พรรคประชาธิปัตย์ 26 มิ.ย.-อภิสิทธิ์ชี้ช่วงเวลานี้เหมาะปลดล็อคให้พรรคการเมืองหาสมาชิก ตั้งสาขาพรรค ไม่จำเป็นต้องรอกม.ลูกเลือกตั้งส.ส.บังคับใช้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลการหารือระหว่างตัวแทนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รัฐบาล กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)และพรรคการเมือง วานนี้(25 มิ.ย.) ว่า ได้รับรายงานจากตัวแทนพรรคที่ไปร่วมประชุมแล้ว และเห็นว่ายังไม่ชัดเจนในรายละเอียดว่าจะปลดล็อคได้เมื่อใดและอย่างไร เพียงแต่ให้ยึดกรอบเวลาในช่วงที่สอง ซึ่งงานที่พรรคการเมืองต้องปฏิบัติตามกฎหมายพรรคการเมือง เช่นการหาสมาชิก การจัดตั้งสาขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับกฎหมายเลือกตั้งเลย จึงมองไม่เห็นความจำเป็นว่าเหตุใดต้องนำประเด็นปัญหาการดำเนินการตามพรรคการเมืองไปผูกกับการใช้กฎหมายเลือกตั้ง
“หากสามารถปลดล็อคบางส่วนเพื่อให้สามารถดำเนินการตามกฎหมายพรรคการเมืองได้จะเป็นผลดีที่จะทำให้พรรคการเมืองสามารถปรับโครงสร้าง ปฏิรูปพรรคได้เสร็จก่อนเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง และการปล่อยให้ทำกิจกรรมดังกล่าวในช่วงนี้ ซึ่งเป็นช่วงการเตรียมการเกี่ยวกับพระราชพิธีจะได้ไม่มีผลกระทบในช่วงที่มีพระราชพิธี เพราะผมเชื่อว่าในช่วงพระราชพิธีคงไม่มีพรรคการเมืองอยากทำกิจกรรมทางการเมือง ดังนั้น ควรเปิดให้พรรคการเมืองดำเนินการตามกฎหมายพรรคการเมืองให้เสร็จในช่วงนี้ และสิ่งที่จะทำขณะนี้ไม่ได้เกี่ยวกับกฎหมายที่กำลังทูลเกล้าฯ หรือที่จะประกาศใช้ต่อไป ถ้ายังไม่สบายใจเรื่องความมั่นคงก็ว่ามา แต่ไม่เข้าใจตรรกะว่าทำไมการทำตามกฎหมายพรรคการเมือง ต้องรอให้กฎหมายเลือกตั้งประกาศใช้ คนละส่วนกัน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ส่วนข้อเสนอจากฝ่ายการเมืองที่มีหลายแนวทาง เรื่องการทำไพรมารีโหวต นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับคสช.และรัฐบาลจะตัดสินใจ เพราะเงื่อนไขที่เกิดขึ้นมาจากแนวความคิดของคสช.และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เพื่อให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมกับพรรคการเมือง แต่เมื่อติดปัญหาอุปสรรคจากคำสั่งคสช. จะต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร หากไม่ใช้รูปแบบนี้ต้องหารูปแบบใหม่ว่าจะให้สมาชิกมีส่วนร่วมในการเลือกผู้สมัครอย่างไร ซึ่งในส่วนของพรรคพร้อมปฏิบัติตาม
“สิ่งสำคัญคือหากให้พรรคการเมืองสามารถหาสมาชิกพรรคไว้ได้มากจะได้ทำให้เกิดการมีส่วนร่วม และทำให้กรรมการบริหารไม่สามารถครอบงำพรรคการเมืองได้ แต่ปัญหาคือจะทำไพรมารีโหวตทำไม หากมีสมาชิกเพียง 100 คน องค์ประชุม 50 คน คนชนะได้ 27คะแนน จะเป็นการสะท้อนการมีส่วนร่วมหรือไม่ ดังนั้น ควรดูเจตนารมณ์มากกว่าที่จะทำเพียงเพื่อให้ครบตามกฎหมายหรือเป็นเพียงแค่พิธีกรรม” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว .- สำนักข่าวไทย
