ผบ.ตร.สั่ง ตร.ท่ีเกี่ยวข้องบูรณษการช่วยเหลือผู้ติดในถ้ำ”ขุนน้ำนางนอน”เต็มท่ี

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- ผบ.ตร.สั่งตำรวจที่เกี่ยวข้องบูรณาการกำลังกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ค้นหาผู้สูญหายในถ้ำ “วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำ นางนอน” ขณะที่หน่วยซีล กองทัพเรือ เจาะทะลุผนังกั้นเข้าไปอีกฝั่งซึ่งเป็นจุดโถงใหญ่ที่คาดว่าผู้ประสบเหตุน่าจะไปพักอยู่จุดนี้แต่ยังไม่พบผู้ใด


พ.ต.อ.กฤษณะ  พัฒนเจริญ  รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการค้นหาผู้สูญหาย ที่เข้าไปภายในถ้ำ  วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำ นางนอน ต.โปร่งผา อ.แม่สาย จ.เชียยงราย เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2561 ว่า เวลาประมาณ00.10 น.ทีมค้นหาของทหารและ ตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.) จำนวน 10 นาย เข้าไปในถ้ำเพื่อค้นหา ต่อมาเมื่อเวลา 00.40 น.ทีมค้นหาของ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) จำนวน 3 นาย เข้าไปสบทบในถ้ำ เพื่อค้นหาและช่วยเหลือผู้ที่สูญหาย

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 01.20 น. พ.อ.มีชัย นิลศาสตร์ รอง ผบ.ฉกม.3 กล.ผาเมืองและ นาวาเอก วุฒิชัย ภู่เจริญยศ หน.นรข.เขตเชียงราย รับฟังรายงานสถานการณ์จากทีมกู้ภัยที่ใด้ไปตรวจสอบภายในถ้ำมา  โดยได้นัดหมายให้ทุกหน่วยร่วมประชุม ในเวลา02.00 น.โดยจะมีการวางแผนส่งกำลังหน่วยชิลเข้าไปค้นหาจำนวน 1ชุดพร้อมกับทีมกู้ภัยชึ่งได้เข้าไปก่อนหน้านี้


จนเมื่อ เวลาประมาณ 02.45น.หน่วยชิล ซึ่งมีนาวาเอก อนันต์ สุราวรรณ ผบ.กรมรบพิเศษที่1 เป็นหัวหน้าทีมพร้อมกำลัง 18 นาย เดินทางมาถึงถ้ำหลวง และได้ร่วมรับฟังสถานการณ์จากฝ่ายต่างๆทันที จากนั้นได้วางแผนจัดส่งกำลัง เป็น 4 ชุดๆละ4 คน โดยทีมงานชุดแรกกำลังเตรียมตัวลงไปหาข้อมูลพร้อมกับทีมกู้ภัยที่ลงไปก่อนหน้านี้

หลังจากนั้นได้นัดหมาย หน่วยซีล กองทัพเรือ ทั้ง 18 นายในเวลา 06.00 น. เข้าไปค้นหาผู้สูญหาย และ เมื่อเวลา 08.30 น. ได้รับแจ้งว่าหน่วยซีล กองทัพเรือ ทำการเจาะทะลุผนังกั้นเข้าไปอีกฝั่งซึ่งเป็นจุดโถงใหญ่ที่คาดว่าผู้ประสบเหตุน่าจะไปพักอยู่จุดนี้แต่ยังไม่พบผู้ใดจะได้ดำเนินการเข้าไปสำรวจพื้นที่ด้านในต่อไป

รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า ภารกิจในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น ทหารบก ทหารเรือ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กรมอุทยาน ทีมกู้ภัย ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ระดมกำลังความสามารถอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาและช่วยเหลือผู้สูญหายทั้ง 13 คน โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์  ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีความเป็นห่วงเป็นใยผู้สูญหายทั้ง 13 คนเป็นอย่างมาก กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องบูรณาการกำลังกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ และเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จสามารถช่วยเหลือผู้สูญหายทั้งหมดได้อย่างปลอดภัยทุกคน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”