รัฐสภา 22 มิ.ย.-กรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจฯ กำหนดเกณฑ์คะแนนประเมิน ตร.ทุกคน ให้สำนักงานสถิติแห่งชาติสำรวจความพึงพอใจประชาชนใน 4 มิติ
นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการทำงานของกรรมการฯ ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า ได้พิจารณาลงรายละเอียดเรื่องหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจทุกระดับทุกสายงาน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด ซึ่งหนึ่งในประเด็นสำคัญ คือ ให้นายตำรวจทุกคนมีคะแนนการประเมินประจำตัวและจัดเรียงลำดับไว้ ซึ่งในส่วนของการแต่งตั้งโยกย้ายทุกระดับ ตั้งแต่ระดับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติลงมา นอกเหนือจากเกณฑ์เฉพาะต่าง ๆ ของแต่ละระดับและแต่ละสายงานแล้ว จะต้องอยู่ภายใต้เกณฑ์การประเมิน 100 คะแนน คือ ความอาวุโสในการดำรงตำแหน่ง มีคะแนนเต็ม 60 คะแนน โดยให้ผู้ดำรงตำแหน่งนานที่สุดเป็นผู้มีอาวุโสสูงสุด ได้รับคะแนนเต็ม 60 คะแนน ผู้ดำรงตำแหน่งนานในลำดับถัดลงไปให้ได้รับคะแนนลดลงปีละ 6 คะแนน ในกรณีที่ดำรงตำแหน่งนานเท่ากัน ให้ได้รับคะแนนเท่ากัน แต่ผู้ใดอยู่ในเขตมลทิน เช่น อยู่ในระหว่างการถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง จะไม่ได้รับการพิจารณา และผู้ใดทำผิด แต่โทษไม่ถึงกับออกจากราชการ ให้หักระยะเวลาที่ถูกสอบสวนออกจากอาวุโส ในทางตรงกันข้าม ถ้าสอบสวนแล้วไม่ผิด ให้นับเวลาตลอดช่วงที่ถูกสอบสวนไว้ในอาวุโสด้วย นอกจากนี้เรื่องความรู้ความสามารถที่มีผลต่อการปฏิบัติงาน มีคะแนนเต็ม 20 คะแนน โดยให้ประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) กำหนด และความพึงพอใจในบริการที่ประชาชนได้รับ มีคะแนนเต็ม 20 คะแนน
นายคำนูณ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมได้ใช้เวลาถกเถียง เพราะต้องการให้ผู้ถูกประเมิน ได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด และกำหนดว่าหน่วยงานใดเป็นผู้ประเมิน ซึ่งการพิจารณาสรุป ให้มีการประเมินความพึงพอใจจากสถานีตำรวจ กองกำกับการ หรือหน่วยงานอื่นที่เทียบเท่า และเมื่อหน่วยงานได้รับคะแนนความพึงพอใจเป็นจำนวนเท่าใด ให้ถือว่าผู้ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานนั้นได้รับคะแนนเท่ากัน รวมถึงคะแนนความพึงพอใจของหน่วยงานในระดับกองบังคับการใด ให้ถือเอาคะแนนความพึงพอใจของทุกสถานีตำรวจ กองกำกับการ หรือหน่วยงานเทียบเท่าที่อยู่ในสังกัด มาเฉลี่ย ได้จำนวนเท่าใดให้ถือเป็นคะแนนความพึงพอใจของกองบังคับการนั้น และให้ถือว่าผู้ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในกองบังคับการนั้นได้รับคะแนนนั้นเท่ากัน และคะแนนความพึงพอใจของหน่วยงานในระดับกองบัญชาการใด ให้ถือเอาคะแนนความพึงพอใจของทุกกองบังคับการที่อยู่ในสังกัด มาเฉลี่ย ได้จำนวนเท่าใดให้ถือเป็นคะแนนความพึงพอใจของกองบัญชาการนั้น และให้ถือว่าผู้ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในกองบัญชาการนั้นได้รับคะแนนนั้นเท่ากัน
นายคำนูณ กล่าวอีกว่า ในการประเมินความพึงพอใจฯ ข้างต้น ให้สำนักงานสถิติแห่งชาติเป็นผู้สำรวจความคิดเห็นประชาชน โดยอย่างน้อยต้องครอบคลุมมิติต่าง ๆ ทั้งเรื่องความมีประสิทธิภาพ ความเป็นธรรม การไม่เลือกปฏิบัติ ความสะดวกในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ตร.กำหนด และเมื่อมีผลการสำรวจเป็นประการใด ให้ประกาศให้ประชาชนและแจ้งให้หน่วยงานที่ถูกประเมินทราบด้วย ซึ่งหากข้าราชการตำรวจผู้ใดเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการเรียงลำดับอาวุโส หรือในการแต่งตั้ง ให้มีสิทธิร้องทุกข์ได้.-สำนักข่าวไทย