สบน.เตรียมนำระบบบล็อกเชนซื้อขายพันธบัตร

คลัง 18 มิ.ย. – 48 ประเทศเอเชียแปซิฟิกกำหนดกลยุทธ์บริหารหนี้รับการเปลี่ยนแปลง สบน. เตรียมนำระบบบล็อกเชนซื้อขายพันธบัตรรัฐบาล


สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ร่วมกับธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) จัดการประชุมนานาชาติ “2018 Asian Regional Public Debt Management Forum” ระหว่างวันที่ 13 – 15 มิถุนายน 2561  จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายใต้แนวคิด “Prudent Debt Management for Sustainable Growth in the age of Digital Transformation”  โดยผู้แทน 48 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สบน. ธนาคารกลาง องค์กรระหว่างประเทศ และสถาบันการเงินระหว่างประเทศ ประมาณ 200 คน  ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ระหว่างกันในการบริหารหนี้สาธารณะ ตลอดจนเตรียมความพร้อมในการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนด้านการเงินและการคลังของประเทศและรองรับการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วของเทคโนโลยีในปัจจุบัน 


ทั้งนี้ ผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ เห็นพ้องร่วมกันว่าการบริหารหนี้สาธารณะในอนาคตภายใต้การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีมีความสำคัญและจำเป็นต้องกำหนดกลยุทธ์ในการบริหารหนี้ เพื่อรองรับต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว  เช่น แนวทางการระดมทุน แนวทางการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ ตลอดจนพัฒนาเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมได้เสนอแนวคิดหลากหลาย และเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ประเทศในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นสมาชิกเอดีบีขับเคลื่อนกลยุทธ์เพื่อรองรับการบริหารหนี้ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ สบน.ให้ความสำคัญทั้งเนื้อหาทางวิชาการและการส่งเสริมเศรษฐกิจภูมิภาคในทุกด้าน อาทิ การคัดสรรของที่ระลึกจากผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นสำหรับผู้เข้าร่วมการประชุม และการเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ซึ่งได้รับการสนับสนุนร่วมแรงร่วมใจอย่างดียิ่งจากส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในอำเภอเกาะสมุย ส่งผลให้ผู้เข้าร่วมการประชุมต่างรู้สึกอบอุ่นจากการต้อนรับ และประทับใจในศิลปะวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ นับเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว การกระจายรายได้ในภูมิภาค และสนับสนุนภาพลักษณ์อันดีของประเทศ


นางจินดารัตน์ วิริยะทวีกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผน สบน. เปิดเผยว่า ขณะนี้ สบน.อยู่ระหว่างร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พัฒนาระบบการซื้อขายพันธบัตรออมทรัพย์รัฐบาล โดยจะนำระบบบล็อกเชนมาร่วมใช้งาน เพื่อความสะดวก รวมเร็ว และทันสมัยมากยิ่งขึ้น 

“การนำระบบดังกล่าวมาใช้งานนั้นจะช่วยให้รู้จักลูกค้ามากขึ้นว่าเป็นกลุ่มลูกค้าช่วงอายุเท่าไหร่ และปัจจุบันฐานลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่ รวมถึงวงเงินที่ลูกค้าซื้อเปลี่ยนแปลงอย่างไร หากนำระบบดังกล่าวพัฒนาไปสู่ระบบโมบายได้จะทำให้สามารถแจ้งเตือนลูกค้าได้ เช่น การแจ้งเตือนกรณีที่พันธบัตรใกล้ครบกำหนดอายุไถ่ถอน เป็นต้น” นางจินดารัตน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ครบ 72 ชม. ตึก สตง.ถล่ม ไม่หยุดค้นหาผู้รอดชีวิต

ปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุตึก สตง.พังถล่ม แม้เวลาผ่านมาครบ 72 ชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่้ทุกฝ่ายยังไม่ละความพยายามในการค้นหาผู้รอดชีวิต หวังมีปาฏิหาริย์

นายกฯ สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือนภัย ลั่นยังไม่ได้ SMS แผ่นดินไหว

นายกฯ ลั่น จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับ SMS เตือนแผ่นดินไหว สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือน “กรมอุตุฯ ไป ปภ. เข้าเครือข่ายมือถือ” ไม่ต้องผ่าน กสทช. ระหว่าง รอ Cell Broadcast เต็มระบบ ก.ค.นี้