สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 18 มิ.ย.- อพช.ร้องผู้ตรวจฯ ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย มาตรา 29 -30 ของ พ.ร.บ.สงฆ์ ขัดหรือแย้งรัฐธรรมนูญหรือไม่ พร้อมเตรียมยื่นแก้ไขกฎหมายพระต่อไป
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เวลา 14.30 น. องค์กรพิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งชาติ (อพช.) นำโดยพระมหาทนงค์ วิสุทฺธสีโล เลขานุการ อพช. พร้อมคณะสงฆ์ เดินทางมายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายประจักษ์ธรรม โรจนะภิรมย์ เจ้าหน้าที่สอบสวนอาวุโส เพื่อร้องเรียนขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน เสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 มาตรา 29 ว่าด้วยพนักงานสอบสวนมีอำนาจดำเนินการให้พระภิกษุสงฆ์สละสมณเพศได้ ถ้าพระภิกษุรูปดังกล่าวถูกจับโดยต้องหาว่ากระทำความผิดอาญา และไม่เห็นสมควรให้ปล่อยตัวชั่วคราว และมาตรา 30 ว่าด้วยให้พนักงานผู้มีอำนาจหน้าที่ปฏิบัติการให้มีอำนาจดำเนินการให้พระภิกษุที่ต้องจำคุกตามคำพิพากษาสละสมณเพศเสียได้ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่
ซึ่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 29 ระบุว่าในคดีอาญาให้สันนิษฐานไว้ก่อน ว่าผู้ต้องหา หรือจำเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดจะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำผิดไม่ได้ รวมถึงการควบคุมหรือคุมขัง ให้กระทำได้เท่าที่จำเป็นเพื่อป้องกันไม่ให้มีการหลบหนี และนอกจากนี้ในมาตรา 27 ระบุไว้ว่า ทุกคนจะต้องได้รับสิทธิและเสรีภาพความคุ้มครองอย่างเท่าเทียม และไม่มีการเลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะแตกแต่งเรื่องเพศ ชาติ ความเชื่อเรื่องศาสนา หรือความคิดเห็นด้านการเมืองที่ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
“ขั้นตอนหลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว หากเห็นว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ทาง อพช. จะดำเนินการขอคุ้มครองตัวชั่วคราวในเรื่องของกฎหมายคณะสงฆ์ ก่อนจะเตรียมยื่นเรื่องเพื่อขอแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ต่อไป โดยการเดินทางมายื่นเรื่องในครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับการดำเนินคดี กับพระภิกษุสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ ก่อนหน้านี้ แต่เป็นการศึกษาจากการดำเนินคดีกับพระภิกษุสงฆ์ในหลายๆ กรณีที่ผ่านมา พร้อมยืนยันไม่ได้เป็นการเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง” พระมหาทนงค์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าที่กลุ่มพระภิกษุของ อพช. เดินทางมายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้เดินทางไปยื่นหนังสือที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ทาง อพช. ยื่นเรื่องไปที่ผู้ตรวจการแผ่นดินก่อน เพื่อให้ผู้ตรวจพิจารณาก่อนที่จะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้วินิจฉัยต่อไป.-สำนักข่าวไทย