอายุและคนพิการ ของ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (สมอ.อก.) ทั้งนี้เพื่อรองรับความต้องการของตลาดในกลุ่มผู้สูงวัยและผู้พิการทั้งในและต่างประเทศที่คาดว่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศจากการเข้าสู่สังคมสูงวัย และเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคและสังคม โดยเฉพาะผู้สูงอายุและคนพิการและผู้ดูแลผู้สูงอายุและคนพิการ
โดยในเบื้องต้นได้กำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาแล้วเสร็จใน 7 รายการ ได้แก่ อ่างล้างหน้า-ล้างมือ โถส้วมนั่งราบ ชุดหัวฉีดชะล้าง ก๊อกน้ำสำหรับอ่างล้างหน้า-ล้างมือ กุญแจลูกบิด ราวจับกันลื่น และสีอีพ็อกซี่กันลื่น และในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทางสถาบันการก่อสร้างฯ ได้เริ่มรับคำขอเข้าร่วมและขอแสดงเครื่องหมายรายการผลิตภัณฑ์งานก่อสร้าง แนะนำสำหรับผู้สูงอายุและคนพิกา ปัจจุบัน สถาบันก่อสร้าง ยังมีบริษัทเอกชนอีกหลายรายสนใจยื่นคำขอรับเครื่องหมายจากสถาบันการก่อสร้างฯ เพื่อนำไปติดบนผลิตภัณฑ์และจำหน่ายในท้องตลาด
นอกจากนี้ ในการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางงานก่อสร้าง กระทรวงการคลัง ในเดือนกรกฎาคม สถาบันการก่อสร้างฯในฐานะอนุกรรมการฯได้เสนอให้เพิ่มรายการ “ผลิตภัณฑ์งานก่อสร้างเพื่อผู้สูงอายุและคนพิการ” บรรจุในรายการราคากลางงานก่อสร้างของภาครัฐ โดยอ้างอิงจากผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเพื่อผู้สูงอายุและคนพิการของ สมอ.อก. และ/หรือ ผลิตภัณฑ์ในรายการผลิตภัณฑ์งานก่อสร้าง แนะนำเพื่อผู้สูงอายุและคนพิการ ของสถาบันการก่อสร้างแห่งประเทศไทย กระทรวงอุตสาหกรรม
นายจักรพร กล่าวอีกว่าสถาบันการก่อสร้างฯยังได้ให้การแนะนำแก่ผู้ประกอบการในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆสำหรับผู้สูงอายุและคนพิการ และยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆในการออกไปให้ความรู้และคำแนะนำในเรื่องของงานก่อสร้างสำหรับผู้สูงอายุและคนพิการ-สำนักข่าวไทย